ซอกซอนตะลอนไป (11 เมษายน 2557)
เยือนคฤหาสน์เกรซแลนด์ บ้านของ เอลวิส เพรสลีย์
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
ผมเชื่อว่า นักท่องเที่ยวที่มาเยือนรัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา คงอยากมาเยือนเมืองเมมฟิสกันทุกคน ด้วยเหตุผลหลักก็คือ เพราะเมืองเมมฟิส เป็นที่ตั้งของบ้านของเอลวิส เพรสลีย์ ราชาเพลงร็อค แอนด์ โรลล์ ตลอดกาล
และแน่นอนว่า ผมคงจะไม่ยอมพลาดโอกาสที่จะมาเยี่ยมบ้านของเอลวิส แม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปเกือบ 37 ปีแล้วก็ตาม
วันนี้ ผมขอนำท่านผู้อ่านเข้าไปชมบ้านของเอลวิสกันครับ
แรกทีเดียว พื้นที่บริเวณคฤหาสน์เกรซแลนด์ เป็นฟาร์มเลี้ยงสัตว์มาก่อน ผู้เป็นเจ้าของคนแรกก็คือ ผู้ก่อตั้งบริษัทเอส ซี ทูฟ และ เพื่อน (S.C.TOOF & CO) เป็นบริษัทการพิมพ์แห่งหนึ่งในเมืองเมมฟิส และเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ เมมฟิส เดลี แอพพีล (MEMPHIS DAILY APPEAL)
ซึ่งยังคงทำธุรกิจจนถึงทุกวันนี้
ฟาร์มเลี้ยงสัตว์แห่งนี้เป็นมรดกตกทอดมาสู่ เกรซ(GRACE) ธิดาของ ทูฟ หลังจากนั้น ที่ดินผืนนี้ก็ตกทอดมาถึง รุธ มัวร์(RUTH MOORE) ผู้เป็นหลานสาวของเกรซ
ในปีค.ศ. 1940 รุธ และ สามีของเธอคือ ดร.โธมัส มัวร์(DR.THOMAS MOORE) ได้สร้างคฤหาสน์ ขึ้นมาหลังหนึ่ง เป็นศิลปะที่เรียกว่า ฟื้นฟูศิลปะโคโลเนียล(COLONIAL REVIVAL STYLE)
กระแสของความพยายามอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมแบบอาณานิคมอังกฤษในอเมริกาแผ่ขยายไปทั่วประเทศตั้งแต่ปีค.ศ. 1876 จึงทำให้ยังเหลือบ้านเรือนในสไตล์ดังกล่าวมากมายทั่วอเมริกา
หนึ่งในนั้นก็คือ คฤหาสน์เกรซแลนด์ ของเอลวิส เพรสลีย์
เอลวิส เกิดที่เมืองทูเปโล(TUPELO) มลรัฐมิสซิสซิปปี้(MISSISSIPPI) อยู่ทางด้านตะวันออกของรัฐเทนเนสซี พ่อแม่มีฐานะยากจนมากอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ ต่อมา ครอบครัวได้ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองเมมฟิส หลังจากนั้น เอลวิสก็ค่อยๆหาหนทางไต่เต้าจนกระทั่งมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะนักร้องในสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร
เมื่อเริ่มมีชื่อเสียง เขาซื้อบ้านหลังใหม่ในราคา 40,000 เหรียญอยู่ที่เลขที่ 1034 ถนนออดูบอน (AUDUBON DRIVE) ในเมืองเมมฟิส แต่ในไม่ช้า เพื่อนบ้านก็ทนไม่ไหวเพราะมีแฟนเพลงจำนวนมากไปออกันอยู่หน้าบ้านของเอลวิส จนก่อความรำคาญแก่เพื่อนบ้านในละแวกนั้น
เอลวิส จึงมองหาบ้านหลังใหม่ที่เป็นแบบฟาร์มเฮ้าส์ หรือ บ้านปศุสัตว์ แล้วก็มาเจอคฤหาสน์หลังนี้ในปีค.ศ. 1957 เขาซื้อคฤหาสน์หลังนี้ด้วยเงิน 100,000 เหรียญ และตัดสินใจที่จะเรียกชื่อคฤหาสน์หลังนี้ว่า เกรซแลนด์
ปีถัดมา มารดาของเอลวิส เสียชีวิต ศพถูกฝังเอาไว้ในพื้นที่ของคฤหาสน์ ในส่วนที่เรียกว่า สวนทำสมาธิ (THE MEDITATION GARDEN) ว่ากันว่า เอลวิส มักจะมาอยู่ที่นี่ตามลำพังในยามที่เขาประสบปัญหาในชีวิต
หลังจากที่เอลวิส เพรสลีย์ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ค.ศ. 1977 อีก 2 ปีต่อมา บิดาของเขาก็เสียชีวิต ทรัพย์สินจึงอยู่ภายใต้การดูแลของ พริสซิลล่า อดีตภรรยาของเอลวิส ก่อนที่จะส่งมอบให้แก่ ลิซ่า มารี เพรสลีย์ ลูกสาวคนเดียวของเอลวิสเมื่อธอบรรลุนิติภาวะ
คฤหาสน์ เกรซแลนด์ เปิดให้ประชาชนเข้าชมตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน ปีค.ศ.1982 ขณะนั้น ยังมีสมาชิกของตระกูลเพรสลีย์คนสุดท้ายอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ คือ นางเดลต้า(DELTA) น้าของเอลวิส ที่มาอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ในฐานะแขกรับเชิญของ เอลวิส
ดังนั้น เขาจึงไม่อนุญาตให้เข้าชมในส่วนห้องครัว เพราะน้าของเอลวิส ยังต้องใช้อยู่ จนกระทั่ง หลังปีค.ศ. 1993 เมื่อนางเดลต้า เสียชีวิตไปแล้ว
แต่ละปีจะมีผู้มาเยี่ยมชม คฤหาสน์เกรซแลนด์กันอย่างมากมาย จำนวนผู้เข้าชมจะเป็นรองก็แต่เพียงทำเนียบขาวเท่านั้น ผู้มีชื่อเสียงมากมายที่เคยมาเยี่ยมคฤหาสน์หลังนี้ อาทิเช่น นายก จุนอิชิโร โคอิซูมิ(JUNICHIRO KOIZUMI) ของญี่ปุ่น เจ้าชายอัลเบิร์ต ที่ 2 แห่ง มอนาโค(PRINCE ALBERT II OF MONACO)
และรายที่ดูเหมือนจะล่าสุดที่สุดก็คือ ท่านเซอร์ พอล แมคคาร์ทนีย์(SIR PAUL McCARTNEY) หนึ่งในสมาชิกของวงสี่เต่าทอง THE BEATLES ซึ่งได้มาเยี่ยมคฤหาสน์ เกรซแลนด์ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ปีที่แล้วนี่เอง
ก่อนจะกลับ พอล แมคคาร์ทนีย์ ได้มาแวะที่หลุมฝังศพของเอลวิส แล้วก็ล้วงเอา “ปิคกีตาร์” (GUITAR PICK) ของตัวเองออกมาแล้ววางไว้บนหลุมฝังศพ และพูดว่า
“เอลวิส จะได้เอาไปเล่น(กีต้าร์) ในสวรรค์”
ลาก่อนเอลวิส พวกเราคิดถึงคุณ