ซอกซอนตะลอนไป (26 สิงหาคม 2561 )
ย้อนเวลา 4 พันปี อียิปต์โบราณ ที่ซัคคารา(ตอน 1)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
เมื่อไปชมเมืองโบราณเมมฟิส ซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของอียิปต์โบราณที่มีอายุกว่า 5000 ปีแล้ว ที่จะพลาดชมไม่ได้เป็นรายการต่อไปก็คือ พีระมิดแบบขั้นบันได ที่ซัคคารา
(พีระมิดแบบขั้นบันไดที่ซัคคารา)
แน่นอนว่า ความสำคัญของพีระมิดแห่งซัคคารา นั้นอยู่ที่ มันเป็นสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ที่ทำด้วยหินเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์อียิปต์โบราณ
พีระมิดแห่งนี้เองที่กลายเป็นรากฐานในการสร้างพีระมิดแบบฉาบเรียบ 3 องค์ที่เมืองกีซ่าในเวลาต่อมา หากไม่รู้จักพีระมิดแบบขั้นบันไดที่นี่ก่อน ก็ยากที่จะเข้าใจที่มาของพีระมิดแห่งกีซ่าได้
พีระมิดขั้นบันไดที่ซัคคารา สร้างโดยฟาโรห์ซอร์เซอร์(DJOSER) ของราชวงศ์ที่ 3 จากยุคอาณาจักรเก่า ในราว 2650 ปีก่อนคริสตกาล หรือประมาณ 4500 ปีที่แล้ว
แต่สิ่งที่ผมประทับใจมากๆเมื่อไปที่ซัคคาราก็คือ มัสตาบา
มัสตาบา คืออะไร

(โครงสร้างของ มัสตาบา ที่ลึกลงไปใต้ดินก็คือ ห้องเก็บศพ – ภาพจากวิกิพีเดีย)
มัสตาบา ก็คือ สุสานของฟาโรห์ในยุคแรกๆ หรือ ของขุนนางชั้นสูงของอียิปต์โบราณ โดยที่เขาจะสร้างเป็นอาคารทำด้วยหินทรงสี่เหลี่ยมครอบลงไปบนหลุมฝังศพที่ขุดลึกลงไปในดิน
มัสตาบา ที่น่าชมที่ซัคคารามีอยู่ด้วยกัน 2 แห่ง คือ มัสตาบา ของ คาเกมนิ(KA GEMNI) จากราชวงศ์ที่ 6 และ มัสตาบาของ แมรีรุคคา(MERERUKA) จากราชวงศ์ที่ 6 เช่นกัน

(มัสตาบา ที่ซัคคารา )
ราชวงศ์ที่ 6 ของอียิปต์โบราณ ถือเป็นช่วงปลายของยุคพีระมิด และ กำลังเข้าสู่ยุคเสื่อมของฟาโรห์ ก่อนที่จะล่มสลายกลายเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจของผู้ปกครองในราชวงศ์ที่ 7
ทั้งสองมีตำแหน่งเป็น นายกรัฐมนตรี(VISIER) ในยุคนั้น จึงถือว่าเป็นบุคคลสำคัญ ซึ่งไม่น่าแปลกใจที่เขาจะมีสุสานที่สร้างอย่างสวยงามในแบบของมัสตาบา ด้วย
วันนี้ เราจะเข้าไปชม มัสตาบา ของ คาเกมนิ กัน

(รูปสลักภายในมัสตาบา ซึ่งเป็นภาพของ คาเกมนิ )
คาเกมนิ แต่งงานกับพระธิดาของฟาโรห์ เตติ (TETI) ทำให้สถานะของเขามีความแข็งแกร่ง และ มีความมั่นคงมาก นอกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว เขายังได้รับตำแหน่งที่สูงส่งหลายตำแหน่ง อาทิ เจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลท้องพระคลังทองคำ และ เป็นผู้ควบคุมดูแลท้องพระคลังสมบัติอื่นๆอีกด้วย
นอกจากนี้ เขายังมีตำแหน่งเป็น หัวหน้านักบวชของวิหารแห่งเทพรา(RA) และ วิหารแห่งเทพมิน(MIN) ซึ่งสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยให้แก่เขาเป็นอย่างยิ่ง
ตามผนังภายในมัสตาบา จะมีภาพสลักบนหินปูน บันทึกเรื่องราวของผู้เป็นเจ้าของสุสานว่า ในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่เคยทำอะไรบ้าง

(รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เช่น ฮิปโปฯ กำลังกัดหัวของจระเข้ เป็นสิ่งที่ศิลปินในยุคนั้นบันทึกเอาไว้)
ถ้าเทียบกับในยุคปัจจุบันนี้ก็คงประมาณหนังสือแจกงานศพ หรือไม่ก็ อัลบั้มภาพถ่ายเก่าๆของผู้ตายนั่นเอง
มัสตาบาที่ผมเข้าไปบ่อยก็ คือ มัสตาบา ของคาเกมนิ ซึ่งยังมีสีสันที่ลงเอาไว้ตั้งแต่ยุคเมื่อ 4 พันปีที่แล้วให้เห็นอย่างชัดเจน
จุดแรกที่เราจะได้เห็นก็คือ ภาพสลักนูนต่ำที่แสดงให้เห็นวิถีชีวิตของชาวอียิปต์ในยุคนั้นคือ การจับสัตว์น้ำในแม่น้ำไนล์ ซึ่งน่าจะยังมีความอุดมสมบูรณ์อย่างยิ่ง

(ภาพคนงาน หรือ คนรับใช้ของคาเกมนิ กำลังจับสัตว์น้ำจากแม่น้ำไนล์ โดยที่คนหน้าสุดจะเปลือยกาย แต่สวมวิกผม)
ภาพสลักทำให้เราได้เห็นว่า บรรดาคนงานบนเรือที่ทำหน้าที่จับปลาด้วยเครื่องมือต่างๆนั้น ปกติจะมีผ้าชิ้นเล็กๆปิดอวัยวะท่อนล่างเอาไว้คล้ายๆกางเกงของมวยปล้ำซูโม่ แต่บางคนก็เอาผ้าที่ปิดท่อนล่างขึ้นมาพันไว้ที่หน้าอกแทน เข้าใจว่า คงไม่ต้องการให้ผ้าเปียก
ที่น่าสนใจก็คือ คนงานทุกคนจะสวมวิกผม แสดงว่า วิกผม มีใช้กันมานานตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณกว่า 4 พันปีที่แล้ว

แต่ อียิปต์ ยังมีอะไรที่เกินจินตนาการของคนยุคนี้อีกเยอะ หากสนใจจะร่วมเดินทางเจาะลึกอียิปต์กับ ไวท์ เอเลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่ ซึ่งมีทัวร์ไปอียิปต์ทุกเดือน เดือนละกรุ๊ป ก็สามารถติดต่อได้ที่โทร 02 651 6900 หรือ 088 578 6666 หรือ ID Line 14092498
หรือจะเข้าไปดูในเว็บไซต์ ที่ www.whiteelephanttravel.co.th ก็ได้ครับ
สำหรับเดือนกันยายนนี้ จะออกเดินทางวันที่ 13 – 22 กันยายน ครับ ผมจะเป็นผู้บรรยายชมทุกกรุ๊ป
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ