ซอกซอนตะลอนไป (31 มกราคม 2557)
ดัลลัส วันที่ฟ้าอเมริกามืดมิด(1)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
วันที่ 22 พฤศจิกายน ปีค.ศ. 1963
เสียงปืนแผดดังกึกก้อง 3 นัดในบริเวณ ดีลลี พลาซา(DEALLEY PLAZA) ใจกลางเมือง ดัลลัส(DALLAS) มลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา
แม้จะเป็นแค่เสียงปืน 3 นัด แต่อานุภาพการทำลายล้างรุนแรงอย่างยิ่ง เพราะผู้ที่ถูกกระสุนดังกล่าวก็คือ ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้(JOHN F.KENNEDY) ของสหรัฐอเมริกา
(ภาพตอนประธานาธิบดี สาบานตนเข้าดำรงตำแหน่ง)
ประวัติศาสตร์ต้องจารึกว่า เป็นวันที่ฟ้าของชาวอเมริกัน มืดมิด แม้จะเป็นวันที่แสงแดดจ้าก็ตาม
ผมมีโอกาสมาเยือนดัลลัส เพื่อมาดูสถานที่เกิดเหตุสำคัญทางประวัติศาสตร์โลก หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านไปแล้ว 50 ปี แต่ก็อดรู้สึกใจหายไม่ได้ ราวกับว่า เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง
(แผนที่อเมริกา และ มลรัฐเท็กซัส (สีฟ้า))
เช้าวันนั้น วันที่ 22 พฤศจิกายน ปีค.ศ. 1963 มีฝนอ่อนๆโปรยปรายลงมาแต่เช้าในเมืองฟอร์ท เวิร์ธ(FORT WORTH) มลรัฐเท็กซัส
(ก่อนหน้าที่ประธานาธิบดีจะเดินทางไปเท็กซัส มีผู้นำใบปลิวต่อต้านเคนเนดี้ ออกมาแจกในข้อหาทรยศต่อชาติ)
ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐอเมริกาเดินออกมาจากโรงแรมเท็กซัส(HOTEL TEXAS) ในเมือง ฟอร์ท เวิร์ธ เพื่อทักทายผู้คนหลายพันคนที่มารอพบเขาตั้งแต่เช้าที่ลานจอดรถตรงข้ามโรงแรม
(ประธานาธิบดี เดินออกมาจากโรงแรมเพื่อทักทายกับประชาชน)
ประธานาธิบดี เคนเนดี้ กับสุภาพสตรีหมายเลข 1 แจกเกอร์ลีน เคนเนดี้ (JACQUELINE KENNEDY) พักค้างคืนที่โรงแรมแห่งนี้เมื่อคืนนี้
เมื่อทางโรงแรมทราบว่า ประธานาธิบดี และ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ชอบงานศิลปะ จึงได้รวบรวมผลงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นภาพเขียน หรือ รูปสลัก ที่เป็นผลงานต้นฉบับ จากผู้สะสมหลายคนมาประดับประดาในห้องพัก ทำให้ห้องพักดังกล่าวเป็นเสมือนพิพิทภัณฑ์ศิลปะเล็กๆ เพื่อให้ประธานาธิบดี และ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ได้ชื่นชมในช่วงเวลาที่พักที่นี่
เช้าวันนั้น เคนเนดี้ได้รับ หมวกคาวบอยสีขาว จากสมาคมการค้าของเมืองฟอร์ท เวิร์ธ เป็นของที่ระลึกหลังจากที่เขากล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุม เพื่อหาเงินสมทบทุนให้แก่มูลนิธิของเมือง
ผู้ที่จะเข้าไปฟังการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ ต้องจ่ายค่าอาหารเช้าจานละ 100 เหรียญ
(ประธานาธิบดีเคนเนดี้ ปาฐกถา ให้แก่ผู้บริจาคสมทบทุนมูลนิธิของเมือง ถัดไปก็คือ แจกเกอร์ลีน และ รองประธานาธิบดี)
การเดินทางมาที่มลรัฐเท็กซัสในครั้งนี้ เป็นไปตามแผนการหาเสียงของประธานาธิบดี ที่ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม ปีค.ศ. 1961 หมายความว่า เวลาในตำแหน่งจะเหลืออยู่เพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น
ด้วยเห็นว่า รัฐฟลอริด้า และ รัฐเท็กซัส เป็นสองรัฐที่คะแนนเสียของพรรคเดโมแครต ไม่สู้จะดีนัก หากยังจำได้ การได้ชัยชนะของประธานาธิบดี จอร์จ บุช ผู้ลูก ที่สร้างความกังขาเอาไว้มากมายนั้น ก็ได้จากชัยชนะในรัฐฟลอริดา เช่นกัน
เคนเนดี้ จึงวางแผนเดินสายหาเสียงเพื่อการลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยหน้า ดังนั้น แผนการหาเสียง 5 เมืองใหญ่ภายในเวลา 2 วันจึงเริ่มขึ้น
วันที่ 21 พฤศจิกายน ปีค.ศ. 1963 จอห์น เอฟ เคนเนดี้ เริ่มต้นด้วยการหาเสียงที่เมือง ซาน อันโตนิโอ(SAN ANTONIO) จากนั้นก็ไป ฮุสตัน(HOUSTON) แล้วก็บินต่อไปยังเมือง ฟอร์ท เวิร์ธ และค้างคืนที่เมืองนี้
(ห้องสวีต ที่เคนเนดี้ พักค้างคืนในฟอร์ท เวิร์ธ)
การเดินทางครั้งนี้ ลินดอน จอห์นสัน รองประธานาธิบดี ได้ร่วมเดินทางไปด้วย
หลังจากเสร็จภารกิจตอนเช้าในเมือง ฟอร์ท เวิร์ธ เรียบร้อย ประธานาธิบดี และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง พร้อมด้วย รองประธานาธิบดี และ ภริยา ก็เดินทางไปสนามบินของกองทัพเรือที่ชื่อ คาร์สเวลล์(CARSWELL AIRPORT) เพื่อจะบินต่อไปยังเมืองดัลลัส จะใช้เวลาบินประมาณครึ่งชั่วโมง
ระหว่างทางไปสนามบิน ประชาชนจำนวนมากมารอต้อนรับสองข้างทาง พวกเขามารอพบประธานาธิบดีที่หนุ่มที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ ผู้ซึ่งกล่าวสุนทรพจน์ ที่แสนจะประทับใจคนทั้งโลกในตอนสาบานตนดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีว่า
“ อย่าถามว่า ประเทศจะทำอะไรให้แก่พวกท่าน แต่จงถามว่า ท่านจะทำอะไรให้แก่ประเทศชาติได้บ้าง”
(ระหว่างทางไปสนามบิน ประธานาธิบดีสั่งให้จอดรถเพื่อทักทายประชาชน แม้ว่าหน่วยข่าวกรองจะห้ามก็ตาม)
ระหว่างทาง ประธานาธิบดีสั่งให้หยุดขบวนรถ เพื่อลงไปทักทายประชาชนที่มารอรับ แม้ว่าหน่วยสืบราชการลับและรักษาความปลอดภัย จะคัดค้านการกระทำครั้งนี้ก็ตาม
จากนั้น ขบวนรถของประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้ ก็มุ่งหน้าไปสนามบิน เพื่อบินไปดัลลัส โดยประธานาธิบดีไม่มีโอกาสรู้เลยว่า
นี่จะเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายของท่าน
อ่านต่อสัปดาห์หน้าครับ
