ซอกซอนตะลอนไป (13 สิงหาคม 2566)
คฑาแห่งอำนาจ-จากอียิปต์โบราณสู่อินเดียปัจจุบัน(ตอน4)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
เมื่อยุโรปเข้าสู่ยุคมืด หลังการล่มสลายของอาณาจักรโรมันกรุงโรมในปีค.ศ. 476 ทำให้แผ่นดินยุโรปกลายเป็นแผ่นดินที่ไร้ซึ่งกฎระเบียบ และ ผู้รักษากฎหมาย ความวุ่นวาย จลาจล ปล้นสะดมภ์เกิดขึ้นทั่วไป เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ศาสนาคริสต์ค่อยๆเติบโตขึ้นเป็นลำดับ
ประชาชนรู้สึกว่า ไม่มีความมั่นคงในเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง จึงหันไปหาความมั่นคงทางด้านจิตใจแทน ซึ่งก็คือ ศาสนาคริสต์ที่กำลังแข็งแกร่งมากขึ้นทุกวันที่มีศูนย์กลางอยู่ที่โรม นอกเหนือจากศาสนาคริสต์ดั่งเดิมนิกายออร์โธดอกซ์ที่เติบโตในนครคอนสแตนติโนเปิล
ผู้นำศาสนาคริสต์ในโรม ที่เรียกว่า สันตะปาปา ได้รับการเคารพในสถานะคนกลาง หรือ ตัวเชื่อมระหว่างพระผู้เป็นเจ้าบนสวรรค์ กับ มนุษย์โลก แต่ปัญหาก็คือ สันตะปาปาไม่มีอำนาจทางทหารหนุนหลัง จึงมีการวางแผนร่วมมือกันระหว่างสันตะปาปา กับ ผู้นำของอาณาจักรแฟ้งค์ คือ ชาร์เลอมาญ เพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน
ข้อตกลงที่จะเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันก็คือ สันตะปาปา ซึ่งถืออำนาจแห่งสวรรค์จะทำพิธีสวมมงกุฎเพื่อสถาปนาให้กษัตริย์ชาร์เลอมาญ เป็นกษัตริย์ตามบัญชาแห่งสวรรค์
แลกเปลี่ยนกับการที่กองทัพของชาร์เลอมาญ จะต้องให้การปกป้องศาสนจักร และ สันตะปาปา กองทัพดังกล่าวถูกเรียกขานในเวลาต่อมาว่า จักรวรรดิ์โรมันอันศักดิ์สิทธิ์
พิธีสวมมงกุฎแห่งจักรวรรดิ์โรมันอันศักดิ์สิทธิ์เกิดขึ้นในปีค.ศ. 800
จะเห็นว่า แนวคิดในเรื่องกษัตริย์เป็นผู้ได้รับบัญชาจากสวรรค์ให้มาปกครองโลกมนุษย์ที่มีต้นกำเนิดมาจากอียิปต์โบราณ ได้รับการขยายความต่อยอดอีกครั้งในยุโรป
แม้ว่ากษัตริย์ของอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ จะทรงอำนาจยิ่งใหญ่เพียงใดก็ตาม ก็ยังต้องค้อมหัวคุกเขาต่อหน้าสันตะปาปาอยู่ดี
ดังนั้นในบางช่วงเวลา ความขัดแย้งระหว่างจักรพรรดิ์ และ สันตะปาปา จึงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนั้นมีตั้งแต่ขัดแย้งเล็กน้อยจนกระทั่ง สันตะปาปา ต้องใช้อำนาจสูงสุดของพระองค์ออกคำสั่ง “คว่ำบาตร” ต่อจักรพรรดิ์
ส่วนใหญ่จะลงเอยด้วยชัยชนะของสันตะปาปา
เป็นบทสรุปว่า อำนาจแห่งศาสนจักรอยู่เหนืออำนาจแห่งอาณาจักร เพราะแม้กระทั่ง จักรพรรดิ์นโปเลียน ที่ 1 (NAPOLEON I) หรือ นโปเลียน โบนาปาต ยังต้องขอให้สันตะปาปา ไพอุส ที่ 7 (POPE PIUS VII) ทำพิธีราชาพิเษภ และ สวมมงกุฎให้ที่วิหารโน๊ต เตรอ ดาม(NOTRE DAME DE PARIS) ในปีค.ศ. 1804
แต่นโปเลียน ก็ไปไม่ถึงความฝันอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ที่ต้องการจะเป็นจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เพราะจักรพรรดิโจเซฟที่ 2 แห่งราชวงศ์ฮับส์เบิร์ก ชิงประกาศสลายอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิเสียก่อนในปีค.ศ. 1806
ว่ากันว่า เพื่อไม่ให้นโปเลียนได้ดำรงตำแหน่งจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง
จักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมันฯ จะถือคฑา เพื่อยืนยันอำนาจที่พระองค์ถืออยู่ กระนั้นก็ตาม บนปลายยอดของคฑา ก็ยังจะต้องมีเครื่องหมายกางเขนติดตั้งอยู่
นอกเหนือจากคฑาแล้ว ก็ยังมีลูกโลกที่มีเครื่องหมายกางเขนอยู่บนลูกโลกประกอบเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องราชฯอีกด้วย
สนใจเดินทางท่องเที่ยวแบบเจาะลึกอียิปต์ กับผม ที่เน้นการบรรยายชมอย่างละเอียด ระหว่างวันที่ 19-28 ตุลาคม นี้ และ ในทุกเดือนต่อๆไป ติดต่อสอบถาม และ สำรองที่นั่งได้ที่ โทร 0885786666 หรือ LINE ID – 14092498
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ