ซอกซอนตะลอนไป (14 พฤศจิกายน 2564)
เทศกาล ปิตรุ ปักษา ก่อนเทศกาลนวราตรี(ตอน3-จบ)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
ในช่วงเดือนกันยายน ต่อเนื่องเดือนตุลาคม น้ำในแม่น้ำฟัลกู หรือ เนรัญชรา จะมีระดับสูงหน่อย เพราะเป็นช่วงที่หิมะบนเทือกเขาหิมาลัยละลายกลายเป็นน้ำไหลลงมากลายเป็นแม่น้ำคงคา
ชาวฮินดูเชื่อว่า แม่น้ำฟัลกู เป็นสาขาหนึ่งของแม่น้ำคงคา เป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ คำถามต่อมาก็คือ ทำไม ชาวฮินดูจึงนับถือว่า แม่น้ำคงคง เป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์
ผมขอนำตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของแม่น้ำคงคามาให้อ่านกันครับ
ในตำนานของศาสนาฮินดูเล่าว่า มีกษัตริย์องค์หนึ่งจากราชวงศ์ สุริยะวันชา นามว่า ซาการ์(SAGARA) วันหนึ่ง พระองค์ต้องการจะตรวจเช็คว่า เมืองใดที่ยังเป็นพันธมิตรกับพระองค์ ด้วยการปล่อยม้าขาวออกเดินทางออกไปเยี่ยมเมืองต่างๆ
หากเมืองใดให้การต้อนรับขับสู้ม้าขาวตัวนี้เป็นอย่างดี ก็หมายถึงเมืองนั้นยังเป็นพันธมิตรกับพระองค์
การกระทำดังกล่าวไม่เป็นที่สบอารมณ์ของพระอินทร์นัก เพราะพระอินทร์อิจฉากษัตริย์ซาการ์ จึงวางแผนพาม้าตัวดังกล่าวไปปล่อยที่หน้าอาศรมของ นักพรตที่ชื่อ คาปิละ
กษัตริย์ ซาการ์ เห็นว่าม้าของพระองค์หายไป จึงสั่งให้โอรสทั้ง 60,000 พระองค์(อ่านว่า หกหมื่น) ที่ถือกำเนิดด้วยวิธีพิเศษออกตามหาม้าตัวดังกล่าว
(ในโอกาสหน้าผมจะเล่าเรื่อง การมีลูก 6 หมื่นคนของอินเดียโบราณว่าเป็นอย่างไร)
บรรดาโอรสของ กษัตริย์ ซาการ์ออกตามหาม้าจนกระทั่งพบว่า ม้ามาอยู่ที่หน้าอาศรมของนักพรต คาปิละ ซึ่งเป็นนักพรตที่บำเพ็ญเพียรอย่างเคร่งครัดมาเป็นเวลาช้านาน
ตามประวัติระบุว่า ท่านคาปิละ มีชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 7 – 6 ก่อนคริสตกาล หรือ ร่วมสมัยกับพระพุทธเจ้า ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้วางหลักคิดที่สำคัญของปรัชญาฮินดูในตระกูล สางขยะ (SAMKHYA) ที่มีอิทธิพลต่อแนวคิดของหลายศาสนา ไม่ว่าจะเป็น ศาสนาพุทธ หรือ ศาสนาเชน
บรรดาโอรสของกษัตริย์ซาการ์ ส่งเสียงเอะอะที่หน้าอาศรมของ คาปิละ จน คาปิละ ต้องละออกจากสมาธิ และลืมตาขึ้น
ด้วยพลังแห่งสมาธิของคาปิละ ทำให้เจ้าชายทั้งหมด ถูกไฟเผาไหม้เป็นจุลไปในพริบตา
เวลาผ่านไปนานหลายสิบปี เมื่อกษัตริย์ วากิรัต (BHAGIRATHA)ขึ้นครองราช และได้ทราบถึงเรื่องราวการเสียชีวิตของโอรสทั้ง 6 หมื่นองค์ที่มีฐานะเป็นปู่ของพระองค์ ก็เกิดความเสียใจ
ด้วยคำแนะนำของ ครูท่านหนึ่ง วากิรัต จึงออกบวช และบำเพ็ญเพียรอย่างเคร่งครัดถวายแด่พระแม่คงคา เพื่อหวังให้ช่วยฟื้นคืนชีพบรรพบุรุษทั้ง 6 หมื่นองค์
พระแม่คงคาเห็นใจ จึงอวตารมาเป็นแม่น้ำคงคาไหลลงมาจากสวรรค์เพื่อช่วยชุบชีวิต
แต่ด้วยความแรงของสายน้ำ ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อแผ่นดิน และ มนุษย์เป็นมากมาย วากิรัต จึงทูลขอพระแม่คงคาว่า จะทำอย่างไรที่จะลดความแรงของแม่น้ำได้
พระแม่คงคาบอกว่า มีเพียงผู้เดียวเท่านั้น คือผู้มีคอสีน้ำเงิน และ มีผมยาว ที่จะช่วยได้ ชายผู้นี้ก็คือ พระศิวะ
วากิรัต จึงอ้อนวอนต่อพระศิวะขอให้มาช่วย พระศิวะ ใจอ่อนยอมรับที่จะช่วยด้วยการคลี่ผมออกมาเป็นเขื่อนกั้นน้ำที่ไหลแรง ให้น้ำไหลไปตามเส้นผมของพระองค์ก่อนจะถึงโลก ทำให้ความแรงของน้ำลดลงเป็นปกติ
เมื่อแม่น้ำคงคาไหลลงมาสู่โลก ก็ได้ชะโลมไปยังเถ้าอัฐิของโอรสทั้ง 6 หมื่นองค์ของกษัตริย์ซาการ์ โอรสทั้ง 6 หมื่นองค์จึงฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่
ด้วยเหตุนี้ ชาวฮินดูจึงนับถือกันว่า แม่น้ำคงคาเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ตราบจนทุกวันนี้ เมื่อชาวฮินดูจะประกอบพิธีเผาศพ หรือ ประกอบพิธี ทาร์พาน เพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้แก่บรรพบุรุษ ก็จะต้องไปยังแม่น้ำคงคา เพราะเชื่อว่า แม่น้ำคงคาเป็นสายน้ำที่เชื่อมต่อโลกมนุษย์กับ สวรรค์
และต้องเป็นที่เมืองกายา ด้วยเหตุผลของ กายาสูร ตามที่ว่ามา
ในช่วงของเทศกาล ปิตรุ ปักษา ระหว่างวันที่ 22 กันยายน ถึง วันที่ 6 ตุลาคม 2564 สำหรับชาวฮินดูผู้มีฐานะดีหน่อย ก็จะเดินทางไปยังเมืองพุทธคยา เพื่อประกอบพิธีนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีพราหมณ์ เป็นผู้ประกอบพิธีให้ เพราะชาวฮินดูนับถือว่า พราหมณ์เป็นสะพานเชื่อมระหว่าง มนุษย์ กับ สวรรค์
หลังจากประกอบพิธีเสร็จ ชาวบ้านจะมอบเงินทอง และ อาหารให้แก่พราหมณ์ เรียกว่า ทักษิณา
บางรายก็ถึงขนาดซื้อวัวทั้งตัวเพื่อมอบให้แก่พราหมณ์เลยทีเดียว ด้วยหวังว่า เมื่อพราหมณ์รีดนมวัวมาดื่ม น้ำนมที่พราหมณ์ดื่มเข้าไปจะไปถึงบรรพบุรุษผู้ล่วงลับของเขาด้วย
แต่หารู้ไม่ว่า หลังจากผู้ประกอบพิธีกลับไปแล้ว พราหมณ์ก็จะขายวัวตัวนั้นกลับไปให้คนขายวัวอีกครั้ง เป็นไปตามหลักการตลาด และ เศรษฐศาสตร์ท้องถิ่น
ทำให้ผมนึกถึง การตักบาตรเวียนเทียนที่ตลาดเช้าขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
ผมเตรียมแผนที่จะเดินทางไปอินเดีย รัฐกุจราฎ และ โอดิสสา ช่วงเดือนมกราคม ปีหน้า หากสนใจร่วมเดินทางด้วย ติดต่อ 0885786666 หรือ LINE ID – 14092498
พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ