ซอกซอนตะลอนไป (19 มิถุนายน 2565)
อิทธิพลของอียิปต์โบราณต่อศาสนายิว(ตอน1)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
หลังจากต้องหยุดเดินทางนานกว่า 2 ปี ก็ได้เวลาเดินทางเจาะลึกอียิปต์ ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ที่ผมรักอีกครั้ง
การท่องเที่ยวที่คลาสสิค และ สบายที่สุดของอียิปต์ ก็คือการล่องเรือสำราญในแม่น้ำไนล์ ระหว่าง อัสวาน กับ ลุคซอร์ ที่ทั้งสองเมืองเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ยังไม่พูดถึงเมืองต่างๆระหว่างทางด้วย
เมืองอัสวาน เป็นเมืองใหญ่เมืองสุดท้ายที่อยู่ใต้สุดของประเทศ มีประวัติศาสตร์เกี่ยวพันกับดินแดนที่อยู่ถัดลงไปทางใต้ เช่น ซูดาน เอธิโอเปีย เป็นต้น ทั้งทางการค้า และ การเมือง
เพราะอัสวานเป็นศูนย์กลางการค้าขายระหว่างอียิปต์โบราณที่อยู่ทางภาคเหนือ กับดินแดนที่อยู่ทางใต้ สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นของป่า ไม่ว่าจะเป็นหนังเสือ หนังสิงโต สมุนไพรต่างๆ และ งาช้าง
เพราะในอียิปต์ไม่มีช้าง
กลางแม่น้ำไนล์ในเมืองอัสวาน มีเกาะขนาดกลางอยู่เกาะหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า เกาะช้าง (ELEPHANTINE ISLAND) เพราะมีก้อนหินขนาดใหญ่ริมน้ำหลายก้อนมีลักษณะเหมือนหัวช้าง และ ก้นช้าง แต่ชื่อที่เรียกกันอย่างเป็นทางการก็คือ เกาะเซเฮล(SEHEL ISLAND)
พื้นดินบนเกาะนี้ส่วนใหญ่เป็นหินแกรนิต ปรากฎทรากสิ่งก่อสร้างที่ทำด้วยหินทราย และ ดินดิบ ระบุว่าน่าจะมาจากยุคอาณาจักรเก่า หรือ อย่างน้อยที่สุดก็คือ 4500 ปีที่แล้ว
ปัจจุบัน เกาะนี้ถูกชาวนูเบียน ซึ่งเป็นชนพื้นถิ่นเข้าไปตั้งบ้านเรือนของตัวเองเรียบร้อยแล้ว
ย้อนกลับไปในปีค.ศ. 1889 ซึ่งเป็นช่วงอียิปต์อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ มีนักหนังสือพิมพ์ และ นักอียิปต์ศาสตร์ชาวอังกฤษชื่อ ชาร์ลส์ เอ็ดวิน วิลบอร์ (CHARLES EDWIN WILBOUR) ผู้ซึ่งใช้เวลานาน 10 ปี ในการค้นหาวัตถุโบราณในบริเวณรอบๆเมืองอัสวาน
และได้มาสำรวจถึงเกาะ เซเฮล แห่งนี้
เขาได้พบโบราณสถานที่รอการขุดของยุคอียิปต์โบราณหลายแห่ง รวมทั้งวิหารที่สร้างถวายแด่เทพี อนูเคต (ANUKET GODDESS)สร้างด้วยหินแกรนิต นอกจากนี้ ยังมีจารึกต่างๆมากมายทั้งที่เป็นของโบราณ และ จารึกของนักท่องเที่ยวมือบอนที่ต้องการจะฝากชื่อของตัวเองเอาไว้
เทพีอนูเคต เป็นเทพีแห่งน้ำ และ น้ำตกในแม่น้ำไนล์ เพราะเหนือขึ้นไปจากเกาะเซเฮล ตามแม่น้ำไนล์ ก็จะพบกับแก่งขนาดใหญ่ ซึ่งในสมัยโบราณคงจะทำให้เกิดภาพของน้ำตกกลายๆขึ้น
ปัจจุบันนี้ บริเวณแก่งน้ำแห่งนี้มีเขื่อนขนาดเล็กที่อังกฤษได้สร้างเอาไว้ให้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เรียกว่า เขื่อนอัสวาน จนกระทั่งในปีค.ศ. 1960 รัฐบาลอียิปต์ ภายใต้การนำของ นัสเซอร์ ได้สร้างเขื่อนที่ใหญ่กว่านั้นอีกแห่งหนึ่ง เรียกว่า เขื่อนใหญ่ (HIGH DAM)
เขื่อนนี้ได้ขึ้นแท่นเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปีค.ศ. 1971
แต่การค้นพบที่ถือว่าน่าตื่นเต้น และ ยิ่งใหญ่ก็คือ การพบจารึกบนหินแกรนิตขนาดใหญ่ที่ไขความลับหลายประการบนเกาะเซเฮล
จารึกนี้เขียนด้วยภาษาเฮียโรกลิฟส์(HIEROGLYPHS) ซึ่งเป็นภาษาหนึ่งของอียิปต์โบราณ กำหนดว่า ผู้มีสิทธิ์ใช้ภาษานี้ได้ จะต้องเป็นฟาโรห์ ราชวงศ์ และ บรรดานักบวชที่ประกอบพิธีทางศาสนาในวิหารเท่านั้น
คำว่า เฮียโรกลิฟส์ แปลว่า ภาษาศักดิ์สิทธิ์
จารึกดังกล่าวถูกเขียนเป็นแนวตั้งที่เรียกว่า แนวคอลัมน์ มีทั้งหมด 42 แนว หรือ 42 คอลัมน์ เป็นเรื่องที่ผมจะเขียนถึงเพื่อเชื่อมโยงไปยังศาศนายูดายของชาวยิว
ติดตามต่อในตอนหน้าครับ
สำหรับท่านที่สนใจจะเดินทางไปเจาะลึกอียิปต์กับผม ผมจะเดินทางอีกครั้งในเดือนตุลาคม โปรดรอช่วงเวลาที่แน่นอนครับ