ซอกซอนตะลอนไป (12 ธันวาคม 2564)
อันเนื่องมาแต่ผ้าอนามัย 2 รูปี(ตอน2-จบ)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
สาเหตุที่ผมสนใจในตัว อัคชัย กุมาร ส่วนหนึ่งเพราะเขาเคยเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯนานถึง 5 ปีเพื่อเรียนมวยไทย จนได้นำเอาวิชาที่เรียนไปใช้ในการแสดงภาพยนต์ในอินเดีย และกลายเป็นดาราหนังบู๊ระดับแนวหน้าของอินเดียไปเลย
(มิถุน จักกราโบธี -ภาพจากวิกิพีเดีย)
เขาเป็นดาราที่จ่ายภาษีสูงที่สุดหนึ่งในสามคนของอินเดียในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา อันประกอบด้วย มิถุน จักกราโบธี , ซัลมาน ข่าน และ อัคชัย กุมาร
(ซัลมาน ข่าน- ภาพจากวิกิพีเดีย)
แต่ที่ผมสนใจมากเป็นพิเศษก็คือ ชื่อของเขา “อัคชัย กุมาร” เพราะเป็นชื่อของโอรสของทศกัณฐ์ในมหากาพย์ “รามเกียรติ์” ที่ชาวฮินดูให้ความเคารพ
(อัคชัย กุมาร)
ความสนใจในตัว อัคชัย กุมาร อีกอย่างหนึ่งก็คือ ในเมื่อชาวฮินดูให้ความเคารพในตัวพระราม (LORD RAMA) แล้ว ทำไม จึงเอาชื่อของโอรสของทศกัณฐ์ ซึ่งเป็นศัตรูของพระราม และ เป็นฝ่ายมาร มาตั้งชื่อให้ลูกของตนเอง
ก่อนอื่นขอเล่ารายละเอียดของตระกูลทศกัณฐ์เสียก่อน ทศกัณฐ์(RAVANA) มีชื่อเดิมว่า ดะชานานา (DASHANANA) ที่แปลว่า อสูรผู้มี 10 หัว ซึ่งเมื่อถูกถ่ายทอดมาเป็นภาษาไทยจึงเรียกว่า ทศกัณฐ์ ที่แปลว่า ผู้มี 10 คอ เพื่อความเข้าใจที่ง่ายกว่า
ทศกัณฐ์ มีลูก 6 คน แต่ที่เด่นที่สุดก็คือ อัคชัยกุมาร(AKSHAYAKUMARA) และ อินทรชิต(INDRAJIT) ซึ่งมีอีกชื่อหนึ่งว่า เมกานาดา (MEGHANADA)
(หนุมาน ตอนที่มาพบ นางสีดา ในสวน อโสก วาติกา เพื่อถวายแหวนของพระราม)
ตอนที่หนุมาน ทำลายสวน อโศก วาติกา (ASHOK VATIKA) ซึ่งเป็นสวนในกรุงลงกาของทศกัณฐ์ ที่หนุมาน ได้พบกับนางสีดาเป็นครั้งแรก เพื่อบอกข่าวของพระราม
ทศกัณฐ์ จึงส่ง อัคชัยกุมาร ให้ไปยับยั้ง และ สังหารหนุมานเสีย
ขณะนั้น อัคชัยกุมาร อายุเพียง 16 ปีเท่านั้น
แม้ว่าอายุยังน้อย แต่เมื่อบิดาสั่งให้ไปปฎิบัติภารกิจ อัคชัยกุมาร ก็รับไปปฎิบัติอย่างเต็มใจ แม้ว่าอาจจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม เพราะศัตรูของเขาก็คือ หนุมาน ที่แข็งแกร่งมาก
หนุมาน เห็นว่า อัคชัยกุมาร ยังเด็ก จึงไม่ต้องการทำร้ายเขา และบอกให้กลับไปหลายต่อหลายครั้ง แต่อัคชัยกุมาร ยืนยันว่าจะต้องต่อสู้กับหนุมาน ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม
หนุมาน จึงจำใจต้องสังหารอัคชัยกุมาร
อัคชัยกุมาร จึงได้รับการเคารพ ยกย่อง ในจิตใจที่กล้าหาญ มีคุณธรรม พร้อมที่จะตอบแทนคุณบิดา แม้ว่าจะต้องตอบแทนด้วยชีวิตก็ตาม ซึ่งชาวฮินดูนับถือในเรื่องจริยธรรมนี้อย่างมาก
จึงทำให้ชื่อ อัคชัยกุมาร เป็นชื่อของตัวแทนแห่งคุณธรรมชั้นสูงของชาวฮินดู เพราะแม้เขาจะอยู่ฝ่ายอสูร แต่คุณธรรมของเขาสูงส่งมากราวกับคุณธรรมของเทพทีเดียว ชาวฮินดูจำนวนมากจึงตั้งชื่อลูกชายของตัวเองว่า อัคชัยกุมาร ในความหมายว่า ผู้มีคุณธรรม จริยธรรมที่สูงส่ง
พี่ชายของ อัคชัยกุมาร มีชื่อว่าอินทรชิต หรือ เมกานาดา ซึ่งชื่อหลังเป็นภาษาสันสกฤต แปลว่า เมฆบนท้องฟ้า ต่อมาภาษาไทยได้ยืมคำนี้มาใช้ว่า “เมฆ” ที่แปลว่า ไอน้ำที่กลั่นตัวลอยอยู่ในท้องฟ้า
(ภาพเขียน โดย RAJA RAVI VARMA ตอนที่เมกานาดา กลับมาจากทำสงครามชนะพระอินทร์ – ภาพจากวิกิพีเดีย)
แต่เนื่องจากวรรณคดีเรื่อง “รามเกียรติ์” เรามักจะเรียกเพียงชื่อ อินทรชิต จึงทำให้ชื่อ เมกานาดา ไม่ค่อยได้รับการพูดถึง
(เมกาวาตี ซูกาโนบุตรี – ภาพจาก GETTY)
“เมฆ” ปรากฎบนชื่อของชาวอินโดนีเซีย ชาติที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนาฮินดู และ ภาษาสันสกฤตอย่างมาก เช่น เมกาวาตี ซูกาโนบุตรี (MEGAWATI SUKARNOPUTRI) ธิดาของ ประธานาธิบดี ซูการ์โน ประธานาธิบดีคนแรกของอินโดนีเซีย
ธรรมเนียนของชาวอินโดนีเซีย จะไม่มีนามสกุลถาวรที่จะสืบทอดต่อๆลงไปแบบของไทย หรือ จีน หากแต่จะเอาชื่อของบิดาของตัวมาใช้เป็นนามสกุลแทน เช่น ซูการ์โนบุตรี แปลว่า ธิดาของซูการ์โน
ชื่อของนางเมกาวาตี มีที่มาจากภาษาสันสกฤตว่า เมฆวดี (MEGHAVATI) ที่แปลว่า (นางผู้)มีเมฆ ผู้ตั้งชื่อให้นางก็คือ บิจู ปัตนาแอค (BIJU PATNAIK) นักการเมืองชื่อดังในยุคต่อสู้เพื่ออิสรภาพของอินเดีย ตามคำร้องขอจาก นายซูการ์โน ผู้บิดา
บิจู ปัตนาแอค ตั้งชื่อให้เธอว่า เมกาวาตี เพราะตอนที่ เธอเกิดนั้น มีฝนตก
ในโอกาสหน้า ผมจะเล่าเรื่องราวชีวิตของ บิจู ปัตนาแอค ผู้ช่วยชีวิตของประธานาธิบดี ซูการ์โน และ ทารก เมกาวาตี ซูกาโนบุตรี ซึ่งน่าสนใจมากครับ
พูดถึงเรื่อง อัคชัยกุมาร ไหงมาลงท้ายด้วยชื่อของ เมกาวาตีได้นะ
เดือนมกราคมปีหน้า ผมจะเดินทางเจาะลึกรัฐกุจราฎ และ รัฐโอดิสสา ที่ผมเคยเขียนเรื่องราวของทั้งสองรัฐไปแล้ว ท่านที่สนใจจะเดินทางร่วมกัน เชิญติดต่อได้ที่เบอร์โทร 0885786666 หรือ LINE ID – 14092498
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ
