ซอกซอนตะลอนไป (27 กันยายน 2563)
คดีฟ้องหย่าสะเทือนบัลลังก์พรรคคองเกรส(ตอน1)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
คดีชาห์ บาโน เป็นคดีความฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเลี้ยงดูของ สุภาพสตรีชาวมุสลิม นาม ชาห์ บาโบ ต่อสามีของเธอ โมฮัมหมัด อาห์เมด ข่าน นักกฎหมายที่มีชื่อเสียงของเมืองอินดอร์(INDORE) ในรัฐมัธย ประเทศ(MADHYA PRADESH)
เมืองอินดอร์ เป็นเมืองที่ถือว่ามีความเจริญพอสมควร มีมหาวิทยาลัยของเมือง ดังนั้น อินดอร์จึงไม่ใช่บ้านป่าไกลปืนเที่ยง
แม้จะเป็นเพียงคดีฟ้องหย่าของสามีภรรยาธรรมดาๆสองคน แต่ก็สร้างความสั่นสะเทือนต่อบัลลังก์ทางการเมืองของพรรคการเมืองใหญ่ในยุคนั้น คือ พรรค เนชั่นนัล คองเกรส ของ ตระกูล คานธี ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เรื่องเริ่มจาก ชาห์ บาโน แต่งงานกับสามีของเธอ ชีวิตสมรสคงจะไปได้ด้วยดีจนทำให้ทั้งสองมีทายาทร่วมกัน 5 คน
เวลาผ่านไป 43 ปี ข่าน สามีของเธอก็แต่งงานกับสาวน้อยอีกคนหนึ่งที่สาวกว่าเธอมาก ในฐานะภรรยาคนที่สองอย่างถูกต้องตามกฎหมายชาเรีย(SHARIA) หรือ กฎหมายศาสนาของชาวมุสลิม
ทั้งสามคนอาศัยอยู่ด้วยกัน
ก่อนอื่น ต้องเรียนว่า ตามกฎหมายศาสนาของอิสลาม อนุญาตให้ฝ่ายสามีสามารถมีภรรยาได้มากถึง 4 คนในเวลาเดียวกันได้ แต่จะต้องเลี้ยงดูภรรยาทั้งสี่คนให้เท่าเทียมกัน
ซึ่งคำว่า “เท่าเทียมกัน” นี่เอง ที่สร้างปัญหาในการตีความ แม้จนในปัจจุบันนี้ในหมู่ชาวมุสลิมด้วยกัน
จนกระทั่งวันหนึ่ง ข่านขอหย่าจาก ชาห์ บาโน ซึ่งขณะนั้นเธออายุ 62 ปี และให้เธอออกไปจากบ้าน พร้อมกับลูกๆอีก 5 คน โดยมีข้อตกลงว่า ข่านจะจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูให้ บาโน และลูกๆ เดือนละ 200 รูปี
เมษายน ปีค.ศ. 1978 ข่านคงจะเสียดายเงิน ก็เลยหยุดจ่าย 200 รูปีค่าเลี้ยงดู บาโนจึงฟ้องร้องต่อศาลท้องถิ่นของ เมืองอินดอร์ ภายใต้กฎหมาย มาตรา 125 ของ วิธีพิจารณาดคีความอาญา (THE CODE OF CRIMINAL PROCEDURE) เพื่อให้ศาลบังคับให้สามีของเธอจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูเธอ และ ลูกๆต่อไป
ศาลตัดสินให้ ข่าน จ่ายค่าเลี้ยงดูรายเดือนแก่เธอเดือนละ 500 รูปี
กฎหมายที่ บาโน ฟ้องร้องต่อสามีของเธอ เป็นกฎหมายส่วนบุคคล ที่บังคับใช้กับคนอินเดียทั้งประเทศ
เดือนพฤศจิกายน ปีค.ศ. 1978 ข่าน คงจะโกรธอดีตภรรยาของเขาอย่างมาก จึงได้ปฎิบัติการฟ้องหย่าแบบมุสลิมที่ภรรยาไม่สามารถโต้แย้งได้ เรียกว่า ทาลัคสามครั้ง
ตามหลักการของกฎหมาย ชาเรีย ระบุว่า สามีสามารถ “หย่า” ขาดจากภรรยาของเขาได้ เพียงแค่แจ้งกับภรรยาว่า “ฉันขอหย่าเธอ” 3 ครั้ง
หรือ หากเป็นในยุคปัจจุบันนี้ ก็สามารถเขียนข้อความแล้วส่งไปทางไลน์บอกว่า “ฉันขอหย่าเธอ” 3 ครั้ง
การหย่าร้างก็เป็นอันสำเร็จเรียบร้อย ตามกฎหมายศาสนาอิสลาม
จากนั้น ข่านก็นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของศาลว่า หลังจากที่เขาหย่าเธอแบบ ทาลัค แล้ว บาโน จึงไม่ได้เป็นภรรยาของเขาอีกแล้ว เธอจึงไม่อยู่ภายใต้ข้อผูกพันที่เขาจะต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูอีกต่อไป
ยกเว้น ที่ระบุไว้ภายใต้กฎหมายอิสลาม ที่ให้จ่ายเงินภรรยาครั้งเดียวจบ คำนวนออกมาแล้วเป็นเงินประมาณ 5400 รูปี
เดือนสิงหาคม ปีถัดมา ศาลท้องถิ่นได้ออกคำสั่งให้ข่านจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูให้ บาโนเป็นจำนวน 25 รูปีต่อเดือน เป็นค่าดำรงชีพ แต่บาโน ไม่เห็นด้วย จึงฟ้องร้องต่อศาลในปีต่อมา และให้เพิ่มค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 179.20 รูปีต่อเดือน
ข่านโต้แย้งว่า เขาได้แต่งงานครั้งที่ 2 อย่างถูกต้องตามกฎหมายอิสลามแล้ว และ บาโน ไม่ได้อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของเขาอีกต่อไป หลังจากที่เขาได้บอกหย่าตามแบบของอิสลามไปแล้ว
จะเห็นว่า ชาห์ บาโน ฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูจากสามีเก่า บนพื้นฐานของกฎหมายส่วนบุคคลของอินเดีย แต่ข่าน สามีของเธอ ฟ้องร้องเธอด้วยการอ้างกฎหมายศาสนาอิสลาม
ดูท่าว่าจะจูนเครื่องมาเจอกันยากซะแล้ว
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ