ดัลลัส วันที่ฟ้าอเมริกามืดมิด(3)

ซอกซอนตะลอนไป    (14 กุมภาพันธ์  2557)

ดัลลัส  วันที่ฟ้าอเมริกามืดมิด(3)

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ    

               ผมมาเยือนเมืองดัลลัส มลรัฐเท็กซัส  หลังจากที่ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ถูกลอบสังหารที่นี่ครบรอบ 50 ปีพอดี  และเพิ่งจะมีพิธีรำลึกถึงการจากไปของประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 22 เดือนพฤศจิกายน ปีค.ศ. 2013 

               ผมมาถึงบริเวณที่เรียกว่า  JOHN FITZGERALD KENNEDY MEMORIAL หรือเรียกสั้นๆว่า  JFK MEMORIAL ที่ออกแบบโดย ฟิลิป จอห์นสัน(PHILIP JOHNSON) อยู่ใจกลางเมืองบนถนนหลัก (MAIN STREET) ห่างจากจุดที่ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้ถูกลอบสังหารประมาณ 100 เมตรเศษเท่านั้น 


(เบื้องหลักก็คือ อนุสรณ์สถาน จอห์น เอฟ เคนเนดี้)

(ตรงกลางของอนุสรณ์สถาน จอห์น เอฟ เคนเนดี้)

               เวลาประมาณ 12 นาฬิกาเศษ   รถเปิดประทุนของประธานาธิบดีแล่นไปตามถนนหลัก  แล้วก็เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนฮูสตัน  วิ่งไปอีกประมาณ 70 – 80 เมตร ก็เลี้ยวซ้ายผ่านตึกสีน้ำตาลแดง ซึ่งเป็นอาคารเก็บหนังสือเรียนของโรงเรียนของรัฐเท็กซัส (TEXAS SCHOOL BOOK DEPOSITORY)  แล้วเข้าสู่ถนน เอลม์  

               จุดสังหารประธานาธิบดี

               ถ้ารถของประธานาธิบดีวิ่งพ้นจากจุดสังหารไปอีกไม่ถึง 100 เมตร ก็จะลอดเข้าไปใต้สะพานแล้วจะเข้าสู่ สเตมมอนส์ ฟรีเวย์(STEMMONS FREEWAY) ที่จะนำ เคนเนดี้ไปสู่ ดัลลัส เทรด มาร์ท(THE DALLAS TRADE MART)   

ประธานาธิบดี เคนเนดี้ ก็จะรอดพ้นจากการถูกลอบสังหารครั้งนี้ 

               แต่ชะตากรรมถูกกำหนดไว้แล้ว

               เมื่อรถยนต์ของประธานาธิบดี เลี้ยวซ้ายผ่านหน้าอาคารเก็บหนังสือของโรงเรียนเข้าสู่ถนนเอลม์   มีผู้คนรอต้อนรับอยู่สองฝั่งถนนพอสมควร   ไม่มีใครคิดว่า   ตนเองกำลังจะเป็นประจักษ์พยานการลอบสังหารครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์โลกของศตวรรษที่ 20

               เมื่อรถเลี้ยวเข้ามาในถนนเอลม์ได้ประมาณ 30 เมตร   เสียงปืนก็ระเบิดขึ้น 1 นัด   ร่างของประธานาธิบดี เอียงวูบไปทางสุภาพสตรีหมายเลข 1  เพราะลูกกระสุนเจาะเข้าที่ด้านหลังตรงบริเวณคอ  

               เสียงปืนอีกนัดระเบิดตามมา   คราวนี้  กระสุนเจาะเข้าที่ศรีษะของประธานาธิบดี   

               ตอนนี้   สตรีหมายเลขหนึ่ง รู้แล้วว่า  ประธานาธิบดีถูกยิง   เธอกระโดดปีนขึ้นไปที่กระโปรงหลังของรถ   เหมือนกับจะหนีอะไรบางอย่างที่อยู่ข้างหน้า   แต่ไม่มีใครรู้ว่า   อะไร  และ  ทำไม

               ทันทีที่รู้ว่าเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น   รถของประธานาธิบดี ก็รีบบึ่งไปยังโรงพยาบาลพาร์ค แลนด์ เมมโมเรียล (PARKLAND MEMORIAL HOSPITAL)   แต่สุดท้าย   ก็ไม่อาจยื้อชีวิตของประธานาธิบดีออกมาจากอุ้งมือมัจจุราชได้  

               เวลา 13.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของดัลลัส   คณะแพทย์จากห้องฉุกเฉินก็ประกาศว่า   ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้  ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว 

               ถือเป็นวันแห่งความมืดมิด  และ เศร้าโศกของชาวอเมริกัน ทั้งปวง

               ปัจจุบันนี้   ถนนเอลม์ ซึ่งเป็นจุดที่ประธานาธิบดีจอฟ์น เอฟ เคนเนดี้ ถูกลอบสังหารนั้น  กลายเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวแทบทุกคนที่มาเยือนเมืองดัลลัสจะต้องมาดู

               บนถนนเอลม์  ที่เป็นถนนลาดยางมะตอย มีกากะบาดด้วยสีขาวอยู่บนพื้น 2 กาอยู่ด้วยกัน   ห่างกันประมาณ 40 เมตร    ทั้งสองจุดดังกล่าว ชี้ให้นักท่องเที่ยวเห็นว่า   จุดที่หนึ่ง  เป็นจุดแรกที่ท่านประธานาธิบดี ถูกกระสุนนัดที่หนึ่ง

               กากะบาดที่สอง   เป็นกระสุนนัดที่ 2  ซึ่งเป็นนัดที่ปลิดชีพของท่านประธานาธิบดี

               ผมยืนอยู่ตรงจุดกากะบาด ที่ 2   จุดกากะบาดแรกจะอยู่ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร   ส่วนตึกที่เชื่อกันว่า   เป็นจุดที่มือปืนยิงลงมาก็คือตึกสีน้ำตาลซ้ายมือ  ชั้นที่ 6  ขวามือสุดที่เป็นหน้าต่างรูปสี่เหลี่ยม        

               ชั้น 6 ตรงหน้าต่างทรงสี่เหลี่ยม ของอาคารเก็บหนังสือเรียนของนักเรียนรัฐเท็กซัส   ปัจจุบันเป็นอาคารที่ทำการบริหารของเมืองดัลลัส    แต่ชั้น 6 ได้รับการจัดการให้เป็นพิพิทภัณฑ์ไปแล้ว    

(ภาพที่ประชาชนถ่ายไว้ได้ก่อนเกิดเหตุการณ์ลอบสังหาร)

(ภาพจากมุมกล้องเดียวกับภาพข้างบน   แต่ห่างเวลากัน 50 ปี)

               ในที่สุด  ผมก็ได้มาเยือน ดีลลีย์ พลาซ่า  มลรัฐเท็กซัส ตามที่หวังไว้ตั้งแต่เด็ก   เกิดความรู้สึกสลด  หดหู่  และ  ยังอดรู้สึกใจหายไม่ได้  แม้จะเป็นการลอบสังหารผู้ชายคนหนึ่งที่ผมไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว   

               ไม่คิดว่า  มนุษย์เราจะโหดร้าย  เลือดเย็นแบบนี้

               แม้เวลาจะผ่านมา 50 ปีแล้ว  แต่เมื่ออ่านหนังสือรายละเอียดของเหตุการณ์การลอบสังหารในวันนี้  ผมก็ยังอดไม่ที่จะรู้สึกตื่นเต้น  และหัวใจเต้นแรง 

               รู้สึกเห็นใจ  และ  ยกย่องในความแข็งแกร่งของ สุภาพสตรีหมายเลข 1  แจกเกอร์ลีน เคนเนดี้  ที่ต้องควบคุมจิตใจให้ผ่านช่วงเลวร้ายนี้ไปจนได้

               ตอนนี้เธอก็หมดทุกข์ไปแล้ว 

               ผมจะนำเอาเหตุการณ์ที่ใกล้ชิดที่สุดในช่วงของการลอบสังหาร มาถ่ายทอดให้อ่านกันในตอนหน้า  สวัสดีครับ

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .

One Comment

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *