ระเบียบพื้นฐานสังคมเข้มแข็ง ชาติก็เจริญ

ซอกซอนตะลอนไป    (30 พฤษภาคม  2557)

ระเบียบพื้นฐานสังคมเข้มแข็ง  ชาติก็เจริญ

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               ปัจจุบัน  ญี่ปุ่นเป็นปลายทางการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดของคนไทยไปแล้ว  

               ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมาตรการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย   แต่เหตุผลสำคัญก็คือ  ญี่ปุ่นมีเสน่ห์ต่อนักท่องเที่ยวอย่างยิ่ง   ใครได้ไปเที่ยวสักครั้ง   ก็อยากจะไปอีก

               เหตุผลก็คือ  ญี่ปุ่นมีความปลอดภัยสูงมาก   สะดวกในการเดินทาง  และ อาหารการกินถูกกว่าค่าอาหารในยุโรป  หรือแม้แต่ถูกกว่าค่าอาหารในประเทศไทยด้วยซ้ำ

               ทั้งนี้เพราะ  ญี่ปุ่นมีระเบียบวินัยพื้นฐานสังคมที่เข้มแข็ง  เข้มแข็งจนกระทั่งบางคนอาจจะเรียกคนญี่ปุ่นว่า  หุ่นยนต์  


(ออกจากสนามบินก็มีรถชัตเทิลบัส เข้าเมืองในราคาคนละ 3000 เยน หรือ 1000 บาท เทียบกับเวลานั่งรถชั่วโมงครึ่งก็ถือว่าไม่แพง) 

               ยกตัวอย่าง  ทางเท้า หรือ ทางขึ้นลงบันไดของญี่ปุ่นจะชิดซ้ายกัน  ซึ่งต่างจากบ้านเราที่จะชิดขวากัน    แต่ที่สำคัญก็คือ  เขามีระเบียบวินัยมาพอที่จะยืนชิดซ้ายกันทั้งหมดเวลาขึ้นลงบันไดเลื่อน  ไม่มีใครยืนโผล่ออกมาทางขวามือเลย  ยกเว้นคนที่กำลังจะรีบวิ่งไปขึ้นรถไฟใต้ดิน  

               นี่คือระเบียบพื้นฐานทางสังคม


(ทางขึ้นลงบันได  มีลูกศรชี้บอกให้เดินชิดซ้าย)

               ญี่ปุ่นจะเข้มงวดมากกับการเข้าแถว หรือ ต่อคิวในการเข้ารับบริการที่มากกว่า 1 คนขึ้นไป  และอดทนรออย่างไม่เอ่ยปากบ่นเลยแม้สักนิด   ไม่ว่าจะรอนานขนาดไหนก็ตาม

               ผมเคยชมงานเอ็กซ์โปในญี่ปุ่นเมื่อหลายปีก่อน  บางคิวยาวเหยียดหลายร้อยเมตร  และต้องใช้เวลารอในการรอเข้าชมหลายชั่วโมง   ผมไม่เคยเห็นชาวญี่ปุ่นกระวนกระวาย หรือ บ่นว่าทำไมช้าอย่างนี้

               ในทางกลับกัน  ครอบครัวที่มารอคิวเข้าชมจำนวนมาก เอาข้าวห่อจากบ้านมาปูเสื่อนั่งทานกันในระหว่างรอคิวเลยทีเดียว 


(อาหารเซ็ตธรรมดา ผัดหมู เคียงด้วยไก่ทอด  ข้าวสวย  ผักสด   และ ซุปถั่ว)

               พูดถึงเรื่องอาหารการกิน  เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นต้องประสบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติบ่อยๆมาตั้งแต่โบราณกาล  ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว  คลื่นลมในทะเล  และอากาศที่บางปีจะหนาวผิดปกติจนไม่สามารถเพาะปลูกพืชผลได้  

               และเนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่เป็นเกาะ   การเสาะหาความช่วยเหลือจากพื้นที่ใกล้เคียงจึงเป็นเรื่องยาก  ชาวญี่ปุ่นจึงต้องช่วยเหลือตัวเองมาโดยตลอด    จึงต้องปรับตัวให้กินอยู่อย่างพอเพียง  ไม่กินทิ้งกินขว้างมาแต่โบราณ


(อาหารเซ็ตเหมือนกัน  แต่หรูขึ้นมานิดหนึ่ง  เพราะเป็นอาหารทะเลต้มซุป  ในร้านอาหารนั่งสบายอยู่ในอาเขตของโรงแรม)

               ดังนั้น  อาหารตามร้านอาหารทั้งหลายจึงมักจะจัดเป็น “เซ็ท”  ทุกอย่างเสริฟมาในถาดเดียว

               อาหารที่เสริฟก็จะมี  ผัดที่อาจจะเป็นผักสด  หรือ  ผักดอง  ซุป  ข้าวสวย และ กับข้าวอีกหนึ่งจาน   

               ไม่เน้นของหวาน   ร้านไหนมีของหวานบริการถือว่า หรูมากทีเดียว 


(อาหารเซ็ตอีกแบบ  ก็คือ ชาบู  ซึ่งก็จัดสรรให้แต่ละคนพอกินอิ่ม   ไม่เหลือทิ้ง)

               ทุกอย่างที่บริการในถาดพอเพียงสำหรับคนธรรมดาหนึ่งคนทานพอดีหมด   ไม่มีเหลือทิ้ง    เพราะชาวญี่ปุ่นตระหนักเสมอว่า   อาหารเป็นสิ่งที่อาจขาดแคลน  และ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการอยู่รอดของพวกเขา

               วัฒนธรรมการกินแบบนี้   มิใช่เพียงแค่ในร้านอาหารเท่านั้น   แต่ทุกครอบครัวก็จะกินแบบนี้    ซึ่งผิดกับวัฒนธรรมการกินอาหารของคนจีน  และ คนไทย  ที่มีของกินเหลือทิ้งมากมายเหลือเกิน

               อาจเนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นเป็นชนชั้นกลาง  และเป็นชนชั้นกลางที่มีคุณภาพ  เพราะทุกคนมีการศึกษาที่ดี   มีงานทำกันทุกคน และ ทุกคนเป็นคนเอาจริงเอาจังกับการทำงานมาก  การทานอาหารไม่ว่าจะเป็นอาหารเที่ยงหรืออาหารเย็น  จึงมักจะเป็นอาหารมื้อง่ายๆ  และต้องเร็ว


(วัฒนธรรมที่เข้มแข็งปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก  เป้สะพายหลังของเด็กนักเรียนทุกคน  จะติดแผ่นสะท้อนแสง  และสวมหมวกสีสด  เพื่อว่าคนขับรถ หรือ ใครๆก็สามารถมองเห็นได้แต่ไกล)

               ซึ่งก็คืออาหารแบบเซ็ตที่ว่านี้    และทุกคนก็จะทานอาหารคล้ายกันหมด

               หากจะเปรียบเทียบกับบ้านเราแล้ว   ก็น่าจะเทียบได้กับ  ข้าวราดแกง  หรือ ก๋วยเตี๋ยวสักชาม นั่นเอง   เพียงแต่คุณภาพของอาหาร  และ  ราคานั้นราคาถูกมากๆ 

               เรียกได้ว่า   ถูกกว่าราคาอาหารในประเทศไทยเสียอีก 


(ครูพานักเรียนชั้นประถมออกมาทัศนศึกษา  เด็กเหล่านี้มีระเบียบวินัยมาก และจะติดตัวไปจนกระทั่งเป็นผู้ใหญ่  เห็นได้จากนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่ยังคงรักษาระเบียบวินัยในการเดินทางอย่างดียิ่ง)

               จึงน่าจะเป็นเพราะเหตุผลนี้เองที่ทำให้คนไทยนิยมไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง  ประเภทจองตั๋วเครื่องบิน และ ห้องพักแล้วบินไปผจญภัยกันเอาเอง    หากินอาหารกันเอาเอง 

               ซึ่งก็สนุกไปอีกแบบ    เพราะระบบคมนาคมขนส่งของญี่ปุ่นสะดวกสบายมาก  และราคาไม่แพงอย่างที่คิด  ซ้ำระบบบริการสาธารณะ  ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ ห้องส้วมก็สะอาดสะอ้านน่าใช้อย่างยิ่ง   

               แม้แต่ในห้องน้ำสาธารณะก็ยังมีที่ล้างก้นอัตโนมัตบริการซึ่งแม้แต่ในยุโรปก็ยังไม่มี 


(ห้องน้ำสาธารณะที่สะอาดกว่าห้องน้ำในยุโรปด้วยซ้ำ)     

               นี่คือเสน่ห์ของญี่ปุ่นที่ดึงนักท่องเที่ยวไทยให้ไปเยือนปีละหลายล้านคน  

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *