ซอกซอนตะลอนไป (21 มีนาคม 2557)
คอร์กี้ บาร์บีคิวซี่โครงหมู ในเมมฟิส
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
ถ้าไปถึงเมมฟิสแล้ว ไม่แวะไปเยี่ยมคนที่สวยที่สุดในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาประจำปีพ.ศ. 2516 ก็ใจจืดไปหน่อย คนที่ผมพูดถึงก็คือ จันทร์ฉาย สิงหนายก ดาวจุฬาฯประจำปี 2516
จันทร์ฉาย หรือ ติ๋ม ของเพื่อนๆ ไปตั้งรกรากอยู่ที่เมมฟิสมานานหลายปีดีดักแล้ว
ทันทีที่รู้ว่ามีเพื่อนจะไปที่เมมฟิส ติ๋มก็เชิญชวนไปทานอาหารไทยที่บ้าน ตามประสาคนมีน้ำใจต่อเพื่อนๆเหมือนสมัยเรียน เธอต้อนรับขับสู้ด้วยขนมจีนน้ำยาปลาซัลมอน ที่อร่อยไม่แพ้ร้านอาหารเลยทีเดียว
รุ่งขึ้น เธอก็ยังพาพวกเราไปทานอาหารพิเศษ ที่หากใครก็ตาม ที่มาถึงเมมฟิสแล้ว ไม่ได้ชิมอาหารร้านนี้แล้ว ก็เหมือนมาไม่ถึงเมมฟิส ผมก็เลยได้มีโอกาสนำชิมอาหารมาให้ท่านผู้อ่านฟังกันครับ
อาหารที่พูดถึงก็คือ บาร์บีคิวซี่โครง ของร้าน คอร์กี้ส์ ริบส์ แอนด์ บาร์บีคิว(CORKY’S RIBS & BBQ)
แรกเริ่มเดิมทีนายดอน เพลท์(DON PELTS) ซึ่งเป็นเป็นผู้ริเริ่มร้าน คอร์กี้ส์ ริบส์ แอนด์ บาร์บีคิว เมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว ด้วยสูตรอาหารตามแบบฉบับชาวใต้ของแก ก็คือ ซี่โครงจะต้องเลือกสรร และ ย่างด้วยไฟอ่อนๆจากไม้ฮิคคอรี ผสมกับถ่านชาโคล
แต่แกก็ต้องต่อสู้มานานกว่า 10 ปี ถึงจะเริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมตั้งแต่ปีค.ศ. 1984 เป็นต้นมา
สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ร้านของนายดอน ประสบความสำเร็จในเมืองเมมฟิส ก็คือ ปรัชญาในการตกแต่งร้าน โดยเขาจะเน้นการตกแต่งภายนอกร้านให้ดูเหมือนโรงนาเก่าๆ ส่วนภายในก็ตกแต่งด้วยอิฐเก่าๆ เครื่องทองเหลืองขัดเงา และ ใช้ไฟนีออนเป็นหลัก
นอกจากจากนี้ พนักงานเสริฟของเขาทุกคนต้องแต่งกายด้วยเสื้อแขนยาวสีขาว ผูกโบว์หูกระต่ายสีดำ และสวมผ้ากันเปื้อน ดูขรึมและสะอาดสะอ้านดี
ที่เด่นมากก็คือ จะมีวงดนตรีที่เล่นเพลงในยุด 1950 ถึง 1960 ซึ่งก็เป็นเพลงในยุคเอลวิส เพรสลีย์ และ ศิลปินคนดังอื่นๆของเมมฟิสนั่นเอง
ร้านคอร์กี้ ประกาศตัวชัดเจนว่า เป็นบาร์บีคิว ขนานแท้ตามแบบฉบับของชาวใต้ โดยเฉพาะชาวเท็กซัส ซึ่งเป็นบาร์บีคิวซี่โครงหมูย่างแบบแห้งที่มีเครื่องเทศโรยหน้า และ ย่างแบบเปียกที่ชุ่มด้วยน้ำซ้อสที่ทาไว้
ทางร้านบอกว่า การปรุงซี่โครงหมูของเขา จะใช้วิธีย่างด้วยไฟอ่อนๆที่ใช้ไม้ฮิคเคอร์รี่ ผสมถ่านชาโคลเป็นฟืน ซึ่งเขาเรียกว่า การปรุงอาหารตามแบบฉบับโบราณของทางใต้
ซึ่โครงหมูของเขานุ่มอร่อย และรสชาติในการหมักก็กำลังดีทั้งสองแบบ แบบเปียกจะมีรสชาติหวานนำเล็กน้อยกว่าแบบแห้ง
พนักงานสริฟบอกว่า การจะกินซี่โครงหมูบาร์บีคิวให้อร่อย ต้องใช้มือจับแล้วแทะ ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะใช้ช้อนส้อม เพราะจะสุภาพเกินเหตุ
ดังนั้น ทางร้านจึงเตรียมผ้าเปียกเอาไว้ให้เช็ดมือกับทุกคน
นอกจากบาร์บีคิวซี่โครงซึ่งเป็นเมนูหลักของทางร้านแล้ว ยังมีไส้กรอกซึ่งเหนียวกำลังได้ที่ ปลาทอดจิ้มซ้อสเปรี้ยว สลัดผัดโรยหน้าด้วยไก่ฉีก หรือ หมูฉีก และอื่นๆอีกมากมาย
ที่ขาดไม่ได้สำหรับลูกค้าที่มาทานอาหารร้านนี้ก็คือ หอมใหญ่ทอด
ร้านอาหารส่วนใหญ่จะเสริฟหอมใหญ่ทอดแบบ วงแหวน ที่เรียกว่า ONION RINGS แต่ที่นี่เขามีวิธีทำที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร คือ หอมใหญ่ทอดจะมาเป็นลูกกลมๆแบบต่อเนื่องไม่ขาดตอน เก๋ไปอีกแบบ
อาหารเหล่านี้เขาจะเสริฟกับ ถั่วขาวอบ หรือที่เรียกว่า BAKED BEAN ข้าวโพดต้ม COLE SLAW เป็นต้น และ ถ้าสั่งเครื่องดื่ม ทางร้านก็จะเติมให้ตลอดจนจบมื้ออาหาร ซึ่งเป็นวิธีการที่ร้านอาหารจำนวนมากของอเมริกานิยมทำกัน
อาหารมื้อนี้จึงเป็นมื้อพิเศษ เพราะ นอกเหนือจากได้ชิมอาหารที่มีชื่อเสียงของเมมฟิสแล้ว ยังได้พบกับสาวสวยของรุ่นมหาวิทยาลัย หลังจากที่ไม่ได้เจอกันเลยกว่า 30 ปี
แถมเจ้าบ้านยังไม่ยอมให้เราจ่ายเงินอีก ก็ต้องขอขอบคุณทั้งติ๋ม จันทร์ฉาย และ ไมค์ สามีผู้ชื่นชอบเบียร์เป็นพิเศษเอาไว้ณ.โอกาสนี้ด้วย
ใครผ่านไปเมืองเมมฟิส ก็ลองไปชิมดูนะครับ ไม่ผิดหวัง