ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน13)

ซอกซอนตะลอนไป                           (3 พฤศจิกายน 2567)

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน13)

ก่อนอินเดียแยกประเทศ

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

ตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาลเรื่อยลงมา   การค้าระหว่างเอเชียโดยเฉพาะประเทศจีน และ อินเดีย กับ โลกตะวันตกผ่านประเทศอัฟกานิสถานไปเปอร์เชีย  นครคอนสแตนติโนเปิล จะถึงกรุงโรม  มีความคึกคักและเจริญรุ่งเรืองมาก  มูคค่าการค้ามหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ


(พระถังซัมจั๋ง – ภาพจากวิกิพีเดีย)

เส้นทางสายนี้รู้จักกันในนาม  เส้นทางสายไหมสายทางบก   แม้แต่พระถังซัมจั๋ง ก็ยังเคยใช้เส้นทางดังกล่าวในการเดินทางไปอัญเชิญพระไตรปิฎกจากประเทศอินเดีย

พลินี่ ผู้เฒ่า(PLINY THE ELDER) นักประวัติศาสตร์ธรรมชาติชาวโรมันผู้มีชีวิตอยู่ระหว่างปี 24-79 ได้บันทึกกล่าวหาอินเดียว่า  เป็นผู้ทำให้เศรษฐกิจของโรมเสียหายอย่างหนัก

คล้ายๆกับการที่อเมริกากล่าวหาจีนในปัจจุบันนี้    

พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ  อินเดียทำให้อาณาจักรโรมันสูญเสียเงินตราจำนวนมหาศาลจากการซื้อสินค้าประเภทเครื่องเทศจากอินเดีย  และ ร่วมถึงผ้าไหมจากจีนด้วย


(พลินี่ ผู้เฒ่า – ภาพจาก BRITANNICA)

               เพราะแม้กระทั่งจูเลียส ซีซาร์ ก็ยังเคยใช้ผ้าไหมจากจีนซึ่งมีราคาแพงมากในยุคนั้นห่มเข้าไปในสภา จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า  ฟุ่มเฟือยเกินไป

แสดงให้เห็นว่า  มูลค่าการค้าขายบนเส้นทางสายนี้สูงมาก  พ่อค้าและกองคาราวานเดินทางกันขวักไขว่  ทำให้เศรษฐกิจมีความคึกคัก และ อุดมสมบูรณ์ทั้งต้นทาง ระหว่างทาง และ ปลายทาง


(เส้นทางสายไหม ทั้งทางบก และ ทางเรือ)

กลางศตวรรษที่ 7 ศาสนาอิสลามได้ถือกำเนิดขึ้นในตะวันออกกลาง ประเทศซาอุดิอารเบียปัจจุบันนี้  และ ได้แพร่ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว  นักประวัติศาสตร์ลงความเห็นว่า ที่ศาสนาอิสลามแพร่ขยายไปอย่างรวดเร็วก็เพราะ อำนาจแห่งมีดดาบ

นักรบอาหรับ อิสลามขยายพื้นที่ยึดครองข้ามไปยังตอนเหนือของอัฟริกา   ข้ามช่องแคบยิลรอลต้า ไปยังคาบสมุทรไอบีเรีย หรือ สเปนปัจจุบันนี้  จนสามารถยึดครองคาบสมุทรนี้เอาไว้ได้นานกว่า700 ปี

ชาวยุโรปเรียกอาหรับผู้ยึดครองว่า  มัวร์

สนใจอยากอ่านเรื่องราวของมัวร์ที่ยึดแผ่นดินสเปน จนชาวสเปนต้องใช้เวลานานกว่า 700 ปีในการตีโต้และยึดคืนคาบสมุทร  สามารถหาอ่านได้จากหนังสือไกด์บุ๊ค “ท่องโลกศิลปวัฒนธรรมกับเสรษฐวิทย์ เล่ม1”

ขณะเดียวกัน  นักรบอาหรับก็บุกขึ้นไปยึดเปอร์เชียของราชวงศ์ซาสซานิด  และ เปลี่ยนเปอร์เชียซึ่งเคยยิ่งใหญ่มาก่อนต้องเปลี่ยนศาสนาจากโซโรแอสเตรียนมาเป็นศาสนาอิสลามจนทุกวันนี้

จากเปอร์เชียไปทางทิศตะวันออก  ประเทศแรกที่มีพรมแดนติดกันก็คือ  อัฟกานิสถาน มีชื่อเรียกในขณะนั้นว่า แบคเทรีย(BACTRIA) และเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอินเดีย  

แบคเทรีย  คือเป้าหมายต่อไปของพวกอาหรับมุสลิม


(แผนที่อินเดีย ปากีสถาน อัฟกานิสถาน และ อิหร่าน หรือ เปอร์เชีย ในสมัยโบราณ)

ก่อนหน้านั้น  อัฟกานิสถานเป็นแผ่นดินที่ศาสนาพุทธเคยเจริญรุ่งเรืองมาก  ดังจะเห็นได้จากรูปสลักขนาดใหญ่ของพระพุทธเจ้าที่ประดิษฐานอยู่ตรงภูเขา  อย่างที่รู้จักกันในนาม  พระพุทธเจ้าแห่งบามิยัน

อิสลามเริ่มพิชิตอัฟกานิสถานได้ตั้งแต่ปี 652  โดยเริ่มตั้งแต่จังหวัด  ซารังจ์ (ZARANJ)  จากนั้นพวกมุสลิมก็ยึดอารามที่เรียกชื่อเป็นภาษาสันสกฤตว่า อาราม นาวา วิหาระ(NAVA VIHARA MONASTERY) ของชาวพุทธ แล้วดัดแปลงมาเป็นสถานที่ของมุสลิมมีชื่อว่า  นาฟ บาฮาร(NAW BAHAR) 

200 ปีหลังจากนั้น  กองทัพมุสลิมก็ยึดครองดินแดนนี้ได้ทั้งหมด  ศาสนาพุทธ และ ศาสนาฮินดู ถูกกวาดล้างออกไป  ด้วยการบังคับให้ผู้คนเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม

ที่น่าเสียใจก็คือ  บรรดาราชบุตร ผู้ปกครองอินเดียซึ่งนับถือศาสนาฮินดู และอยู่ไม่ห่างจากที่นี่เท่าไหร่นัก  ต่างก็ไม่แยแสต่อภัยคุกคามนี้เลย 

แล้ววันหนึ่ง   ภัยก็มาถึงตัว  

พบกันใหม่สัปดาห์ครับ

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .