ซอกซอนตะลอนไป (17 กุมภาพันธ์ 2560)
ร้านซักรีดที่ใหญ่ที่สุดในโลก(ตอน2)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
ลานซักผ้า มหาลักษมี โดบี กาด มีคนทำงานประมาณ 1 พันคน เริ่มงานกันตั้งแต่เช้ามืด ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีพื้นเพ หรือ อาศัยอยู่ในสลัมแห่งนี้
นอกจากนั้น ก็อาจจะเป็นคนที่มาจากถิ่นอื่น ซึ่งมักจะเข้ามาอาศัยอยู่ในห้องพักแคบๆในสถานที่ซักผ้าแห่งนี้ โดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน แต่คนเหล่านี้ต้องหาอาหารการกินของตนเอง ส่วนใหญ่มักจะร่วมกันลงขันทำอาหารมาแบ่งกันทานในหมู่ของคนงาน
ค่าแรงขั้นต้นของคนงานเหล่านี้จะตกประมาณเดือนละ 8000 รูปี หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 4000 บาท ซึ่งอยู่ยากมากในเมืองใหญ่อย่างมุมไบหากจะต้องเช่าบ้านอยู่เอง
แต่ละวันจะมีผ้าส่งเข้ามาซักประมาณหลายพันชิ้น บางวันอาจจะถึงหมื่นชิ้น ซึ่งทำให้คนงานเหล่านี้จะต้องเริ่มทำงานตั้งแต่เช้ามืด เพราะจะต้องอาศัยแสงแดดในการตากผ้าด้วย
ตอนที่ผมไปถึงสถานที่ซักผ้าแห่งนี้ตอนประมาณ 11 โมง ก็เหลือคนงานที่ยังซักผ้าอยู่ไม่มากนักแล้ว
เมื่อซักผ้าเสร็จเรียบร้อย ก็จะต้องแขวนบนเชือกเพื่อตากแดด
ลองหลักตานึกภาพดูนะครับว่า ถ้าหากจะต้องใช้ไม้หนีบผ้าละก้อ ก็คงจะต้องมีที่เก็บไม้หนีบผ้าเป็นถังขนาดใหญ่ทีเดียว
แต่ด้วยวิธีการเอาเชือกขนาดเท่านิ้วก้อยมาพันบิดเป็นเกลียว แล้วเอาเสื้อผ้าสอดเข้าไปในในร่องเกลียวของเชือก ก็สามารถแขวนเสื้อผ้าได้นับร้อยตัวโดยไม่ต้องใช้ไม้หนีบผ้าแม้แต่อันเดียว
นั่นเป็นวันที่แดดดีเท่านั้น
แต่ภาคใต้ของอินเดีย มีช่วงมรสุมระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนกรกฎาคม ของทุกปี ซึ่งจะทำให้มีฝนตกชุกมาก แดดแทบจะไม่เห็น จึงเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะทำให้ผ้าแห้ง
ไม่ทราบว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนนั้น เขาตากผ้ากันอย่างไรให้แห้งในช่วงมรสุม แต่ในปัจจุบัน เขามีเครื่องอบผ้าใช้แล้ว ทำให้งานซักผ้าสะดวกมากขึ้น
ท่านผู้อ่านคงอยากรู้แล้วว่า เขาคิดค่าซักรีดอย่างไร
จากคำอธิบายของหัวหน้าสถานซักผ้าแห่งนี้บอกว่า อัตราค่าซักรีดผ้าสำหรับเสื้อจะอยู่ที่ 10 รูปี หรือประมาร 5 บาทต่อชิ้น กางเกงตัวละ 10 รูปี สำหรับส่าหรีซึ่งยาวประมาณ 7 เมตรราคา 50 รูปี
เป็นที่พึ่งสำหรับชนชั้นกลางลงมาของชาวเมืองมุมไบ ที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหารายได้ให้ครอบครัว จนไม่มีเวลาที่จะซักผ้า
แม้ว่า ภาพที่เห็นจากสถานที่ซักผ้าแห่งนี้จะไม่น่าดูนัก เช่น น้ำที่ซักดูเหมือนจะมีสีคล้ำ ดำ จนถึงสกปรก ซ้ำคนซักผ้าก็ยังใช้เท้าเหยียบย่ำบนเสื้อผ้าอีกด้วย แต่จากที่เห็น เสื้อผ้าสีขาวที่แขวนบนราวตากผ้า ก็ยังแลดูขาวนวลมาก
ขาวนวลจนอดประหลาดใจไม่ได้
แน่นอนว่า ลานซักผ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกของเมืองมุมไบแห่งนี้ ซึ่งดำเนินธุรกิจมานานกว่าร้อยปีแล้ว ก็จะยังคงเป็นที่พึ่งของคนชั้นกลางของอินเดียไปอีกนาน
ดูแล้วอดรู้สึกไม่ได้ว่า โชคดีที่เกิดเป็นคนไทย
สวัสดีครับ