ซอกซอนตะลอนไป (23 กรกฎาคม 2560 )
แคทเธอรีน แห่ง เมดิชี่ กับ รองเท้าส้นสูง(ตอน1)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
ขอเปลี่ยนบรรยากาศจากอียิปต์ มาเป็นอิตาลีบ้างครับ
สำหรับท่านที่เคยเดินทางไปยุโรป เชื่อว่าทุกคนจะต้องเคยเดินทางมาเยือนเมืองฟลอเรนซ์ กันแล้ว เพราะฟลอเรนซ์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นทัสคานี ได้รับฉายาว่า เมืองหลวงแห่งโลกศิลปะ
ผมเคยพาคณะทัวร์ของ ไวท์ เอเลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่ ไปชมเมืองฟลอเรนซ์ และชม งานศิลปะชั้นยอดที่ พิพิทภัณฑ์ อุฟฟิซี่ และ อะคาเดมี่ ออฟ เดอะ ไฟน์ อาร์ต หลายต่อหลายหน หากสนใจโทรสอบถามได้ที่ 088 578 6666 หรือ ID LINE 14092498
ฟลอเรนซ์ เป็นเมืองเก่าแก่มาตั้งแต่ยุคโรมัน แต่ที่มีชื่อเสียงโดดเด่นมากก็เห็นจะเป็นยุคเรอเนสซองส์ ที่เมืองเจริญรุ่งเรืองด้วยศิลปะ การค้า และ เศรษฐกิจ ที่ผลักดันโดยตระกูลพ่อค้ายิ่งใหญ่ที่มีชื่อว่า ตระกูลเมดิชี่(MEDICI FAMILY)
แต่ที่จะพูดถึงในบทความนี้ จะเน้นที่แคทเธอรีน แห่ง เมดิชี่(CATHERINE DE MEDICI) เป็นหลัก แม้ว่าเรื่องราวของตระกูลเมดิชี่ จะมีความน่าสนใจอยากมากก็ตาม ไว้โอกาสหน้าจะนำเรื่องราวของตระกูลเมดิชี่มาเล่าสู่กันฟังครับ
แคทเธอรีน (เกิด 13 เมษายน ปีค.ศ. 1519) เป็นธิดาของ ลอเรนโซ ที่ 2 แห่งเมดิชี่ ท่านดยุ๊คแห่งเออร์บิโน(LORENZO II DE MEDICI , DUKE OF URBINO) ซึ่งเป็นหลานปู่ของ ลอเรนโซ ผู้ยิ่งยง(LORENZO THE MAGNIFICENT) บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ ของอิตาลี และ ฟลอเรนซ์
(เออร์บิโน เป็นบ้านเกิดของ ราฟาเอล ซานติ(RAPHAEL SANZIO) ศิลปินเอกของโลกในยุคเรอเนสซองส์ของอิตาลี)
เนื่องจากบิดา ของแคทเธอรีน เสียชีวิตหลังจากเธอคลอดได้เพียง 21 วัน และมารดาก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงแทบจะเรียกว่า ไม่อาจหาใครมาดูแลเธอได้อย่างจริงจัง เธอจึงถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำในคอนแวนต์ของแม่ชีเพื่อศึกษาเล่าเรียนที่นั่น
เมื่อเธออายุได้ 14 ปี สมควรที่จะมีครอบครัวได้แล้ว แคทเธอรีน จึงถูกจัดสรรด้วยพ่อสื่อแม่ชัก ให้มาแต่งงานกับ เฮนรี่ ดยุ๊ค แห่งออร์ลิออง(HENRY DUKE OF ORLEANS) โอรสของพระเจ้าฟรองซัวร์ ที่ 1 (FRANCIS I) กษัตริย์ แห่งฝรั่งเศส ผู้ซึ่งมีบทบาทอย่างมากในยุโรปในยุคนั้น
และพระองค์ก็เป็น ผู้อุปถัมภ์คนสำคัญในช่วงปลายของชีวิตของ ลีโอนาร์โด ดาวินชี่(LEONARDO DA VINCI) ศิลปินเอกอีกคนหนึ่งของยุคเรอเนสซองส์ของอิตาลี เจ้าของภาพวาด โมนาลิซา ที่โด่งดัง และ ทำให้ภาพวาดโมนาลิซา ของ ลีโอนาร์โด ดาวินชี่ ไปตกอยู่ในมือของฝรั่งเศส แทนที่จะอยู่ในอิตาลี จนทุกวันนี้
ที่ผมบอกว่า เมื่ออายุได้ 14 ปี สมควรจะมีครอบครัวได้แล้วนั้น เป็นข้อเท็จจริงของยุโรปในยุคสมัยนั้นที่ผู้หญิงจะแต่งงานกันที่อายุประมาณ 13-14 ปี หากปล่อยให้เนิ่นนานไปกว่านี้ เลยไปสักอายุ 17 ปี สังคมยุคนั้นถือว่า แก่แล้ว เกรงจะหาสามีไม่ได้ เตรียมเข้าไปอยู่หมู่บ้านคานทองนิเวศน์แน่นอน
แม้ว่า แคทเธอรีน จะเติบโตมาจากตระกูลเมดิชี่ ซึ่งเป็นครอบครัวที่ทรงอิทธิพลที่สุดตระกูลหนึ่งของฟลอเรนซ์ และ ฟลอเรนซ์ในยุคนั้น ก็เจริญรุ่งเรืองไม่น้อยกว่าเมืองใดๆในยุโรปก็ตาม
แต่การไปแต่งงานกับเจ้าชาย ผู้เป็นรัชทายาทของ พระเจ้าฟรังซัวร์ ที่ 1 ของฝรั่งเศส จากตระกูล วาลัวส์(HOUSE OF VALOIS) ก็เป็นเรื่องที่น่าหวาดหวั่นไม่น้อยกว่า พจมาน สว่างวงศ์ หิ้วชะลอมเดินเข้าไปในบ้านทรายทอง ยังไงยังงั้นเลยทีเดียว
เพราะในอนาคตอีกไม่ช้าไม่นาน นางรู้ดีว่า สามีในอนาคตของนางก็จะมีตำแหน่งเป็นกษัตริย์แห่งฝรั่งเศส และนางก็จะได้เป็นราชินีแห่งฝรั่งเศสตามไปด้วย
การแต่งงานครั้งนี้ จึงเป็นการแต่งงานไปเพื่อเป็นราชินีของฝรั่งเศส ของคนฝรั่งเศสทั้งประเทศที่เฝ้าจับตามองเธอ
จะว่าไป แคทเธอรีน เองก็คงจะรู้สึกว่า ตัวเองมีปมด้อยอยู่พอสมควร เนื่องจากเธอเป็นเด็กสาวที่ตัวเล็ก ผอมบางมาก และผิวขาวจนซีด
จากบันทึกของทูตจากเมืองเวนิส ที่ไปร่วมในพิธีสมรสของแคทเธอรีน เขียนไว้ว่า
“แคทเธอรีน มีรูปร่างเล็ก และผอมบางมากจนน่ากลัวว่าจะหักกลาง ไม่ได้มีความสะสวยแบบผู้หญิง และมีดวงตาที่โปนออกมา ผิดไปจากบรรดาสมาชิกของตระกูลเมดิชี่คนอื่นๆ”
ว่ากันว่า แคทเธอรีน มีความสูงไม่ถึง 150 เซนติเมตรด้วยซ้ำ ซึ่งถือว่าเป็นผู้หญิงที่เตี้ยมากคนหนึ่งในยุคนั้น ทั้งนี้อาจเป็นเพราะ เธอขาดอาหารที่ดีมาตั้งแต่ยังเด็ก จึงทำให้การเจริญเติบโตไม่เต็มที่
การเป็นผู้หญิงเตี้ย คงจะเป็นเรื่องบั่นทอนความมั่นใจของเธอพอสมควร เธอจึงเริ่มคิดวิธีเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ตัวเอง
พบกันใหม่สัปดาห์หน้านะครับ