คำสาปฟาโรห์(ตอน3)

ซอกซอนตะลอนไป                           (16 กรกฎาคม 2560 )

คำสาปฟาโรห์(ตอน3)

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               การค้นพบสุสานของตุตันคามุน เป็นเรื่องที่คนทั้งโลกตื่นเต้นเป็นที่สุด  เพราะเป็นการค้นพบสุสานที่ยังมีข้าวของเครื่องใช้ และ โลงศพรวมทั้งมัมมี่ของฟาโรห์ยังอยู่ครบถ้วน

               หลังจากนั้น  ทั้งโลกก็สนุกสนานกับข่าวคราวทั้งที่เป็นเรื่องจริง และเป็นเรื่องแต่งเติมอย่างสนุกสนานเกี่ยวกับเรื่องคำสาบของฟาโรห์ 

               สร้างความหวาดหวั่น และ ความเข้าใจในทางลบเกี่ยวกับหลุมฝังศพของฟาโรห์ไปทั่วว่า  ใครก็ตามที่เข้าไปในสุสานของฟาโรห์แล้ว  จะต้องมีอันเป็นไปอย่างไม่คาดคิดทุกคน


(หุบผากษัตริย์  และทางเข้าสุสานของตุตันคามุน)

               จนบางครั้งมีคณะผู้เดินทางไปเที่ยวอียิปต์กับผม  ถามผมเกี่ยวกับคำสาปฟาโรห์ดังกล่าว  ซึ่งผมก็ต้องอธิบายให้ฟัง  ตามแบบที่ผมจะเล่าให้ท่านผู้อ่านอยู่ขณะนี้

               สนใจจะร่วมเดินทางไปอียิปต์แบบเจาะลึก ล่องเรือสำราญ กับผม  เรามีทริปเดือนกันยายน , พฤศจิกายน และ ธันวาคม  สนใจติดต่อ โทร 026516900 หรือ  0885786666 หรือ ID LINE 14092498

               ในวันที่ 29 พฤศจิกายน ปีค.ศ. 1922 อันเป็นวันเปิดสุสานครั้งแรก มีผู้เข้าไปในสุสานกันทั้งหมด 58 คน  ในจำนวน 58 คนนี้  มีเพียง 8 คนเท่านั้นที่เสียชีวิตภายใน 12 ปีแรกหลังจากวันเปิดสุสาน  ที่เหลืออีก 50 คนก็ยังมีชีวิตต่อมา และมีสุขภาพแข็งแรงดีจนกระทั่งเสียชีวิต


(นาทีประวัติศาสตร์ของการเปิดโลงศพไม้ชั้นนอกของ ตุตันคามุน)

               คนแรก ที่เสียชีวิตก็คือ ท่านลอร์ด คาร์นาร์วอน ตามที่ผมได้เล่าไปในตอนที่แล้ว 

               แต่ก็มีการเล่าขานอีกว่า   ก่อนหน้าการตายของลอร์ด คาร์นาร์วอน เพียง 2 สัปดาห์  นิตยสาร นิวยอร์ค เวิร์ลด์ ได้ตีพิมพ์จดหมายของผู้หญิงคนหนึ่งนามว่า มารี คอเรลลี(MARIE CORELLI) ซึ่งได้เขียนพยากรณ์ว่า   

               “จะมีการลงโทษอย่างรุนแรง ต่อผู้ที่บังอาจบุกรุกสุสานของฟาโรห์ ตุตันคามุน”


(ด้านหน้าของห้องเก็บศพ และ โลกศพทองคำของตุตันคามุน จะมีหุ่นยามสองตัวยืนเฝ้าอยู่)

               สื่อมวลชนตื่นข่าวนี้กันขนานใหญ่  และ ช่วยกันกระพือข่าวต่อไป  และเต้าข่าวด้วยการรายงานว่า  มีคำสาปในสุสานของฟาโรห์ตุตันคามุน   ทั้งๆที่ไม่มีมูลความจริงอยู่เลย   

               ยิ่งเมื่อลอร์ด คาร์นาร์วอน มาเสียชีวิตหลังจากเปิดสุสานเพียง 4 เดือนเศษ  คำสาปฟาโรห์ ยิ่งดูเป็นเป็นจริงเป็นจังมากขึ้นเรื่อยๆ   


(หน้ากากทองคำของตุตันคามุน น้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัม เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดมา)

               หลังจากลอร์ด คาร์นาร์วอนแล้ว  คนต่อมาที่เสียชีวิตก็คือ จอร์จ เจย์ กูลด์ ที่ 1(GEORGE JAY GOULD I)  เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ปีค.ศ. 1923 หรือประมาณ 6 เดือนหลังการเปิดสุสาน สาเหตุการตายก็คือ  เริ่มจากเป็นไข้และเสียชีวิตในที่สุด


(ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่ตุตันคามุนเคยใช้  ถูกฝังไว้ในสุสาน เพื่อให้พระองค์เอาไปใช้ในโลกหน้า)

               อีก 2 เดือนต่อมา  เจ้าชาย อาลี คาเมล ฟาห์มี เบย์(PRINCE ALI KAMEL BEY) ของอียิปต์ ก็เสียชีวิตเพราะถูกภรรยาสังหารด้วยอาวุธปืน   หลังจากนั้นในเดือนกันยายนปีเดียวกัน  ออเบรย์ เฮอร์เบิร์ต(AUBREY HERBERT)  ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของลอร์ด คาร์นาร์วอน ก็เสียชีวิตจากโรคโลหิตเป็นพิษ อันเป็นผลมาจากการทำฟัน

               วันที่ 15 มกราคม ปีค.ศ. 1924 หรือ ประมาณ 2 ปีหลังการเปิดสุสาน  ท่านเซอร์ อาร์ชิบาล์ด ดักกลาส-รีด(SIR ARCHIBALD DOUGLAS-REID) ซึ่งเป็นนักรังสีวิทยา ผู้ทำการเอ็กซ์เรย์มัมมีของตุตันคามุน ก็เสียชีวิตจากโรคที่ไม่สามารถระบุได้ 


(โลงศพที่ทำด้วยไม้ที่อยู่นอกสุดจำนวน 4 ชั้น  ปิดด้วยทองคำแกะสลักเป็นรูปเทพีไอซิส กับ เทพีเนฟธิส กำลังกางปีกออกปกป้องศพของฟาโรห์ที่อยู่ข้างใน)

               ยังมีผู้เสียชีวิตอีกหลายคนในปีถัดๆมา  บางคนถูกลอบสังหาร  , บางคนถูกวางยาพิษ  ,  บางคนเสียชีวิตเพราะโรคมาเลเรีย  , บางคนเสียชีวิตบนเตียงด้วยข้อสันนิษฐานว่า  ถูกกดปากและจมูกจนหายใจไม่ออกตาย  , บางคนเสียชีวิตจากการกระโดดลงมาจากตึกอพาร์ตเมนต์  เหล่านี้เป็นต้น 

               แต่โฮเวิร์ด คาร์เตอร์ นักโบราณคดีผู้นำในการขุดค้นสุสานแห่งนี้ กลับมีชีวิตยืนยาวมาอีก 16 ปี  กว่าที่จะเสียชีวิต

               คำสาปฟาโรห์ มีจริงหรือไม่  และ อะไรเป็นสาเหตุการตายที่แปลกๆของคนบางคน

               นักเขียนอย่าง ท่านเซอร์ อาร์เธอร์ โคนาน ดอยล์(SIT ARTHUR CONAN DOYLE) ผู้เขียนนวนิยายสืบสวนสอบสวนเรื่อง เชอร์ล็อค โฮล์มส์ ได้ให้ความเห็นว่า  การตายของท่านลอร์ด คาร์นาร์วอน น่าจะเกิดจากสารบางอย่างที่นักบวชผู้ดูแลหลุมฝังศพของ ตุตันคามุน ได้วางกับดักเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

               สอดคล้องต้องกันกับที่นักโบราณคดีในยุคหลังที่ค้นพบว่า  สาเหตุการตายอย่างมีปริศนา ซึ่งส่วนใหญ่จะมีสาเหตุจากโรคโลหิตเป็นพิษนั้น   น่าจะมาจากช่อดอกไม้แห้งในสุสานของตุตันคามุน 

               ว่ากันว่า  ในตอนที่ยังสดอยู่  ดอกไม้ชนิดนี้ก็เหมือนดอกไม้ธรรมดาทั่วไป  แต่เมื่อเวลาผ่านไป  ดอกไม้เหล่านี้จะแห้ง  เกสรภายในดอกไม้ก็จะแห้งและเบาด้วย  ซึ่งหากอยู่ในห้องสุสานที่ปิดสนิท  ก็ไม่น่าจะมีปัญหากับใครแต่อย่างใด


(ดอกไม้แห้ง ที่เชื่อกันว่า  ละอองเกสรของมันเป็นสาเหตุการตายของผู้เข้าไปในสุสาน)

               แต่เมื่อสุสานถูกเปิดออก  ผู้คนมากมายเดินไปมา  เกิดการหมุนเวียนของอากาศภายในห้องสุสาน  ทำให้ละอองเกสรที่เบาถูกพัดให้ล่องลอยไปในอากาศ

               ใครก็ตามที่หายใจสูดเอาละอองเกสรของดอกไม้นี้เข้าไปในปอด  ละอองเกสรจะกลายเป็นยาพิษที่จะทำร้ายบุคคลผู้นั้นทันที   แต่ปัจจุบันนี้  ไม่มีละอองเกสรเหล่านี้ล่องลอยอยู่ในอากาศอีกแล้ว

               ว่ากันว่า  นี่คือสิ่งที่นักบวชของตุตันคามุน วางแผนทำร้ายผู้บุกรุกหลุมฝังศพเอาไว้เมื่อ 3 พันกว่าปีที่แล้ว   และเป็นเหตุผลเบื้องหลังคำสาปของฟาโรห์

               ใครที่คิดจะไปเที่ยวอียิปต์ ก็ไม่ต้องหวาดกลัวต่อคำสาปของฟาโรห์อีกต่อไปนะครับ

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *