ซอกซอนตะลอนไป (11 กันยายน 2565)
ฆาตรกรรมต่อเนื่อง รายา และ ซากินา ของอียิปต์ (ตอน2)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
คดี รายา-ซากินา ทำท่าว่าจะจบลงแบบไม่จบ เพราะไม่สามารถตามหาผู้สูญหายได้ จึงไม่มีข้อสรุปว่า ผู้สูญหายได้เสียชีวิตไปแล้วหรือไม่
แต่เหมือนโชคช่วย ซึ่งคนไทยก็คงจะบอกว่า วิญญาณผู้ตายมาร้องขอความเป็นธรรม หรือ มาชี้ช่องให้ตำรวจ
ซากินา ย้ายบ้านเช่าจากที่เดิมไปสู่สถานที่ใหม่ และ บังเอิญว่า เจ้าของบ้านเช่าเดิมซึ่งเป็นคนตาบอดต้องการจะวางระบบท่อประปาภายในบ้านใหม่ จึงให้ช่างมาขุดพื้นภายในบ้านเพื่อจะวางท่อ
ในขณะที่ขุดพื้นภายในบ้าน จอบของช่างก็ไปกระทบกันวัตถุแข็งๆเข้าโดยบังเอิญ หลังจากนั้น ช่างก็ทำการขยายพื้นที่ขุด เพื่อดูว่า อะไรคือวัตถุเข็งๆนั้น
ก็พบว่า อันที่จริงก็คือโครงกระดูกของมนุษย์
ตำรวจเดินทางมาถึงบ้านหลังนี้อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้น เป้าหมายต่อไปก็คือ บ้านใหม่ของ ซากินา
เมื่อตำรวจไปถึงบ้านของซากินา ก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกๆเหมือนจะปิดบังอะไรบางอย่างไว้ เพราะในบ้านของเธอจะตลบอบอวลด้วยกลิ่นน้ำหอมที่ปะพรมเอาไว้อย่างมาก มากจนผิดปกติ ซึ่งหลังจากตำรวจตรวจค้นอย่างละเอียดก็พบว่า กลิ่นน้ำหอมดังกล่าวก็เพื่อจะกลบกลิ่นเหม็นเน่าของทรากศพที่เธอฝังอยู่ใต้พื้นบ้านของเธอเอง
เมื่อพบศพ ตำรวจจึงทำการจับกุมตัวสองพี่น้อง รายา กับ ซากินา พร้อมทั้งสามีของทั้งสองไปสอบสวนที่โรงพัก พร้อมด้วยของกลางเช่น บรรดาเครื่องประดับที่ทำด้วยทองคำ และ เพชรนิลจินดาต่างๆ
ทั้งสี่ต่างก็ซัดทอดกันไปมาซึ่งกันและกัน จนวุ่นวายไปหมดว่าคนนั้นคนนี้เป็นผู้ลงมือ แต่ตัวเองไม่มีส่วนร่วม
มีเพียงคนเดียวที่นิ่งเงียบ แต่ภายใต้ดวงตาของเธอบอกว่า เธอกำลังหวาดกลัวบางสิ่งบางอย่างอยู่ เธอคนนั้นก็คือ บาเดีย(BADIA) ลูกสาววัย 10 ขวบของรายา
การสอบสวนกินเวลาหลายเดือน โดยไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก แต่สุดท้ายผู้ที่ปิดคดีนี้ได้ก็คือ บาเดีย นั่นเอง เธอให้การว่า เธอแอบดูเหตุการณ์ต่างๆผ่านรอยแตกของผนังห้อง และ เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
แต่ที่เธอนิ่งเงียบมาโดยตลอดเพราะบรรดาผู้ใหญ่ในบ้าน รวมทั้งมารดาของเธอได้ขู่เธอเอาไว้ว่า หากเธอเอ่ยปากพูดเมื่อใด เธอจะพบจุดจบเช่นเดียวกับเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่เธอได้เห็นชะตากรรมของคนเหล่านั้น
ตำรวจต้องเกลี่ยกล่อมให้บาเดีย เปิดปากพูดถึงสิ่งที่เธอเห็น และ รับปากว่าจะให้การคุ้มครองแก่เธอในฐานะพยานปากเอก โดยให้เธอไปพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่า สังคมรอบข้างของเธอที่แม้ว่าจะมีฐานะเป็นญาติทางสายเลือดก็ตาม ต่างก็มีความ เครียดแค้นต่อเธอเป็นอย่างมาก
และกล่าวหาว่าเธอเป็นลูกทรยศแม่ และ ต้องการจะแก้แค้นแทนรายา ผู้เป็นแม่
หลังจากนั้นอีก 3 ปี หลังจากบาเดียให้การปักปรัมมารดาของเธอ ก็เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้โรงแรมที่พักที่เธออาศัยอยู่ จนทำให้เธอเสียชีวิต
ว่ากันว่า ผู้วางเพลิงจนทำให้เธอเสียชีวิตก็คือ บรรดาญาติทางฝ่ายมารดาของเธอนั่นเอง
วันที่ 21 ธันวาคม ปีค.ศ. 1921 หนึ่งปีหลังจากรายา และ ซากินา และพวกถูกจับกุม ผู้ร่วมก่อการทุกคนถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอตามคำสั่งของศาล
นับเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์อียิปต์ยุคใหม่ ที่มีการลงโทษประหารชีวิตต่อผู้ก่ออาชญากรรมที่เป็นผู้หญิง
ในตอนหน้า ผมจะเอารายละเอียดในการก่ออาชญากรรมของสองพี่น้อง และ ปูมหลังที่ทำให้ทั้งสองก่ออาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของอียิปต์มาเล่าสู่กันฟังครับ
สวัสดีครับ