ซอกซอนตะลอนไป (7 พฤษภาคม 2560 )
อุ่นเครื่องอียิปต์ก่อนแฟม ทริป(ตอน2)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
ตอนที่แล้ว ผมได้เกริ่นไว้ว่า อียิปต์เป็นต้นธารของศาสนาสำคัญๆของโลกอย่างน้อย 3 ศาสนา คือ ศาสนายูดายของชาวยิว ศาสนาคริสต์ และ ศาสนาอิสลาม
หลักฐานที่พิสูจน์เรื่องนี้ อาจจะทำท่านผู้อ่านอดหัวเราะไม่ได้
ก่อนอื่น ต้องทราบว่า ชาวยิวเคยเป็นทาสในอียิปต์โบราณมาก่อน เท่าที่บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรจากพระคัมภีร์ไบเบิลของชาวยิว ก็คือ ตั้งแต่โจเซฟถูกขายไปเป็นทาสในอียิปต์โบราณ
นับแต่นั้นมา ชาวยิวก็อาศัยอยู่ในอียิปต์เรื่อยมาจนถึงยุคอพยพ หรือ EXODUS ที่มีโมเสส เป็นผู้นำชาวยิวไปค้นหาดินแดนแห่งน้ำผึ้ง และ น้ำนม ตามที่พระผู้เป็นเจ้าได้สัญญาไว้
(ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง บัญญัติ 10 ประการ ที่แสดงการเปิดน้ำทะเลแดง ของโมเสส เพื่อนำชาวยิวเดินทางออกจากอียิปต์โบราณ)
ชาวอียิปต์โบราณทำสงครามมาตลอดระยะเวลาหลายพันปี ทำให้อียิปต์มีความมั่งคั่ง มั่นคงในระบบเศรษฐกิจ ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นจะต้องมีระบบการปูนบำเหน็จที่ดีให้ทหารของตนเอง
เหมือนในระบบทหารปัจจุบัน ที่มีการมอบเหรียญกล้าหาญ ปูนบำเหน็จให้แก่ทหารที่มีผลงานโดดเด่นในสนามรบ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ทหาร และแก่ทหารคนอื่นๆที่ต้องการจะประสบความสำเร็จเหมือนทหารที่ได้รับเหรียญกล้าหาญด้วย
เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากว่า ชาวอียิปต์โบราณปูนบำเหน็จให้แก่ทหารกล้าที่เสี่ยงตายในการสู้รบอย่างไร ทำอย่างไรจึงจะรู้ว่า ทหารคนนี้มีความกล้าหาญ สู้รบอย่างไม่กลัวตาย และมีผลงานในการสังหารศัตรูอย่างดียิ่ง
ประวัติศาสตร์ที่มีการจารึกของอียิปต์โบราณระบุว่า ฟาโรห์จะประกาศให้ทหารของตัวเองทุกคน ต้องตัดมือขวาตั้งแต่ข้อมือลงไปของข้าศึกทุกคนที่ตนเองสังหาร แล้วนำติดตัวกลับมา
แล้วเอามือที่ตัดมาได้นั้นมาขึ้นเงินรางวัล ใครมีมือมาแสดงมาก ก็ได้เงินรางวัลมาก ใครมีมือมาแสดงน้อย ก็ได้เงินรางวัลน้อย
(ภาพจารึกบนผนังในวิหารรามเซส ที่ 3 จะเห็นมือที่กองพะเนิน)
ฟังดูก็น่าจะยุติธรรมดี
ต่อมาภายหลัง ก็ปรากฏว่ามีทหารบางพวกที่คิดไม่ซื่อ ด้วยการตัดมือของทหารฝ่ายเดียวกันที่ตายเอามาผสมโรงเพื่อขึ้นเงินรางวัลด้วย ซึ่งไม่มีใครสามารถแยกแยะได้ว่า มืออันไหนเป็นของทหารฝ่ายศัตรู และมืออันไหนเป็นของทหารพวกเดียวกัน
ร้อนถึงฟาโรห์จะต้องคิดหาวิธีไม่ให้ทหารของตัวเองโกงเงินรางวัลไปได้
ในที่สุด ฟาโรห์ก็สามารถคิดหาวิธีป้องกันไม่ให้ทหารของตัวเองโกงเงินรางวัลไปได้
มีหลักฐานภาพสลักนูนต่ำบนผนังของวิหารรามเซสที่ 3 ที่เมืองลักซอร์แสดงให้เห็นถึง การแก้กลโกงของฟาโรห์เอาไว้
รายการอียิปต์ ท่องแดนฟาโรห์ ของไวท์ เอเลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่ ก็พาไปชมวิหารรามเซสที่ 3 นี้ด้วยเช่นกัน จะเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เดือนตุลาคม นี้เป็นต้นไป สามารถติดต่อทุกผ่าน ทราเวล เอเยนซี่ ใกล้บ้านคุณได้ครับ
(ภาพสลักหิน ในศาลของเทพีมุท ในเมืองลักซอร์ ซึ่งมีอายุกว่า 3300 ปี ของราชวงศ์ที่ 18 แสดงให้เห็นถึงการทำพิธีขลิบอวัยวะเพศชาย)
คนส่วนใหญ่มักจะไม่รู้ว่า ชาวอียิปต์โบราณ มีประเพณีขลิบหนังปลายอวัยวะเพศของผู้ชาย(CIRCUMCISION) มานานแล้ว เมื่อชาวยิวที่เป็นทาสอยู่ในอียิปต์มานาน อพยพออกไปก็ได้นำเอาประเพณีนี้ไปใช้ต่อด้วย
เมื่อพระเยซู ซึ่งก็เป็นชาวยิวโดยกำเนิด ประกาศศาสนาคริสต์ขึ้นมาใหม่ ก็ย่อมรับเอาประเพณีการขลิบปลายอวัยวะเพศชายมาใช้เหมือนกัน แต่ก็ได้ประกาศยกเลิกไป เพราะระบบสาธารณะสุขในสมัยนั้นยังไม่สะอาดเพียงพอ ทำให้อวัยวะเพศเน่าจนทำให้เจ้าตัวถึงแก่ความตายไปก็มาก
(ภาพสลักใน CATHEDRAL OF CHARTRES ในฝรั่งเศส ที่แสดงให้เห็นว่า ชาวคริสต์มีพิธีขลิบอวัยวะเพศชายมาก่อน)
จนเมื่อศาสนาอิสลามได้รับการประกาศในประเทศซาอุฯ ก็ยังคงรักษาประเพณีนี้เอาไว้จนทุกวันนี้ แสดงให้เห็นว่า ในขณะที่ชาวอียิปต์โบราณมีพิธีขลับหนังปลายอวัยวะเพศชายนั้น ชนชาติอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียง ยังไม่มีประเพณีที่ว่านี้เลย
วิธีแก้กลโกงของฟาโรห์ก็คือ ให้ตัดอวัยวะเพศของศัตรูมาเพื่อเป็นเครื่องยืนยันในการรับเงินรางวัล เพราะหากเป็นอวัยวะเพศของฝ่ายศัตรู จะต้องไม่ผ่านการขลิบมา
หากอวัยวะเพศที่ผ่านการขลิบมา ก็แน่นอนว่าไม่ใช่ของฝ่ายศัตรู จะเอามาขึ้นเงินรางวัลไม่ได้
ช่างคิดจริงๆ
