“ชีวิตเหมือนฝัน คุณหญิงมณี”จากเด็กไร้บ้าน มาเป็นสะใภ้หลวง(ตอน 13)

ซอกซอนตะลอนไป                           (15 มกราคม 2559 )

“ชีวิตเหมือนฝัน คุณหญิงมณี”จากเด็กไร้บ้าน มาเป็นสะใภ้หลวง(ตอน 13)

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               ภารกิจของเจ้าหน้าที่ A.T.A ที่พระองค์จิรศักดิ์ จะต้องทำก็คือ  ขับเครื่องบินใหม่จากโรงงานไปส่งตามสนามบินต่างๆ  หรือ ตามท่าเรือ  และขับเครื่องบินที่ชำรุดจากการสู้รบกลับไปสู่โรงซ่อม  และ ขับเครื่องบินจากโรงซ่อมกลับไปส่งที่สนามบิน

               เยอรมันได้ส่งฝูงบินมาโจมตีเกาะอังกฤษมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2483 เริ่มสงครามที่เรียกว่า  BATTLE OF BRITAIN  ที่มีคนเอาเรื่องราวมาสร้างเป็นภาพยนตร์หลายครั้ง  

               หม่อมมณี ต่อว่า สามีอย่างหนักว่า  เห็นแก่ตัวมาก   มิได้นึกถึงครอบครัวเลย  นึกเพียงอย่างเดียวอยากทำงานเพื่อความสุขสบายใจของตัวเองเท่านั้น 

               พระองค์จิรศักดิ์ ให้เหตุผลว่า  ในยามสงครามเช่นนี้  ทุกคนต้องเสียสละ  สิ่งสำคัญคือ  เมื่อบ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว  ท่านก็จะสามารถมองหน้ามนุษย์ทุกคนได้อย่างเต็มตาด้วยความภาคภูมิใจว่า  ได้ปฎิบัติหน้าที่ของลูกผู้ชายครบถ้วนทุกประการ 

               แม้ว่าหม่อมมณีจะยังคงไม่เห็นด้วย  แต่ก็ไม่อาจทัดทาน หรือ เปลี่ยนความตั้งใจของสามีได้ 

               พระองค์จิรศักดิ์ทำงานให้กับองค์การ A.T.A  นานกว่า 1 ปี  ญี่ปุ่นก็ประกาศสงครามกับพันธมิตร  ต่อมา  รัฐบาลไทย ก็ประกาศตัวอยู่ฝ่ายเดียวกับญี่ปุ่น   จึงทำให้สถานะของคนไทยในอังกฤษกลายเป็น  พันธมิตรของฝ่ายศัตรูไปทันที

               A.T.A  ได้ทำหนังสือแจ้งพระองค์จิรศักดิ์ ว่า  ไม่อาจจ้างท่านให้ทำงานในองค์กรนี้ได้อีกต่อไปได้  แต่พระองค์จิรศักดิ์ ไม่ยอมแพ้ ให้มิสเตอร์เครก ติดต่อกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษว่า  ท่านไม่ใช่ศัตรู  แต่เป็นมิตร

               ในระหว่างที่รอคำตอบอยู่นั้น  พระองค์จิรศักดิ์ต้องอยู่บ้านเฉยๆ  ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หม่อมมณี แอบมีความสุขอยู่ในใจลึกๆที่สามีไม่ต้องไปเสี่ยงอันตรายอีกแล้ว 

               ช่วงเวลานั้นเอง  มีแขกประจำที่มาเยี่ยมบ้าน ดอน ฮิลล์ สม่ำเสมอ คือ หม่อมเจ้าอาภัสสรวงศ์  หรือ ที่คุณหญิงมณีเขียนถึงในหนังสือว่า “พระองค์อาภัส”  ซึ่งเป็นพี่ชายร่วมมารดาของพระองค์จิรศักดิ์


(พระองค์อาภัสสร)

               ขณะนั้น  พระองค์อาภัส อาศัยอยู่กับพระองค์จุลฯ หรือ  พระเจ้าวรวงศ์เธอ  พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ซึ่งเป็นโอรสที่เกิดจาก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ  ที่เกิดกับ หม่อมคัทริน ชาวรัสเซีย  


(พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์)

               ขณะนั้น  พระองค์อาภัส ทำงานเขียนแบบให้แก่บริษัทผลิตเครื่องบินแห่งหนึ่ง   แต่เนื่องจากทางประเทศไทยไม่สามารถส่งเงินไปช่วยเหลือได้  ชีวิตการเป็นอยู่ของพระองค์อาภัส จึงค่อนข้างลำบาก  ต้องอาศัยอยู่ในห้องพักเล็กๆ ในโรงซ่อมรถที่ใช้เก็บรถแข่งของพระองค์จุลฯ

               จึงทำให้พระองค์อาภัส มักจะแวะมาเยี่ยมน้องชายบ่อยๆ   

               เป็นช่วงเวลาที่สองพี่น้องมีความสุขมากที่ได้มาใกล้ชิดกันอีกครั้ง

               ขณะเดียวกัน  ท่านชื้น หรือ หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน์ ได้ทรงก่อตั้งเสรีไทยในอังกฤษ ซึ่งมีคนไทยในอังกฤษจำนวนมากเข้าร่วมด้วย  ภายใต้การเห็นชอบของรัฐบาลอังกฤษอย่างไม่เป็นทางการ


(ท่านชื้น)

               ปีพ.ศ. 2484  กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษยินยอมตามคำขอของพระองค์จิรศักดิ์ ที่จำรับกลับเข้าทำงานอีกครั้ง   ทำให้พระองค์จิรศักดิ์ปลื้มใจเป็นอย่างมาก 

               แม้ว่าท่านชื่นจะมาขอร้องพระองค์จิรศักดิ์หลายต่อหลายครั้ง ให้เข้าร่วมกับเสรีไทย ซึ่งจะต้องเดินทางไปอินเดียเพื่อทำการฝึกรบที่นั่น   แต่พระองค์จิรศักดิ์ก็ยืนยันแข็งขันว่า  จะขอทำงานในด้านการบินที่ตนเองชอบ และถนัด ที่หน่วยงาน A.T.A ต่อไปจนสงครามสงบ

               คุณหญิงมณีได้เขียนเอาไว้ในหนังสือเล่มนี้ว่า 

               “เจรี่ได้ปฎิบัติงานขับเครื่องบินมาเป็นเวลากว่าปีแล้วด้วยความปลอดภัย  แต่ข้าพเจ้าก็รู้สึกสังหรณ์ใจในการที่เจรี่กลับเข้าไปบินอีกครั้งเป็นครั้งที่สอง”

               ในระหว่างนั้น  หม่อมมณี ตั้งท้องลูกคนที่สอง   มีกำหนดคลอดประมาณเดือนเมษายน ปีพ.ศ. 2485   ซึ่งคุณหญิงมณีได้เขียนเกี่ยวกับการคลอดลูกคนที่สองนี้เอาไว้ว่า


(ภาพครอบครัวของหม่อมมณี กับ ลูกชาย 2 คน)

               “ข้าพเจ้าต้องการให้ลูกคนที่สองนี้เกิดเดือนเมษายน  เพราะข้าพเจ้าเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับโหราศาสตร์ว่า  คนที่เกิดเดือนเมษายนนั้นมักมีบุญ  มีชื่อเสียงโด่งดัง  และมีชีวิตโลดโผนกว่าคนที่เกิดเดือนอื่นๆ”

               ฤดูร้อนของปีพ.ศ. 2485  เป็นฤดูร้อนที่อากาศดีมาก  หม่อมมณีให้กำเนิดบุตรชายคนที่สองในวันที่ 19 เมษายน   ทั้งสองตั้งชื่อลูกชายคนนี้ว่า  “ทินศักดิ์” ซึ่งเป็นชื่อหนึ่งที่ทูลกระหม่อมได้ทรงเขียนไว้ให้เธอเลือกตอนคลอดลูกชายคนแรก  

               เดือนกันยายน ปีพ.ศ. 2485  พระองค์จิรศักดิ์ จูบลาภรรยา และ ลูกๆเพื่อเดินทางไปทำงานบินอีกครั้ง  เป็นภารกิจนานประมาณ 15 วัน 

               ก่อนจะออกจากบ้าน  พระองค์จิรศักดิ์ได้กำชับกับหม่อมมณีว่า   อย่าลืมนัดหมายผู้ดูแลผลประโยชน์ที่ลอนดอนด้วย  เพื่อจะไปทำการโอนทรัพย์สินในทรัสต์ฟันด์มาเป็นของท่าน   เพราะในวันที่ 4  กันยายนนั้น  ท่านจะมีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์  

               และจะสามารถเป็นเจ้าของทรัสต์ฟันด์ได้ด้วยตัวเอง   ไม่ต้องผ่านผู้ดูแลผลประโยชน์แล้ว  

               เทวดาฟ้าดินเท่านั้นที่รู้ว่า  นี่เป็นการจูบอำลาครั้งสุดท้าย  และ วันที่นัดหมายกับผู้ดูแลผลประโยชน์จะมาไม่ถึง

(เชิญติดตามอ่าน  คอลัมน์  “ดูดวงออนไลน์” โดย ธรรมาธิปติ  ที่ผมเขียนไว้ในอีกนามปากหนึ่ง ทุกวันเสาร์ครับ)

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , , .

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *