ซอกซอนตะลอนไป (17 กรกฎาคม 2565)
จริยธรรมตระกูลตาต้า ส่งผลสะเทือนวงการบินในอินเดีย(ตอน1)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
ท่านผู้อ่านที่ติดตามเรื่องราวของตระกูลตาต้า ที่ผมเขียนไป 11 ตอน คงจะทราบถึงจริยธรรมของตระกูลนี้เป็นอย่างดี ว่าเขาไม่ใช่พ่อค้าที่หวังผลกำไรสูงสุดเพียงอย่างเดียว เพราะพวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบประชาชนชาวอินเดียทั้งประเทศอย่างมากในห่วงโซ่ทางธุรกิจในระบบทุนนิยม
แต่ตระกูลตาต้า จะเน้นขยายธุรกิจของตนเองออกไปต่อสู้ในต่างประเทศ เพื่อนำเอาผลผลิตของคนในชาติออกไปสู่ตลาดโลก
ไม่ใช่วิธีการปิดประตูตีแมวด้วยราคา และ วิถีธุรกิจที่ตัวเองได้เปรียบทุกอย่าง และ ยังพร้อมที่จะเปลี่ยนกติกาใดๆก็ตามให้ตัวเองได้เปรียบมากขึ้น
ธุรกิจการบินก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ตระกูลตาต้าบุกเบิกขึ้นมา จนกลายเป็นธุรกิจที่มีกำไร และ กำลังจะแผ่ขยายอาณาเขตออกไปสู่ต่างประเทศอย่างกว้างขวาง
(เจ อาร์ ดี ตาต้า (ซ้าย) ผู้ก่อตั้งสายการบินแอร์อินเดีย และ เฝ้าฟูมฟักสายการบินแอร์อินเดีย แข็งแกร่งขึ้นมา กับ เยาวหะลาล เนห์รู (ขวา) บันทึกในยุคหลังบอกว่า มันคือการปล้นครั้งยิ่งใหญ่ของเนห์รู ต่อ นักธุรกิจตาต้า)
แต่แล้วนักการเมืองอย่างนายกรัฐมนตรีเยาวหะราล เนห์รู นายกรัฐมนตรีคนแรกของอินเดียก็ประกาศยึดกิจการสายการบินแอร์อินเดียของตระกูลตาต้ามาเป็นของรัฐในปีค.ศ.1953 หรือ พ.ศ. 2496 ทำให้ตระกูลตาต้าต้องกลืนเลือดในอกด้วยความชอกช้ำ
และแล้ว สายการบินแอร์อินเดีย ภายใต้การบริหารแบบรัฐการของอินเดียก็นำพาเอาแอร์อินเดียลงสู่อเวจีแห่งหายนะอย่างไร้ทางเยียวยา เพราะขาดทุนสะสมมากมายมหาศาล
รัฐบาลอินเดียโดยนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี จากพรรค BJP ซึ่งเป็นพรรคตรงข้ามกับพรรคคองเกรสของตระกูลคานธี ก็ประกาศขายสายการบินให้แก่เอกชนมาประมูลไป
วันที่ 27 มกราคม ปีค.ศ. 2022 ตระกูลตาต้าก็ประกาศว่า ได้ประมูลซื้อกิจการสายการบินแอร์อินเดียเสร็จสิ้นเรียบร้อย ด้วยยอดเงิน 180,000 ล้านรูปี หรือ ประมาณ 9 หมื่นล้านบาทโดยประมาณ
ตระกูลตาต้า เข้าบริหารสายการบินแอร์อินเดีย นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
(แอร์อินเดีย ในวันที่กลับคืนสู่อ้อมกอดของตระกูลตาต้าอีกครั้ง ภายใต้การบริหารงานของ ราทาน ตาต้า)
ราทาน ตาต้า ผู้บริหารของบริษัทในเครือตาต้า ได้ออกมาประกาศให้ความมั่นใจแก่พนักงานทุกคนว่า จะไม่มีการปลดพนักงานอีก และ จะไม่มีการลดเงินเดือนพนักงานแต่จะเพิ่มเงินเดือนให้แก่พนักงานด้วย เพราะเล็งเห็นว่า เงินเดือนที่บริษัทแอร์อินเดียเก่าเคยจ่ายให้แก่พนักงานนั้น ไม่เพียงพอที่จะรักษาพนักงานที่มีความรู้ความสามารถเอาไว้กับองค์กรได้ และ พนักงานที่ยังทำงานอยู่ในแอร์อินเดียเก่า ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกที่เข้ามาด้วยเส้นสายที่ทำงานไปวันๆอย่างไร้ประสิทธิภาพ
คำประกาศของราทาน ตาต้า เป็นเหมือนน้ำชะโลมใจพนักงานของแอร์อินเดียเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งเป็นที่จับตาของสายการบินคู่แข่งทุกสายที่มองดูว่า แอร์อินเดียจะมีทิศทางในอนาคตอย่างไร
(สายการบิน แอร์อินเดีย)
สำหรับผู้ที่เคยใช้บริการของสายการบินแอร์อินเดีย ในสมัยที่ยังอยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาลอินเดียนั้น คงจะทราบดีว่ามันแย่ขนาดไหน ทั้งการบริการ และ การตรงต่อเวลา
สายการบินแอร์อินเดียขยับตัวก้าวเท้าก้าวแรกในวงการบินอินเดีย ด้วยการประกาศรับสมัครพนักงานจำนวนมาก ตั้งแต่กัปตันผู้ควบคุมเครื่องบิน ผู้ช่วยกัปตัน และ บรรดาพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
และกำหนดให้วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม ปีพ.ศ. 2565 เป็นวันสอบสัมภาษณ์แบบไม่ต้องนัดล่วงหน้าของผู้สมัครทั้งหมดที่อาคารสำนักงานของบริษัทตาต้าในเมืองใหญ่ทั้ง 5 เมืองคือ เดลี , กอลกัตตา , มุมไบ , แบงกาลอร์ และ ไฮเดอร์ราบาด
ท่านผู้อ่านคงอยากทราบแล้วว่า เกิดอะไรขึ้นในวันนั้น
ผมจะนำคณะทัวร์ไปเจาะลึกอินเดีย กุจราฐ โอดิสสา และ กอลกัตตา อินเดีย ซึ่งจะบรรยายชมด้วยความรู้ทั้งหมดที่ผมมีอย่างละเอียด ระหว่างวันที่ 16-23 ตุลาคม พ.ศ. 2565 ท่านที่สนใจจะร่วมเดินไปกับผมสามารถติดต่อได้ที่ โทร 0885786666
สัปดาห์หน้าผมจะมาเล่าต่อครับ รับรองว่ามันจะเป็นดรามา ที่หักมุมจนใครๆก็คาดไม่ถึงแน่นอน
