ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน36)

ซอกซอนตะลอนไป                           (13 เมษายน 2568)

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน36)

หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

ช่วงเวลาที่มีการร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญนั้น  สมาชิกของรัฐสภาส่วนใหญ่เป็นของพรรคคองเกรส  ที่มีนายเหน์รู เป็นหัวหน้า และ ตระกูลของเขาก็มีฐานะเจ้าของพรรคไปโดยปริยายในเวลาต่อมา

สืบทอดอำนาจกันมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี    

กลับมาพูดรายละเอียดของมาตรา370 กันต่อ


(แผนที่แสดงเขตจามมู  เขตแคชเมียร์ และ เขตลาดัคห์)

การซื้อขายที่ดินในรัฐจามมู แคชเมียร์ โดยเฉพาะในบริเวณหุบเขาแคชเมียร์นั้น  ถูกห้ามคนที่อาศัยอยู่ในรัฐอื่นๆของนอกเหนือจากรัฐจามมูแคชเมียร เข้ามาซื้อที่ดินในจามมูแคชเมียร 

ยิ่งไปกว่านั้น  กฎหมายนี้ยังห้ามไม่ให้คนที่อยู่ในเขตหุบเขาแคชเมียร  เช่น  ในเขตจามมู  และ เขตลาดัคห์ เข้ามาซื้อที่ดินด้วย

แม้ว่าจะอยู่ในรัฐจามมูแคชเมียร์เดียวกัน

ต้องทราบก่อนว่า  ในเขตจามมู นั้นประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวซิกห์   ในขณะที่ในเขตลาดัคห์ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ

ดังนั้น   กฎหมายมาตรา 370 จึงมีเจตนาตั้งแต่ต้นที่จะขจัดประชากรที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมออกไปจากพื้นที่หุบเขาแคชเมียร์


(ภาพการแต่งงานตามประเพณีของชาวแคชเมียร์-ภาพจากวิกิพีเดีย)

นอกจากนั้น  มาตรา 370 ยังกำหนดว่า   ผู้หญิงชาวแคชเมียร์ทุกคน   จะต้องแต่งงานกับเฉพาะคนแคชเมียร์เท่านั้น  ห้ามแต่งงานกับผู้ชายนอกรัฐเป็นอันขาด 

หากฝ่าฝืนไปแต่งงานกับคนนอกรัฐ   เธอจะถูกยึดทรัพย์สินทั้งหมดทันที  

ในกฎหมายรัฐธรรมนูญของอินเดียกำหนดให้ ทุกรัฐของอินเดียจะต้องให้สิทธิพิเศษในเรื่องตำแหน่งงานของรัฐให้แก่บุคคลที่มาจากวรรณะต่ำ เช่น วรรณะจัณฑาล   เพราะโอกาสทางสังคมของคนวรรณะต่ำเหล่านี้น้อยกว่าคนในวรรณะอื่นๆอย่างมากจนเทียบไม่ได้

แต่เป็นเรื่องน่าเศร้ามากที่ในมาตรา 370 ของอินเดีย  สิ่งเหล่านี้ถูกตัดออกไป  คงเหลือแต่สิทธิ์ของชาวมุสลิมที่เหนือกว่าผู้คนที่นับถือศาสนาอื่นๆ

เป็นเจตนาบั่นทอนชาวฮินดู ชาวซิกห์ และ ชาวพุทธ ให้มีฐานะยากจนลง 

ผมยกตัวอย่างเฉพาะที่สำคัญๆเท่านั้น  เพราะรายละเอียดอื่นๆค่อนข้างจะยุ่งยากซับซ้อน

ดูเหมือนว่า  มาตรา 370 จะมีเจตนาจะทำให้รัฐจามมู และ แคชเมียร์ กลายเป็นพื้นที่บริสุทธิ์ของชาวมุสลิม  เหมือนเจตนารมณ์ในการก่อตั้งประเทศปากีสถานของมูฮัมหมัด อาลี  จินนาห์

หลังการแยกประเทศอินเดียกับปากีสถานใหม่ๆ   ปัญหากระทบกระทั่งระหว่างสองชาติไม่ค่อยมากนัก อาจเพราะทั้งสองประเทศต่างก็วุ่นอยู่กับเรื่องการจัดระเบียบภายในประเทศของตนเองอยู่  

ยกเว้นการกระทบกระทั่งกันในเรื่องการแบ่งปันน้ำจากแม่น้ำสินธุ  เพราะเขตปัญจาบตะวันออกไปปิดกั้นน้ำของแม่น้ำสินธุที่ไหลไปยังเขตปัญจาบจะวันตก  ทำให้ปากีสถานไม่มีน้ำใช้

ปัญหาดังกล่าวยืดเยื้อนานประมาณ 5 สัปดาห์  จนทั้งสองฝ่ายยอมตกลงนั่งโต๊ะเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน

               พบกับโปรแกรม เจาะลึกอียิปต์ 10 วัน 7 คืน ของฤดูกาลปลายปีนี้  ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม เป็นต้นไป  บรรยายชมโดยผู้เชียวชาญอียิปต์ และเป็นผู้เขียนหนังสือไกด์บุ๊ค 4 เล่ม  รวมถึงไกด์บุ๊ค “อียิปต์-กรีซ-ตุรกี” สอบถามได้ที่โทร 0885786666 หรือ LINE ID – 14092498

จบความขัดแย้งนี้ไป    แต่ความขัดแย้งอื่นๆที่รุนแรงกำลังจะตามมา

พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .