ทริปชิมอาหารอร่อย(2)
สัมผัสความเป็นญี่ปุ่น
ทันทีที่เข้าสู่ที่นั่งชั้นบิสซิเนส ของสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอาย และ บริการแบบญี่ปุ่นทันที
เจ้าหน้าที่บริการของสายการบิน หรือ ที่เรียกว่า แอร์โฮสเตส เป็นผู้หญิงทั้งหมด ทั้งชาวญี่ปุ่น และ ชาวไทย แต่จากกิริยาท่าทางของเธอเหล่านั้น แทบจะแยกไม่ออกเลยว่า คนไหนเป็นคนไทย คนไหนเป็นคนญี่ปุ่น
ทุกคนรูปร่างผอมบางแบบผู้หญิงญี่ปุ่นในวัยทำงาน ไม่มีแอร์ที่อ้วนตุ๊แบบสายการบินไทยเลยแม้แต่คนเดียว
ทันทีที่มาถึงที่นั่ง พนักงานบริการ ก็รีบเข้ามาขอเสื้อแจ็กเก็ตที่ผมกำลังจะเอาขึ้นไปวางในชั้นวางของเหนือศรีษะ เพื่อเอาไปเก็บในตู้เสื้อผ้าให้ โดยไม่ต้องขอบัตรที่นั่งเพื่อเอาไปเสียบกับไม้แขวนเสื้อเหมือนที่ทุกสายการบินนิยมทำกัน
นี่คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของสายการบินเจแปน แอร์ไลน์
ผมนอนตื่นสาย หลังจากที่เขาเสริฟอาหารเช้าไปแล้ว และพนักงานก็ไม่ปลุกผม เนื่องจากผมสั่งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนว่า ถ้าผมไม่ตื่น ก็ไม่ต้องปลุกให้ลุกขึ้นมารับประทานอาหารเช้า
แต่ผมเกิดอยากทานอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นขึ้นมา เพราะดูในเมนูแล้วรู้สึกว่าดี ก็เลยทดลองขอดูด้วยความเกรงใจ พนักงานก็กระวีกระวาด ยิ้มแย้มแจ่มใสรีบจัดการให้ โดยไม่แง่งอนว่า เมื่อคืนนี้ผมสั่งอาหารแบบตะวันตกเอาไว้ก่อนที่จะนอน
อาหารเช้าแบบญี่ปุ่นไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ มีความหลากหลาย และสะท้อนความเป็นญี่ปุ่นออกมาอย่างชัดเจน
ชุดแรกจะเสริฟในลักษณะแบบ เบนโตะ หรือ แบบปิ่นโต ประกอบด้วยชิ้นละอันพันละน้อย และ อาหารจานหลัก ซึ่งเป็นปลาซัลมอน ที่ผมชอบ
ตามด้วยซุปมิโสะ ล้างคอปิดท้ายด้วยความประทับใจ
ทริปนี้ เราจะพักกันที่โรงแรมอิมพีเรียล ที่อยู่ตรงกันข้ามกับพระราชวังอิมพีเรียล และไม่ไกลจากย่านธุรกิจ และ ย่านช้อปปิ้งชื่อดัง ที่เรียกว่า ย่านกินซ่า
เมื่อพนักงานต้อนรับที่รอพบเราที่ประตูทางออกของผู้โดยสารพาเรามาจนถึงรถตู้ที่จอดรออยู่ เขาช่วยยกกระเป๋าขึ้นรถ แล้วเลื่อนประจูปิด จากนั้น รถก็เคลื่อนออก
เป็นประเพณีนิยมที่น่าชื่นชมของญี่ปุ่น ที่พนักงานต้อนรับของโรงแรม หรือ พนักงานรับผู้โดยสารทุกแห่งจะต้องยืนโค้งคำนับผู้โดยสารบนรถไปจนกว่ารถจะแล่นไปจนลับสายตา
มารยาทแบบนี้ ต้องถือว่า เหนือกว่าประเพณีไทยเล็กน้อย
(ภาพที่มองลงมาจากรถ จะเห็นเจ้าหน้าที่โค้งคำนับอย่างอ่อนน้อมจนกว่ารถจะแล่นไปจนลับสายตา)
เมื่อมาถึงโรงแรมอิมพีเรียล ก็ได้รับการต้อนรับอย่างมีระเบียบแบบแผน และสุภาพสุดๆตามแบบของญี่ปุ่นทุกประการ
สังเกตเห็นว่า ทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่รีเซฟชั่นจะเดินกลับเข้าไปด้านหลัง หรือ เดินออกมาทำงานที่เคาต์เตอร์ เขาจะต้องโค้งคำนับให้แขกของโรงแรมที่อยู่หน้าเคาต์เตอร์ทุกครั้งไป ทำเหมือนเป็นหุ่นยนต์เลยทีเดียว
เช่นเดียวกับพนักงานเสริฟในห้องอาหาร “เทมปุระ” ของโรงแรมที่มีเสริฟอย่างสุภาพ และ มีประสิทธิภาพ อาหารทุกจานจัดทำอย่างประณีต สด และ หวานตามธรรมชาติ เช่น หอยเชลล์ และ ปลาทอด
ที่แปลกตาก็คือ กระดูกปลาไหลทอดกรอบ ซึ่งไม่ค่อยเห็นที่ไหน
มื้อนี้ราคา 60000 เยนหรือ 18000 บาท สำหรับ 3 คน โดยรวมผมคิดว่า ยังไม่ผ่าน ไม่ค่อยคุ้มค่าราคาเท่าไหร่นัก ไม่มาทานที่นี่ ก็ไม่ได้ขาดอะไร
รออ่านตอนต่อไปครับ
