ซอกซอนตะลอนไป (1 เมษายน 2561 )
คอนสแตนติโนเปิล กับ สงครามครูเสดครั้งที่ 4(ตอน1)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
สัปดาห์ที่แล้ว ผมมีโอกาสนำนักท่องเที่ยวของบริษัท ไวท์ เอเลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่ จำกัด เดินทางเจาะลึกตุรกี – ดินแดนสองฝั่งทวีป ซึ่งนำชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ตามเส้นทางที่เคยผ่านการยึดครองของกรีก และ โรมัน ตามแนวเส้นชายฝั่งทะเลอีเจียน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของตุรกี
แล้วเราก็มาถึง อีสตันบุล หรือ นครคอนสแตนติโนเปิล ของอาณาจักรโรมันไบแซนไทน์ในอดีต ผมนำคณะเดินมาถึงฮิปโปโดรม หรือ สนามแข่งรถม้าของพวกโรมันโบราณ ก็เลยต้องเล่าประวัติศาสตร์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับ สงครามครูเสด , ฮิปโปโดรม และ โบสถ์ เซนต์ โซเฟีย

(ฮิปโปโดรม หรือ สนามแข่งรถม้าของยุคโรมัน ซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายอันเป็นผลจากนักรบครูเสด ครั้งที่ 4)
สงครามครูเสด ที่ผมพูดถึงก็คือ สงครามครูเสดครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นสงครามครั้งที่แสนอัปยศที่สุดของนักรบเพื่อศาสนาคริสต์
สงครามครูเสดเริ่มขึ้นในปีค.ศ. 1095 จนกระทั่งปีค.ศ. 1270 โดยประมาณ เริ่มจากที่สันตะปาปาเออร์บัน ที่ 2 (POPE URBAN II) ได้ออกมาเรียกร้องให้ชาวคริสต์ทั้งมวลไปยึดนครเยรูซาเล็ม และ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งประกอบด้วย จอร์แดน อิสราเอล ปาเลสไตน์ เลบานอน และ ซีเรีย กลับคืนมาจากการยึดครองของนักรบมุสลิม
สงครามครูเสด กินเวลายาวนานเกือบ 200 ปี และเป็นสงครามประมาณ 7-8 ครั้ง แต่ในที่นี้ ผมจะขอพูดถึงเฉพาะสงครามครูเสดครั้งที่ 4 เท่านั้น
ข้อเท็จจริงก็คือ ในบรรดาสงครามครูเสดทั้งหมด 7-8 ครั้งนั้น มีเพียงสงครามครูเสดครั้งที่ 1 เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง คือ มีผู้ร่วมเดินทางไปรบกันอย่างมากมายล้นหลาม ตั้งแต่ระดับกษัตริย์ จนกระทั่งบรรดาอัศวิน และ ชาวบ้านธรรมดาๆ
และที่สำคัญก็คือ สามารถยึดครองเยรูซาเล็มกลับคืนมาจากการยึดครองของพวกเติร์ก เซลจุก ที่นับถือศาสนาอิสลามมาได้ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เยรูซาเล็มก็กลับคืนไปอยู่ในมือของชาวมุสลิมอีกครั้ง

(เยรูซาเล็ม ดินแดนที่แย่งชิง ฆ่าฟันกันมาช้านาน)
หลังจากสงครามครั้งที่หนึ่งแล้ว สงครามครูเสดก็แทบจะเรียกได้ว่า ไม่ประสบความสำเร็จใดๆเลย ที่แย่ที่สุดก็คือ สงครามครูเสด ครั้งที่ 4 ที่ถือเป็น “หายนะ” แห่งเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของนักรบครูเสด และ ศาสนาคริสต์ออร์โธดอกซ์
นักรบเหล่านี้ เลือกที่จะเดินทางออกจากยุโรปโดยทางเรือ จำนวนมากเลือกที่จะมาลงเรือกันที่เกาะเวนิส ซึ่งเป็นรัฐที่มีความเข้มแข็ง และ มีสามารถในการสร้างเรือ และ การเดินเรือ
แรกทีเดียว คาดกันว่ากองกำลังที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้จะมีจำนวนมากถึง 3 หมื่นคนเศษ และม้าอีกประมาณ 4500 ตัว ผู้นำนักรบครูเสดจึงต้องว่าจ้างให้เวนิสต่อเรือเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก
แต่พอเอาเข้าจริง จำนวนผู้เดินทางที่ออกจากเวนิสกลับลดน้อยลงอย่างมาก เพราะนักรบส่วนหนึ่งเปลี่ยนใจไปเดินทางจากเมืองอื่นๆแทน อาจเป็นเพราะเหตุนี้ เงินที่เตรียมมาเพื่อจ่ายเป็นค่าเรือ และ ค่าเดินเรือจึงไม่ครบตามจำนวนที่ตกลงไว้ก่อน
กองเรือของนักรบครูเสด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวฝรั่งเศส กำหนดเดินทางออกจากท่าเรือเมืองเวนิสในเดือนตุลาคม ปีค.ศ. 1202 แต่เมื่อไม่สามารถจ่ายเงินได้ครบตามที่ตกลงคือ 85,000 มาร์กเหรียญเงิน

(พระราชวังของ ดอจ แห่งเวนิส ผู้ปกครองสูงสุดของเวนิส)
ดอจ(DOGE) ของเวนิส ซึ่งมีฐานะเหมือนประธานาธิบดีในปัจจุบันนี้ ไม่ยอมให้เรือออกเดินทางจากเวนิสเด็ดขาด หากไม่สามารถจ่ายเงินได้ครบ
เมื่อมาถึงทางตันแบบนี้ นักรบครูเสด ซึ่งมีเจตนาจะไปทำสงครามเพื่อศาสนา ก็ต้องเปลี่ยนบทบาทของตัวเองไปในบัดดล ด้วยการเสนอว่า พวกเขาจะทำการปล้นเมืองที่อยู่ตามรายทางเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเรือให้แก่เมืองเวนิสให้ได้
ภารกิจบาป บนเส้นทางแสวงบุญ จึงเริ่มขึ้น

(เมืองซาดาร์ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเวนิส – ภาพจากเว็บไซต์)
เมืองที่คราวซวยมาเยือนเป็นเมืองแรกก็คือ เมืองซารา(PORT OF ZARA) หรือ เมืองซาด้าร์(ZADAR) ที่อยู่ในประเทศโครเอเชียปัจจุบันนี้
เมื่อก้าวแรกผิด ก้าวต่อไปก็ยากที่จะเดินให้ถูกทาง เหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร กรุณารอ่านต่อไปตอนต่อไปในสัปดาห์หน้า
สำหรับท่านที่สนใจจะเดินทางไปเจาะลึก อียิปต์ และ เจาะลึกตุรกี ร่วมกับผม เชิญสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร 02 651 6900 หรือ 088 578 6666 หรือ ID Line 14092498
สวัสดีครับ