ซอกซอนตะลอนไป (6 สิงหาคม 2566)
คฑาแห่งอำนาจ-จากอียิปต์โบราณสู่อินเดียปัจจุบัน(ตอน3)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
อียิปต์โบราณ ติดต่อสัมพันธ์กับกรีซ มาเป็นเวลาช้านานแล้ว เพราะยุคหนึ่ง นักรบชาวกรีกจากไมซีเนเคยไปทำงานเป็นทหารรับจ้างให้แก่ฟาโรห์มาก่อน โดยได้รับค่าตอบแทนเป็นทองคำ
แน่นอนว่า ชาวกรีกที่เคยเดินทางไปอียิปต์ เมื่อกลับถึงบ้านเกิดของตนเอง พวกเขาไม่ได้เอาเพียงค่าจ้างทองคำกลับไปเท่านั้น หากแต่ได้นำเอาความคิด ทั้งทางด้านวัฒนธรรม ศิลปะ สถาปัตยกรรม ความเชื่อ และ แนวคิดทางศาสนากลับไปด้วย
นอกเหนือจากกรีซแล้ว วัฒนธรรมของอียิปต์ยังเผยแพร่เข้าไปในตะวันออกกลาง เมโสโปเตเมีย และดินแดนของซูเมอเรียน จึงอาจกล่าวได้ว่า ในอาณาบริเวณรอบๆทะเลเมดิเตอร์เรเนียนฝั่งตะวันออกล้วนได้รับอิทธิพลจากอียิปต์ทั้งสิ้น
ในที่นี้ ผมจะพูดเฉพาะเรื่อง คฑาแห่งอำนาจที่มีอิทธิพลไปยังกรีซเท่านั้น จะไม่พูดถึงอิทธิพลทางด้านสถาปัตยกรรมอื่นๆ
ในช่วงเวลานั้นของกรีซ นับตั้งแต่ยุคกลางเรื่อยไปจนถึงยุคคลาสสิคในราวศตวรรษที่ 6 มีการทำรูปสลักของเทพเจ้า โดยเฉพาะเทพซุส (ZEUS) เช่น ในวิหารแห่งเมืองโอลิมเปีย สถานที่ก่อกำเนิดของกีฬาโอลิมเปียดของกรีซโบราณแล้วกลายมาเป็นกีฬาโอลิมปิคในทุกวันนี้
รูปสลักดังกล่าว นักโบราณคดีได้ทำภาพจำลองขึ้นจากบันทึกโบราณจนกลายมาเป็นรูปสลักที่ทำด้วยทองคำ และ งาช้างที่เรียกว่า CHRYSELEPHANTINE SCULTURE
รูปสลักดังกล่าวแสดงให้เห็นเทพซุส นั่งอยู่บนบัลลังค์ มือหนึ่งถือคฑาศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วย เพื่อแสดงถึงอำนาจอันยิ่งใหญ่จากสวรรค์
ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนั้นเอง เปอร์เชียภายใต้ราชวงศ์ อาเคเมนิด (ACHAEMENID DYNASTY) ที่มีความแข็งแกร่ง ได้ยกทัพไปทำสงครามกับกรีซหลายหนแต่ไม่สามารถยึดครองกรีซได้อย่างเบ็ดเสร็จ สุดท้ายเปอร์เชี่ยนก็สามารถยึดอียิปต์ได้ในปี 525 ก่อนคริสตกาล
แม้ว่าเปอร์เชียนเลือกที่จะไม่ปกครองอียิปต์แบบเต็มตัว แต่เลือกที่จะแต่งตั้งกษัตริย์ประเทศราช(SATRAPY) ที่เป็นชาวอียิปต์ให้ปกครองแทนตนเอง และให้ถือว่ากษัตริย์เปอร์เชียนเป็นเจ้านายของชาวอียิปต์
เปอร์เชียนยึดครองอียิปต์ในทางพฤตินัย และ ทางนิตินัย แต่ในทางจิตวิญญาณ เปอร์เชียนถูกวัฒนธรรมอียิปต์ครอบงำไปแล้วบางส่วน
มีภาพสลักนูนต่ำของกษัตริย์ดาริอุส ที่ 1 หรือ ดาริอุส ผู้ยิ่งยง (DARIUS THE GREAT) นั่งอยู่บนบัลลังค์ถือคฑาอยู่ในมือด้วย
เมื่ออเล็กซานเดอร์แห่งมาซิโดเนีย ยึดครองอียิปต์ แล้วพระองค์ก็ยกทัพตามไปทำสงครามกับราชวงศ์อาร์เคเมนิด ของเปอร์เชีย และสามารถยึดเปอร์เชียเอาไว้ได้ทั้งหมดในสมัยของพระเจ้าดาริอุส ที่ 3 ในปี 331 ก่อนคริสตกาล
ไม่ปรากฎว่า อเล็กซานเดอร์ จะถือคฑาแห่งอำนาจแต่อย่างใด แต่สิ่งที่พระองค์ติดตัวไปเสมอก็คือ ดาบสั้น และ กล่อง 1 ใบ ข้างในกล่องบรรจุจารึกที่เขาชอบ และ บทกวีมหากาพย์เรื่อง “อีเลียด” (ILIAD)
ว่ากันว่า พระองค์ปฎิเสธที่จะสวมมงกุฎที่เปอร์เชี่ยนถวายหลังจากพ่ายแพ้สงคราม อาจเพราะสำนึกของพระองค์ที่ถูกสั่งสอนมาตลอดในเรื่องประชาธิปไตยก็เป็นได้
สำหรับท่านที่ต้องการเดินทางเจาะลึกอียิปต์ กับผม ระหว่างวันที่ 19-28 ตุลาคม นี้ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร 0885786666 หรือ LINE ID – 14092498 ครับ
พบกันสัปดาห์หน้าครับ