เมื่ออินเดียเริ่มเห็นต่างกรณีคานธี(ตอน5-จบ)

ซอกซอนตะลอนไป                           (1 มกราคม  2566)

เมื่ออินเดียเริ่มเห็นต่างกรณีคานธี(ตอน5-จบ)

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี เป็นคนที่ดูภายนอกมีความอ่อนน้อมถ่อมตน  แต่ภายในกลับมีความแข็งแกร่ง  จริงจัง  และเป็นตัวของตัวเองอย่างยิ่ง  ขัดแย้งกับบุคลิคภาพภายนอกอย่างไม่น่าเชื่อ

               เขาตัดสินใจให้วางรูปสลักหินแกรนิตขนาดใหญ่ของ เนตาจี สุภาษ จันทร โบส ไว้ในกระโจมที่เคยเป็นแท่นที่วางรูปสลักของพระเจ้าจอร์จ ที่ 5  ผู้มีฐานะเป็นปู่ของราชินี อลิซาเบธ ที่ 2 ของอังกฤษ  โดยที่แทบจะไม่มีใครออกมาประท้วง

               ยิ่งไปกว่านั้น   ก่อนหน้าเมื่อวันที่ 22 มกราคม ปี 2022  นายเนรนทรา โมดี ได้ทำพิธีเปิดการแสดงนิทรรศการชีวประวัติ และ ผลงานของ เนตาจี สุภาษ จันทร โบส ที่วิคตอเรีย เมมมอเรียล ฮอลล์ ในกรุงกอลกัตตา  เมืองที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอินเดียในยุค BRITISH RAJ จนกระทั่งถึงปีค.ศ. 1911 เมื่ออังกฤษตัดสินใจย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่เดลี


(วิคตอเรีย เมมโมเรียล ฮอลล์ ที่กอลกัตตา)

               เป็นการเปิดนิทรรศการเนื่องในโอกาสครบรอบวันเกิดปีที่ 125 ของเนตาจี  เพราะท่านเกิดเมื่อวันที่ 23 มกราคม ปีค.ศ. 1897   ในสายตาของผู้รักชาติอินเดียในยุคปัจจุบัน  ถือว่าท่านเป็นวีรบุรุษกู้ชาติที่แท้จริง

               เป็นผู้สร้างสโลแกนสำคัญของอินเดียที่ยังใช้มาจนปัจจุบันนี้ว่า “ ไจ ฮินด์”  ที่แปลว่า  อินเดียชนะ

               ในนิทรรศการดังกล่าว ซึ่งบังเอิญผมมีโอกาสได้เข้าไปชม  มีการจัดแสดงรายละเอียดของจดหมาย  บันทึก  และ  รายงานผลการสอบของท่าน ที่ถือว่าเป็นบันทึกประวัติศาสตร์เอาไว้มากมาย   รวมทั้งภาพถ่ายที่หายากของท่านด้วย

               ในงานดังกล่าว  มีแขกต่างประเทศ เช่น ทูตของต่างประเทศหลายชาติเข้ามาร่วมชมด้วย  แน่นอนว่า   หนึ่งในนั้นก็คือ  ทูตจากประเทศอังกฤษ  อดีตเจ้าอาณานิคมของอินเดีย 

               ที่สร้างความตะลึงงันให้แก่พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามของพรรค BJP  ก็คือ   การที่นายกรัฐมนตรี โมดี เดินทางมาเปิดงานด้วยตัวเอง  เพราะเดือนถัดไป  คือ เดือนกุมภาพันธ์ จะมีการเลือกตั้งผู้นำท้องถิ่นใน 5 รัฐของอินเดีย 

               การตีไพ่ใบนี้ คือการแสดงออกถึงจุดยืนทางการเมือง  ซึ่งแน่นอนว่า   สมาชิกพรรคคองเกรส ที่ทราบเรื่องราวประวัติศาสตร์เป็นอย่างดี  คงไม่สบอารมณ์แน่นอน

ดังนั้น   นายกรัฐมนตรีโมดี จะต้องมีความมั่นใจอย่างมากๆ   และผลการเลือกตั้งที่ออกมาก็เป็นผลบวกต่อพรรค BJP


(นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ถอดรองเท้า  เดินเขาไปกอบเอาดอกไม้ แล้วยกมือไหว้แสดงความเคารพต่อรูปของ เนตาจี สุภาษ จันทร โบส  แสดงให้เห็นถึงความเคารพอย่างสูงราวกับไหว้ เทพเจ้าทีเดียว)

ตอนที่ผมเดินเข้าไปในงานนิทัศนการแห่งนี้   ก็รู้สึกแปลกใจที่กลางห้องโถงหลายห้องที่มีการจัดแสดงดังกล่าว   มีกล่องสี่เหลี่ยมทรงสูงกว่า  5 เมตรขึ้นไปอยู่หลายกล่อง  แต่ละกล่องจะปิดด้วยกระจกเงาทั้งสี่ด้าน  แรกๆก็ดูสวยงามดี


(สี่เหลี่ยมตรงกลางของโค้งประตูก็คือกล่องที่ปิดด้วยกระจกเงา)

แต่เมื่อเห็นว่ามีหลายกล่องมากๆเข้า  ผมก็ชักจะสงสัย  จึงถามไกด์ท้องถิ่นว่า  มันคืออะไร

คำตอบที่ได้รับ  ทำเอาผมอึ้ง และ รู้สึกทึ่ง ในความกล้าหาญของอินเดีย   เพราะภายในกล่องสี่เหลี่ยมดังกล่าวก็คือ  รูปหล่อที่วางอยู่ในอาคารแห่งนี้มานานนับตั้งแต่ยุคอังกฤษปกครอง   ทั้งหมดล้วนเป็นบุคคลสำคัญของรัฐบาลอังกฤษทั้งสิ้น


(เนตาจี สุภาษ จันทร โบส ได้รับการยกย่องด้วยการขึ้นหน้าปกนิตยสาร TIME  มีสักกี่คนที่จะรู้เรื่องนี้)

แต่ไม่ได้มีความสำคัญต่อรัฐบาลอินเดีย  และ  ชาวอินเดียแต่อย่างใด

ดังนั้น  เมื่อมีงานนิทรรศการของ เนตาจี สุภาษ จันทร โบส วีรบุรษกู้ชาติของอินเดียผู้ต่อต้านอังกฤษอย่างชัดเจน   ก็จึงไม่ควรจะมีรูปสลัก หรือ  สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการดำรงอยู่ของอังกฤษภายในห้องเดียวกันนี้

งานนี้   ว่ากันว่าทำเอาท่านทูตของอังกฤษไปไม่เป็นเลยทีเดียว 

พบกันใหม่สัปดาห์หน้า  ด้วยเรื่อง  “สินสอดมรณะ” ครับ

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .