ซอกซอนตะลอนไป (24 มกราคม 2557)
อาหารเคจุ้น เคล้าดนตรีแจ๊ส ที่นิวออร์ลีน
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
อาหารที่มีชื่อเสียง ของ มลรัฐหลุยส์เซียน่า ของสหรัฐอเมริกา และ เมืองนิวออร์ลีน ซึ่งเป็นเมืองหลวง มีชื่อเรียกรวมๆว่า อาหาร เคจุ้น (CAJUNS)
ผมจะใช้คำว่า “อาหารที่มีชื่อเสียง” นะครับ เพราะ คำว่า “อร่อย” จะขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละบุคคล
คำว่า เคจุ้น นั้นหมายถึง ชาติพันธุ์กลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า ชาติพันธุ์อะคาเดียน(ACADIAN) พูดภาษาฝรั่งเศสเป็นหลัก ชาติพันธุ์อะคาเดียน นั้นอพยพมาจากดินแดนที่เรียกว่า เดอะ มาริไทมส์(THE MARITIMES)
ดินแดนที่เรียกว่า เดอะ มาริไทมส์ นั้นก็คือ ดินแดนริมชายฝั่งทะเล และนอกชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของทวีปอเมริกา หรือ ดินแดนในทะเลด้านตะวันออกของประเทศแคนาดา และ อเมริกา
ดินแดนเหล่านี้ก็คือ บางส่วนของรัฐนิวอิงแลนด์ ของอเมริกา ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีเบค และ ดินแดนโนวา สโกเทีย(NOVA SKOTIA) ของแคนาดา หมู่เกาะ นิวฟาวนด์แลนด์ และ ลาบราดอร์ (NEW FOUNDLAND AND LABRADOR) และอื่นๆ
ผู้คนที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวฝรั่งเศส แต่ต้องอพยพหนีออกมาตั้งหลักแหล่งทางตอนใต้ของมลรัฐหลุยส์เซียน่า เพราะหนีภัยสงคราม ที่เรียกว่า สงครามเจ็ดปี (SEVEN YEARS WAR)ระหว่างปีค.ศ. 1756 ถึง 1763
สงครามเจ็ดปี เป็นสงครามที่แย่งชิงดินแดนในอเมริกา เป็นส่วนใหญ่ ระหว่าง สหราชอาณาจักร กับ ฝรั่งเศสที่ร่วมกับสเปน เพื่อผลประโยชน์ของตนเองทั้งสิ้น
เมื่อพวกเคจุ้น เดินทางลี้ภัยมาถึงรัฐหลุยส์เซียน่า ก็ได้ปรับตัวเข้ากับกับคนที่อาศัยอยู่เดิมก็คือ พวกสเปน จึงทำให้อาหารเคจุ้นมีความหลากหลายมากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รสชาติที่จัดจ้านมากขึ้น
อาหารที่ว่ารสชาติจัดนั้น ขออย่าได้นำมาเปรียบเทียบกับอาหารไทยนะครับ เพราะถึงอย่างไร ก็คงไม่จัดจ้านและเผ็ดเท่าอาหารไทย ยกเว้น ซ๊อสพริกที่เผ็ดจี๊ดจ๊าดจนรสเปรี้ยวพุ่งขึ้นจมูกเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก คือ ซ๊อสพริกทาบาสโก้(TABASCO) ซึ่งมีต้นกำเนิดที่ มลรัฐหลุยส์เซียน่า นี่เอง
เนื่องจากในเขตเมืองนิวออร์ลีน เต็มไปด้วยแหล่งน้ำ ตั้งแต่ ทะเล แม่น้ำที่เป็นน้ำกร่อย และ น้ำจืด หนองบึง และ ป่าชายเลน จึงมีอาหารทะเลมากมายให้เลือกทาน ตั้งแต่ กั้งแดงตัวเล็ก ที่ฝรั่งเรียกว่า CRAWFISH กุ้ง หอย และปลา จนกระทั่ง จระเข้ที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจสำคัญของที่นี่ด้วย
อาหารที่ขึ้นชื่อของ หลุยส์เซียน่า อย่างหนึ่งก็คือ กัมโบ(GUMBO) คล้ายๆกับ สะตูราดข้าวของบ้านเรา เพียงแต่เขาใช้กุ้งและ ไส้กรอก มาทำเท่านั้น
กัมโบ สามารถจะทานกับข้าวขาวก็ได้ แต่ก็สามารถทานกับ ข้าวผัด ซึ่งเขาเรียกว่า ข้าวสกปรก ตามศัพท์ภาษาอังกฤษที่ว่า DIRTY RICE ข้าวผัดที่ว่านี้ จะมีรสชาติจัดหน่อย คือเผ็ดนิดๆพอให้คนอเมริกันทานได้ เป็นวัฒนธรรมที่รับมาจากชาวสเปนที่อาศัยอยู่ที่นี่มาก่อนพวกฝรั่งเศส ที่ชาวสเปน เรียกว่า ข้าวไปลญ่า (PAELLA) หรือ ข้าวผัดสเปน นั่นเอง
นอกจากสะตูแล้ว อาหารอย่างอื่นไม่ค่อยจะมีอะไรนัก จะมีก็เป็นพวกชุบแป้งทอด ไม่ว่าจะเป็นกุ้งชุบแป้งทอด ปลาหมึกชุบแป้งทอด หอยนางรมชุบแป้งทอด และ ไส้กรอกเนื้อจรเข้
อันหลังนี้ผมขอผ่านครับ
ร้านอาหารที่ผมเลือกท่านก็คือ MARKET CAFÉ ที่อยู่ใกล้กับ ตลาดฝรั่งเศส สาเหตุที่เลือกก็เพราะมีดนตรีแจ๊ส บรรเลงให้ลูกค้าฟังด้วย แม้จะมีดนตรีแจ๊สให้ฟัง สนนราคาก็ไม่ได้แพงว่าร้านทั่วไปนัก ก็เลยมีนักท่องเที่ยวเต็มร้านเกือบตลอดเวลา
ชิมอาหารเคจุ้นเรียบร้อยแล้ว ใกล้ๆกันก็มีร้านขายขนมหวานของท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง เรียกว่า พราไลน์ (PRALINE) ซึ่งโฆษณาเป็นเรื่องเป็นราวว่า เก่าแก่นักหนา
ทดลองชิมดูแล้วก็ขอผ่านอีกเช่นกัน เพราะมีรสชาติไม่ต่างจากกินน้ำตาลปีปใส่ถั่ว ยังไงยังงั้นเลย แต่ดูท่าว่า คนอเมริกันคงจะชอบเพราะเห็นขายดีพอสมควร
ถนนเบอร์เบิร์น (BOURBON STREET) หรือ บรูบอง ตามชื่อของราชวงศ์สุดท้ายของฝรั่งเศส เป็นถนนที่คึกคักด้วยดนตรีสไตล์แจ๊ส โดยเฉพาะในตอนกลางคืน แต่มีระดับดีกว่า ถนนพัฒนพงศ์ บ้านเรา เพราะทุกคนที่เข้าไปในร้านก็เพื่อฟังเพลง และ สั่งเหล้ามาดื่มกันเท่านั้น
ไม่มีการขายบริการทางเพศ
เพียงแต่ดนตรีในยุคสมัยนี้ ต่างจากดนตรีที่ผมเคยฟังเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เพราะเริ่มมีดนตรีแนวอื่นเข้ามานะเสนอมากขึ้นตามความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย
ทุกสิ่งล้วนอนิจจัง