นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกไล่ออกจากห้องเช่า เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า(ตอน3)

ซอกซอนตะลอนไป                           (21 สิงหาคม 2565)

นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกไล่ออกจากห้องเช่า  เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า(ตอน3)

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               หลังจากหมดวาระ 13 วันของการเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการของนายกุลจาริลาล นันดา  สภาผู้แทนราษฎร(LOK SABHA)ก็ได้ลงมติเลือกนายลัล บาฮาดูร์ ชาสตรี(LAL BAHADUR SHASTRI)  เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ปีค.ศ.1964

               สมาชิกส่วนใหญ่ของสภาในวันนั้นสังกัดพรรคคองเกรส


(พรมแดนที่มีปัญหาระหว่างอินเดีย และ ปากีสถาน-ภาพจากวิกิพีเดีย)

               วันที่ 1 สิงหาคม ปีค.ศ. 1965 เกิดการปะทะกันของทหารของอินเดีย และ ปากีสถาน ที่เพิ่งแยกตัวออกเป็นอิสระหลังจากอินเดียประกาศเอกราชจากอังกฤษ  ความขัดแย้งมีพื้นฐานมาจากดินแดนแคชเมียร   ทหารของอินเดียสามารถรุกเข้าไปในปากีสถานจนใกล้เมืองลาฮอร์ ที่อยู่ทางเหนือของประเทศ

               หลังจากนั้นไม่ถึงสองเดือน  สหประชาชาติก็ออกคำสั่งให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิง  ทำให้สงครามสงบลงเมื่อวันที่ 23 กันยายน

               หลังจากสงครามสงบลงแล้ว  นายลัล บาฮาดูร์ ชาสตรี และ อายุบ ข่าน (AYUB KHAN) ประธานาธิบดีของปากีสถาน  ก็เข้าร่วมประชุมสุดยอดที่เมืองทัชเค้นต์(TASHKENT) ซึ่งตอนนั้นอยู่ภายใต้ร่มของสหภาพโซเวียต แต่ปัจจุบันนี้ก็คือ ประเทศอุซเบกิสถาน(UZBEKISTAN) เพื่อลงนามในสนธิสัญญาสงบศึกแห่งทัชเค้นต์ ในวันที่ 10 มกราคม ปีค.ศ. 1966

               เรื่องที่ไม่คาดฝัน และ เขย่าโลกก็เกิดขึ้น

               วันรุ่งขึ้นคือวันที่ 11 มกราคม ปีค.ศ.1966  นาย ลัล บาฮาดูร์ ชาสตรี เกิดเสียชีวิตกระทันหันในตอนเช้า

               ไม่มีการเปิดเผยสาเหตุการเสียชีวิตของเขา ภรรยาและครอบครัวของ นายชาสตรี ไม่เชื่อในถ้อยแถลงของรัฐบาลที่บอกว่า  เขาเสียชีวิตจากโรคหัวใจ

               แต่ภรรยาของเขาปักใจเชื่อว่า   นาย ลัล บาฮาดูร์ ชาสตรี เสียชีวิตเพราะถูกวางยาพิษ

               กระแสข่าวที่แพร่กระจายไปทั่วต่างก็เชื่อในคำพูดของภรรยาของนายชาสตรี ว่าเขาถูกวางยาพิษ  เพราะก่อนหน้าที่เขาจะลงนามในสนธิสัญญานั้น  เขาบอกว่า  จะมีข่าวใหญ่ที่จะแถลงให้ประชาชนชาวอินเดียได้ทราบ  และเป็นข่าวที่ช็อคความรู้สึกอย่างยิ่ง


(เนตาจี สุภาพ จันทระ โบส- ภาพจากวิกิพีเดีย)

               แต่เขาไม่มีโอกาสได้แถลง

               กระแสวงในเชื่อกันว่า  ข่าวที่เขาตั้งใจจะแถลงนี้น่าจะเป็นเรื่องราวของ เนตาจี สุภาษ จันทระ โบส(NETAJI SUBHAS CHANDRA BOSE) นายทหารนักกู้ชาติรุ่นเดียวกับ คานธี และ เนห์รู   แต่เป็นคนละสายกัน  ซึ่งต่อมาเกิดความขัดแย้งจนไม่อาจประสานได้อีก ทำให้ เนตาจี สุภาษ จันทร โบส ถูกจับไปคุมขัง  จนต้องแอบหนีออกนอกประเทศไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น

               ในครั้งนั้น  เนตาจี สุภาษ จันทระ โบส ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยด้วยเพื่อขอให้สนับสนุนรัฐบาลของเขา  และรัฐบาลไทยโดย นายควง อภัยวงศ์ ก็ให้การรับรองรัฐบาลของ เนตาจี สุภาษ จันทระ โบส ด้วย  


(หนังสือพิมพ์ของญี่ปุ่น รายงานข่าวการเสียชีวิตของ เนตาจี สุภาษ จันทระโบส จากอุบัติเหตุเครื่องบินตก)

               หลังจากนั้นก็มีข่าวว่าเครื่องบินที่ เนตาจี สุภาษ จันทร โบส โดยสารไปประสบอุบัติเหตุตกที่ไต้หวันจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ปีค.ศ. 1945

               แต่ประชาชนชาวอินเดีย ไม่เคยเชื่อว่าเขาเสียชีวิตในอุบัติเหตุครั้งนั้น

               แม้กระทั่งทุกวันนี้   ชาวอินเดียจำนวนมากเชื่อว่า สุภาษ จันทระ โบส แอบซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง  บ้างก็เชื่อว่า  เขาได้กลายเป็นนักบวชที่ปลีกวิเวกไปแล้ว


(ลัล บาฮาดูร์ ชาสตรี  กับ ละลิตา ภรรยา – ภาพจากกูเกิ้ล)) 

               แต่ภรรยาของ ชาสตรี เชื่อว่า  สามีของนางกำลังจะเปิดเผยว่า สุภาษ จันทระ โบส ยังมีชีวิตอยู่  และ อาศัยอยู่ที่ไหนสักแห่ง  หากเขาเปิดเผยเรื่องนี้ออกมา  จะสะเทือนถึงความมั่นของพรรคคองเกรสที่กำลังปกครองประเทศอินเดียอยู่ในขณะนั้น 

               จึงต้องมีการลอบสังหาร

               ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร   รัฐสภาของอินเดียก็เดินหน้าต่อเพื่อลงมติเลือกให้ นาย กุลจาริลาล  นันดา เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงเปลี่ยนผ่านอีกครั้ง เป็นครั้งที่สอง และมีเวลาอยู่ในตำแหน่งแค่ 13 วัน  

ชะตาช่างผลิกผันจริงๆ

               พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ

ผมจะนำคณะทัวร์ไปเจาะลึกอินเดีย กุจราฐ โอดิสสา และ กอลกัตตา อินเดีย   ระหว่างวันที่ 16-23 ตุลาคม พ.ศ. 2565  ท่านที่สนใจจะร่วมเดินไปกับผมสามารถติดต่อได้ที่ โทร 0885786666

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .