ซอกซอนตะลอนไป (28 เมษายน 2567)
ไต้หวัน ผู้ปฎิเสธรากเหง้าตัวเอง(ตอน7)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
ล่วงเข้ามาถึงเดือนตุลาคม ปี 1930
ในวันนั้น ซึ่งเป็นวันก่อนหน้าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงในการแข็งข้อต่อรัฐบาลญี่ปุ่น โมนา รูดาโอ หัวหน้าเผ่าซีดดิค ได้จัดงานแต่งงานให้แก่ลูกชายของเขา คือ ดาโฮ โมนา ตามประเพณีของชนเผ่าที่หมู่บ้านเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง
แน่นอนว่า จะต้องมีการเชือดสัตว์หลายชนิดจำนวนมากมาเป็นอาหารเลี้ยงแขก และ มีการตระเตรียมเหล้าจำนวนมากเอาไว้ให้เมาได้อย่างเต็มคราบ
คัตซูฮิโกะ โยชิมูระ ซึ่งเป็นนายตำรวจชาวญี่ปุ่นได้ออกตรวจตราในพื้นที่ที่เขารับผิดชอบ เรื่อยมาจนถึงหมู่บ้านซีดดิค ของโมนา รูดาโอ ที่กำลังจัดงานแต่งงานกันอยู่
เจ้าบ่าว ดาโฮ โมนา ได้ยื่นแก้วเหล้าให้แก่คัตซูฮิโกะ เป็นการแสดงไมตรีเพื่อต้อนรับแขกที่มาถึงงาน แต่คัตซูฮิโกะ ปฎิเสธที่จะรับเหล้าแก้วนั้นมาดื่ม โดยอ้างว่ามือของดาโฮ เปื้อนเลือดที่เขาเชือดบรรดาสัตว์ต่างๆอยู่
ดาโฮ พยายามคะยั้นคะยอ ให้ตำรวจคัตซูฮิโกะ ดื่ม แต่ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เป็นไปอีท่าไหน หรืออาจจะเพราะตำรวจญี่ปุ่นมีทัศนคติที่ดูถูกเหยียดหยามต่อชนเผ่าเหล่านี้อยู่ก่อนแล้ว
เจ้าหน้าที่คัตซูฮิโกะ ได้ใช้ไม้กระบองประจำตัว ฟาดเข้าไปที่เจ้าบ่าวดาโฮ จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ชุลมุนต่อสู้ชกต่อยกัน
ผลปรากฎว่า เจ้าหน้าที่คัตซูฮิโกะ ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ครั้งนี้ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะชนเผ่าเหล่านี้คุ้นเคยต่อการใช้ชีวิตล้มลุกคลุกคลาน ต่อสู้กับสัตว์ป่าที่ออกล่า จึงน่าจะมีร่างกายที่แข็งแรงกว่า และ เชี่ยวชาญในการต่อสู้มากกว่าเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น
เรื่องเริ่มลุกลามบานปลาย
(หัวหน้าเผ่า โมนา รูดาโอ -ภาพจากวิกิพีเดีย)
หัวหน้าเผ่า โมนา รูดาโอ พ่อของเจ้าบ่าว พยายามติดต่อเพื่อขอโทษต่อเจ้าหน้าที่คัตซูฮิโกะ ด้วยการยกเอาเหล้าที่หมักในถังขนาดใหญ่ไปขอโทษถึงที่บ้าน
แต่คัตซูฮิโกะ ปฎิเสธด้วยท่าทีไม่เป็นมิตร ทำให้ความรู้สึกถูกกดดันของชนเผ่าซีดดิค ที่มีมาเป็นเวลานานมาถึงจุดที่เกินจะรับได้
เรื่องนี้อาจจะยากที่จะเข้าใจ เพราะเกี่ยวข้องกับประเพณีและวัฒนธรรม ความเชื่อของชนเผ่า และ ในแง่มุมของศักดิ์ศรี เกียรติยศของชนเผ่า ที่ผู้คนในยุคนี้ซึ่งห่างจากเหตุการณ์นั้นเกือบ 100 ปีจะเข้าใจได้อย่างเห็นภาพ
สถานการณ์ยังดูเหมือนปกติ จนกระทั่งวันที่ 27 ตุลาคม ปี 1930 ชาวญี่ปุ่นจำนวนหลายร้อยคน ซึ่งไม่ชัดเจนว่าเป็นทหาร หรือ ตำรวจ หรือ ประชาชนเท่านั้น ได้มารวมตัวกันที่โรงเรียนประถมมูสยาจิ ในเมืองวูเชอะ
ว่ากันว่า เพื่อจะมาร่วมกันทำกิจกรรมแข่งขันกีฬากัน ประมาณนี้
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตามในสัปดาห์หน้าครับ
