ซอกซอนตะลอนไป (10 ธันวาคม 2566)
ทฤษฎีพิสวงอียิปต์โบราณ (ตอน1)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
จนกระทั่งปัจจุบันนี้ อียิปต์ยังเต็มไปด้วยปริศนาที่ท้าทายการตอบคำถามในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง คนในยุคเกือบ 5 พันปีที่แล้วสร้างพีระมิดอย่างไรในขณะที่เครื่องไม้เครื่องมือ และ เทคโนโลยี่ในยุคนั้น (ด้วยสายตาของคนในยุคปัจจุบัน) ยังไม่สามารถรองรับวิธีการก่อสร้างได้
แม้กระทั่งเครื่องมือง่ายๆอย่างเช่น รอกทดแรงก็ยังไม่มี เพราะรอกทดแรงถูกคิดค้นในอียิปต์ในราวพันปีเศษหลังจากนั้น
ทำให้เกิดการคาดเดาต่างๆนานา รวมทั้งทฤษฎีวิธีการสร้างที่ถูกนำเสนอกันมากมาย บางทฤษฎีก็ดูเหมือนจะหลุดโลกไปด้วยซ้ำ เช่น การส่งหินน้ำหนักอย่างน้อย 2.5 ตันขึ้นไปสู่ความสูงระดับ 150 เมตรด้วยท่อน้ำ จนกระทั่ง คาดเดาว่ามนุษย์ต่างดาวเป็นคนสร้างไปโน่น
ดร.ซาฮี ฮาวาส อดีตรัฐมนตรีประจำกิจการโบราณวัตถุของอียิปต์ เคยเขียนเอาไว้ โดยประมาณว่า
“หากใครอยากมีชื่อเสียงโด่งดังชั่วข้ามคืน ก็ให้ลองมาเที่ยวอียิปต์ แล้วนำเสนอทฤษฎีอะไรก็ได้สักทฤษฎีหนึ่ง หากโดนใจคนอ่านละก้อ รับรองดังแน่นอน”
นอกจากทฤษฎีก่อสร้างแล้ว ยังมีเรื่องราวนิยายประเภทเหนือจินตนาการ และ ไร้การพิสูจน์อีกมากมาย ตั้งแต่เรื่องมหัศจรรย์ภายในห้องเก็บศพของพีระมิดองค์ที่ 1 เช่น หากเอามีดทื่อๆไปไว้ในห้องเก็บศพจะทำให้มีดกลับมีคมขึ้นมาได้ หากเอาเนื้อสดไปไว้ในห้องเก็บศพ เนื้อจะไม่เน่า เป็นต้น
แต่ไม่มีการยืนยันแนวคิดดังกล่าว
คราวนี้ มาถึงเรื่องของสฟิงซ์ตัวใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้าของพีระมิดองค์ที่ 2 ของฟาโรห์เคฟเฟรน (KHAFRE หรือ KHEFREN) สฟิงซ์ตัวนี้ตั้งอยู่ตรงจุดนี้มาเกือบ 4500 ปีแล้ว
ตามข้อสันนิษฐานของนักโบราณคดีที่ได้รับการยอมรับก็คือ สฟิงซ์ตัวนี้ถูกแกะสลักออกมาจากภูเขาที่เหลือเศษจากการสะกัดไปทำพีระมิด ดังนั้น สฟิงซ์จึงเป็นเนื้อเดียวกันกับพื้นที่ตั้งอยู่
หากสังเกตดูให้ดีจะเห็นว่า สฟิงซ์ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่ต่ำกว่าพื้นที่โดยรอบที่เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปยืนชมทั้ง 4 ด้านประมาณ 4-5 เมตร ราวกับว่า สฟิงซ์นอนหมอบอยู่ในอ่างสี่เหลี่ยมประมาณนั้น
มีบางคนเสนอความคิดว่า หากลงไปตามช่องเล็กๆข้างเท้าซ้ายของสฟิงซ์ ก็จะพบกับอุโมงค์ยาวเหยียดมีขนาดใหญ่เป็นเมืองใต้ดินเลยทีเดียว
แต่ก็ไม่การยืนยันด้วยภาพถ่าย หรือ ภาพเคลื่อนไหวของการลงข้างล่าง
บางคนตั้งข้อสงสัยว่า บนหัวของสฟิงซ์ มีช่องที่เจาะลึกลงไป น่าจะเป็นช่องที่สามารถนำไปสู่จุดต่างๆใต้ดิน หรือ อาจจะไปยังขุมทรัพย์ต่างๆได้อีก
ไปกันใหญ่
แต่เรื่องทั้งหมด ไม่มีใครสามารถยืนยันด้วยหลักฐานวัตถุพยานได้เลย จึงเป็นเพียงคำบอกเล่าต่อๆกันมา เหมือนกันเรื่องมัมมี่ที่โผล่ขึ้นมาจากหลุมทรายดูด หรือ คำสาปฟาโรห์ของตุตันคามุน และ ฟาโรห์องค์อื่นๆ ที่ล้วนเป็นเรื่องเล่าที่กุขึ้นอย่างไร้ความจริงด้วยประการทั้งปวง
หรือแม้กระทั่ง ที่มีคนไทยให้ข่าวว่า ได้ซื้อของโบราณที่วางขายริมถนนมาจากอียิปต์ เมื่อเอามาถึงบ้าน ก็ปรากฎว่า วิญญาณของเจ้าของวัตถุโบราณนั้นได้ตามมาทวงคืน
เป็นเรื่องที่กุขึ้นมาอย่างไร้ข้อเท็จจริง เหตุผลประการแรก ของโบราณที่ขายอยู่ริมถนนนั้น ล้วนเป็นของทำเทียมขึ้นมาเพื่อขายให้แก่นักท่องเที่ยว เพราะบรรดาของแท้ทั้งหลาย ถูกพวกค้าของเก่าเอาออกไปนอกประเทศไปหมดแล้ว
ของโบราณแบบที่ว่านี้ อิบบราฮิม เพื่อนของผมที่เป็นคนขายของที่ระลึกก็เคยให้ผมมามากมายเป็นกระเป๋าเลยครับ ก็ยังไม่มีใครตามมาทวงคืนจากผมเลย
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ
ท่านที่สนใจจะร่วมเดินทางเจาะลึกอียิปต์ กับผม ระหว่างวันที่ 7-16 กุภาพันธ์ 2567 สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทร 0885786666 หรือ LINE ID – 14092498