ซอกซอนตะลอนไป (29 กันยายน 2567)
ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน8)
ก่อนอินเดียแยกประเทศ
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
ตลอดเวลาของการเจรจากับทั้ง 3 ฝ่าย เมาท์ แบตเทน ต้องรายงานสาระสำคัญในการเจรจา และ ผลของการเจรจาไปยังนายกรัฐมนตรี คลีเมนต์ แอทลี โดยตรงที่ลอนดอน เพื่อให้รัฐบาลอังกฤษใช้ประกอบการตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรกับอินเดียต่อไป
การเจรจาเป็นไปอย่างเชื่องช้า ทว่า ร้อนรนในหัวใจ
หลังจากเจรจากันได้ระยะหนึ่ง เมาท์แบตเทน ก็ถาม จินนาห์อีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อโน้มน้าวใจให้จินนาห์ยอมรับในแผนการไม่แยกประเทศออกไปจากอินเดีย เมาท์แบตเทน ยังให้สัญญาว่า หากชาวมุสลิมไม่แยกประเทศออกไป เขาจะจัดการให้ความเป็นธรรมอย่างเท่าเทียมกันต่อชาวมุสลิม
ที่ต้องสัญญาก็เพราะ จินนาห์มีความเชื่อว่า อินเดียมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวฮินดู หากไม่แยกประเทศออกไป เกรงว่าชาวมุสลิมจะถูกชาวฮินดูกลืนไป เรื่องนี้มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นมาก่อนที่ทำให้จินนาห์หวาดกลัว ซึ่งผมจะเล่าให้ฟังในโอกาสถัดไปครับ
คำตอบของ จินนาห์ ยังมั่นคง แข็งแกร่ง และ ชัดเจนไม่เปลี่ยนแปลงว่า ไม่
ข้อมูลบางแหล่งบอกว่า จินนาห์ ถึงกับข่มขู่ที่ประชุม 3 ฝ่ายด้วยคำพูดประมาณว่า
หากไม่ยอมให้มีประเทศปากีสถาน ก็ขอให้แผ่นดินอินเดียถูกเผาจนมอดไหม้ไปเลย
ข่าวบางกระแสที่ออกมา และ ที่ปรากฎในภาพยนต์เรื่อง “คานธี” ระบุว่า คานธียอมแม้กระทั่งขอร้องจินนาห์ว่า อย่าแยกประเทศเลย โดยยอมแลกกับการให้จินนาห์ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนแรกของอินเดีย ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก
เพราะเท่ากับว่า คนมุสลิมจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีในประเทศที่มีชาวฮินดูเป็นคนส่วนใหญ่ แล้วประชาชนเขาจะยอมหรือ เพราะความขัดแย้งระหว่างชาวฮินดู และ มุสลิมไปถึงจุดที่ยากจะประนีประนอม
(ผมจะพูดถึงสาเหตุ และ เหตุการณ์ที่นำไปสู่ความขัดแย้งนี้ในตอนต่อๆไป)
แต่ข้อมูลในยุคปัจจุบันกลับพูดไปอีกทางหนึ่งว่า คานธีวางแผนที่จะให้เนห์รูเป็นนายกฯตั้งแต่แรกแล้ว ผลการเจรจากับจินนาห์จึงไม่เป็นผล
ความขัดแย้งดูเหมือนว่าจะไม่มีจุดรอมชอม หรือ ประนีประนอม มีแต่จะแตกหักอย่างเดียว
ในที่สุด เมาท์ แบตเทน ก็รู้ว่าสิ่งที่ลอร์ด วาเวลล์ ผู้สำเร็จราชการคนก่อน เคยเตือนเขาเอาไว้ในวันแรกว่า มันเป็นภารกิจที่ไม่มีวันสำเร็จนั้นเป็นเรื่องจริง ความตั้งใจของเขาที่ต้องการจะยับยั้งอินเดียจากการแยกประเทศคงไม่เป็นผลแน่นอน
ซึ่งเขาหารู้ไม่ว่า รัฐบาลอังกฤษเองก็ประเมินแล้วว่า อินเดียไม่มีทางเป็นประเทศเดียวอีกต่อไป แต่รัฐบาลอังกฤษก็ยังส่งเมาท์ แบตเทนไปทำการเจรจา คงเป็นแค่ละครฉากหนึ่งเท่านั้น
สิ่งที่ ลอร์ด เมาท์ แบตเทน รู้สึกผิดหวัง และ สิ้นหวัง ก็คงเป็นเพราะ เขาไม่ต้องการจะได้รับการจารึกชื่อในประวัติศาสตร์ว่า เป็นผู้สำเร็จราชการแห่งอินเดียคนสุดท้ายที่เป็นพยานในการแยกประเทศอินเดีย
เขาพยายามทำงานอย่างเต็มความสามารถแล้ว เท่าที่อำนาจจะมี แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางเลือกอื่นเหลือให้เขาเดินเลย
เขาได้แต่หยิบเอาแฟ้ม“ปฎิบัติการบ้านคนบ้า” (OPERATION MADHOUSE) ที่ลอร์ด วาเวลล์มอบให้มาอ่าน เพื่อเตรียมการ และ รอเวลาว่าทางอังกฤษจะเอาอย่างไรเท่านั้น
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ