ซอกซอนตะลอนไป (14 เมษายน 2567)
ไต้หวัน ผู้ปฎิเสธรากเหง้าตัวเอง(ตอน5)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
วันที่ 26 มิถุนายน ปี 1895 หลิว ยง ฟู ประธานาธิบดีคนที่ 2 ของสาธารณรัฐฟอร์โมซา ตั้งฐานที่มั่นอยู่ทางใต้ของเกาะไต้หวันที่เมืองไถหนาน ถือเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐด้วย
จากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ญี่ปุ่นเองก็หนักใจกับการวางแผนเข้ายึดครองเมืองไถหนาน เพราะประเมินว่าไม่น่าจะง่าย คงจะมีข้อมูลเข้ามาก่อนหน้านี้แล้วว่า การต่อต้านของประชาชนชาวไต้หวันทางภาคใต้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
กองทัพญี่ปุ่นจึงตัดสินใจชะลอการบุกเมืองไถหนาน เพื่อรอกำลังเสริมที่แข็งแกร่งกว่ามาสมทบ
เดือนตุลาคม กองกำลังเสริม 2 กอง กองแรกมาจากแมนจูเรีย และกองกำลังที่ 4 จากจังหวัดโอซากา ที่มีเจ้าชายฟูชิมิเป็นผู้บัญชาการก็ยกพลขึ้นบกทางทิศเหนือของเกาะ กำลังของทั้งสองหน่วยมีจำนวนรวมกัน 5,460 คน เพื่อปฎิบัติภารกิจยึดเมืองไถหนาน ฐานกำลังสำคัญของนักรบกองโจรของไต้หวัน
กองกำลังที่สองของญี่ปุ่นที่มีกำลังพล 6,330 คน ก็ยกพลขึ้นบกทางด้านใต้ของเมืองไถหนาน จากนั้น ทั้งสองกองกำลังก็เดินทัพเข้ามาบรรจบกันที่เมืองไถหนาน
กองทัพญี่ปุ่นที่มีกำลังรวมกันประมาณ 2 หมื่นคน บุกเข้าประชิดเมืองไถหนานจาก 3 ทิศทาง หลิว ยง ฟู ประธานาธิบดี คนที่ 2 ของสาธารณรัฐฟอร์โมซา เห็นท่าไม่ดี จึงหนีกลับแผ่นดินใหญ่
กองทัพญี่ปุ่นใช้เวลาไม่นานนัก ก็สามารถบีบจนกองกำลังชาวไถหนาน ต้องประกาศยอมแพ้อย่างไร้เงื่อนไข ยอมแม้กระทั่งคุกเข่าคำนับต่อทหารญี่ปุ่น ว่าจะยอมรับญี่ปุ่นให้เป็นผู้ปกครองไต้หวันต่อไปในอนาคต
ถือเป็นการยอมแพ้อย่างไร้ศักดิ์ศรีอย่างที่สุด
การพ่ายแพ้ของชาวไต้หวันที่เมืองไถหนาน ถือเป็นจุดหักเหสำคัญในการต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่น เพราะหลังจากนั้น การต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่นก็เป็นไปแบบไร้ระบบ และ ไร้กำลังพลที่พียงพอ และไม่อาจพิจารณาได้ว่าเป็นความพยายามขับไล่กองทหารญี่ปุ่นออกไปจากไต้หวัน
กระนั้นก็ตาม ก็ยังเกิดการลุกฮือก่อการกบถอยู่เรื่อยๆ แต่ครั้งใหญ่ๆมีอยู่สองครั้ง ครั้งแรกเรียกว่า การกบถที่วัดซีไหล ในเมืองไถหนาน
กบถที่วัดซีไหล เริ่มด้วยการโจมตีสถานีตำรวจหลายแห่งของญี่ปุ่นพร้อมๆกัน เป็นการรวมกำลังระหว่างบรรดานักสู้ชาวจีนฮั่น และชนพื้นถิ่นหลายเผ่า และชนเผ่าหนึ่งที่มีชื่อว่า ชนเผ่าไทวอน(TAIVOAN TRIBE) มาร่วมด้วย
นักวิชาการเชื่อว่า ชื่อของเกาะไต้หวันน่าจะมีที่มาจากชื่อของชนเผ่า “ไทวอน” นี้เอง
กบถครั้งนี้ล้มเหลวอีกครั้ง ประมาณว่ามีคนพื้นถิ่นถูกสังหารไปกว่า 1,400 คน ที่เหลือถูกจับกุมตัวแล้วส่งไปคุมขังที่คุกของเมืองไถหนาน ถือเป็นกบถครั้งร้ายแรงที่สุดอีกครั้งหนึ่งของไต้หวันต่อญี่ปุ่น
สิ่งที่น่าสนใจของการก่อกบถครั้งนี้ก็คือ กองกำลังที่ร่วมในการก่อการกบถมีความเชื่อว่า ตัวเองเป็นพวกหนังเหนียว ที่ศาสตราวุธสมัยใหม่ไม่อาจระคายผิวได้ คล้ายกับความเชื่อของกองกำลังกบถนักมวย (BOXER REBELLION) ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนในยุคของราชวงศ์ชิง ประมาณปลายศตวรรษที่ 19 ต่อเนื่องต้นศตวรรษที่ 20
แต่นักรบชนเผ่าคงหนังไม่เหนียวจริง จึงพ่ายแพ้ในที่สุด
หลังจากนั้น ชาวจีนฮั่นก็ถอนตัวออกไปจากขบวนการก่อการแข็งข้อต่อกองทัพญี่ปุ่น คงเหลือแต่เพียงชนชาวพื้นถิ่นที่ยังคงยืนหยัดต่อสู้ต่อไป
ถือเป็นการก่อกบถโดยใช้อาวุธที่ร้ายแรงอีกครั้งหนึ่งของไต้หวัน
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ