ซอกซอนตะลอนไป (13 ตุลาคม 2562)
เปิดโลกมหัศจรรย์ในคุชราฎ และ โอดิสสา(ตอน2)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
เสน่ห์อย่างหนึ่งของเมืองอาห์เมดาบาด ก็คือ การเดินเท้าชมเมืองบนเส้นทางประวัติศาสตร์ ซึ่งจะต้องเริ่มกันตั้งแต่เช้า ในขณะที่ผู้คนชาวเมืองยังไม่ค่อยพลุกพล่านตามท้องถนนนัก หากเลย 10 โมงเช้าไปแล้ว บนถนนจะเต็มไปด้วยแผงขายของ และ ผู้คนที่ออกมาเดินจับจ่ายใช้สอยกันจนแทบจะไม่มีที่เดิน
แต่เป็นความตื่นตาตื่นใจ สวยงามน่ารักไปอีกแบบ
จุดต่อไปของการชมก็คือ วิหารสุริยะเทพของเมืองโมเดห์รา (SUN TEMPLE OF MODHERA)
ผู้ที่นับถือศาสนาฮินดู จะเคารพนับถือเทพเจ้าจำนวนมากมาย มีการคำนวณว่า เทพเจ้าในศาสนาฮินดูมีมากกว่า 3.3 ล้านองค์ทีเดียว ซึ่งเมื่อคำนวณจำนวนประชากรชาวอินเดียทั้งหมดจากสถิติเมื่อสองปีที่แล้ว ประชากรชาวอินเดียมีประมาณ 1300 ล้านคน เมื่อหักลบชาวอินเดียที่นับถือศาสนาอื่นๆออกไปแล้ว ก็จะเหลือชาวอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดูประมาณ 1 พันล้านคน
นั่นหมายความว่า ทุกๆชาวฮินดูอินเดีย 3 คน จะมีเทพเจ้า 1 องค์คอยดูแล ถือว่าหรูมากทีเดียว
แต่ในบรรดาเทพเจ้าหลายล้านองค์นั้น มีเทพเจ้าหลักเพียง 3 องค์เท่านั้น ที่ยืนหยัดรองรับความศรัทธาของชาวฮินดูมานานจนถึงทุกวันนี้ ก็คือ พระศิวะ พระพรหม และ พระวิษณุ
มหาเทพทั้งสามองค์มีหน้าที่แตกต่างกัน กล่าวคือ พระพรหม เป็นผู้สร้าง พระวิษณุ เป็นผู้ปกครอง ผู้รักษา และ ผู้จัดการ ในขณะที่พระศิวะ เป็นผู้ทำลาย ซึ่งน่าจะเข้ากันกับหลักวัฎจักรของการดำเนินไปของโลก คือ มีการสร้าง ดำรงอยู่ และ สลายทำลายไป
นอกจากเทพเจ้าทั้งสามองค์ที่ได้รับความเคารพจากชาวฮินดูแล้ว เทพเจ้าอีกองค์หนึ่งที่มีความสำคัญในศาสนาฮินดูไม่น้อยไปกว่ากันก็คือ สุริยะเทพ หรือ เทพแห่งพระอาทิตย์ (SURYA)
เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากตรงที่ พระอาทิตย์ มักจะได้การเคารพนับถือให้เป็นเทพเจ้าหลักในหลายๆศาสนาของโลก เรื่อยมาตั้งแต่ ศาสนาอียิปต์โบราณ ศาสนาโซโรแอสเทรียนจากอิหร่าน ศาสนากรีกโบราณ ศาสนาโรมันโบราณ ฯลฯ เป็นต้น
อาจจะเป็นไปได้ว่า เนื่องจากบทบาทบางอย่างของสุริยะเทพ มีความคล้ายคลึงกับพระวิษณุ จึงทำให้มีการนับถือกันว่า สุริยะเทพ เป็นปางหนึ่งของพระวิษณุ ทำให้บางครั้ง สุริยะเทพได้รับการเรียกขานว่า สุริยะ นารายัน (SURYA NARAYAN)
นารายัน แปลว่า พระนารายณ์ ซึ่งเป็นอวตานหนึ่งของพระวิษณุ
แม้ว่า สุริยะเทพ จะได้รับการเคารพมาเป็นเวลาช้านานก็ตาม แต่ในช่วงหลัง จะเหลือพื้นที่ไม่มากนักในประเทศอินเดียที่ยังให้ความสำคัญกับ สุริยะเทพ รัฐเหล่านี้ก็อาทิ ราชสถาน , มัธยประเทศ , พิหาร , อุตตระประเทศ คุชราช และ โอดิสสา
สองรัฐหลังสุดก็คือ รัฐที่ผมกำลังจะพาท่านผู้อ่านไปสัมผัสกับโลกมหัศจรรย์อยู่ครับ
วิหารสุริยะเทพที่มีชื่อเสียงที่สุดของรัฐคุชราฎก็คือ สุริยะวิหารที่โมเดห์รา
รัฐคุชราฎ มีพื้นที่หลายแห่งเป็นเขตที่ค่อนข้างจะแห้งแล้ง กันดาร จะเห็นว่า ทางเหนือของรัฐจะมีพรมแดนติดต่อกับรัฐราชสถาน ที่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย
แต่โชคดีที่ รัฐคุชราฎอยู่ติดกับทะเล จึงมีโอกาสได้รับอิทธิพลของลมทะเล ที่เรียกว่า ลมมรสุมที่นำเอาความชุ่มชื้น และ ฝนเข้ามาบ้าง แต่ก็ยังไม่มากเพียงพอ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อนในเรื่องน้ำกินน้ำใช้มาตั้งแต่ยุคโบราณ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน
สถาปัตยกรรมของวิหารฮินดูส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยอาคารย่อย 2 – 3 หลัง อันแรกจะเป็นอาคารที่สำคัญที่สุดซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของเทวรูปประจำวิหาร โดยทั่วไปจะเรียกกันว่า SANCTUM SANCTORUM หรือ HOLY OF THE HOLIES ซึ่งอินเดียเรียกว่า กุดดามานดาปา(GUDHAMANDAPA)
อาคารหลังที่ 2 ที่อยู่จรงกันข้ามก็คือ อาคารสำหรับเป็นที่ชุมนุน หรือ สังสรรของผู้คนที่มากราบไหว้เทพเจ้า และรวมถึงเป็นสถานที่ร้องรำทำเพลง หรือ เต้นระบำเพื่อถวายแด่เทพเจ้าด้วย อินเดียเรียกว่า ซับบามานดาปา (SABHAMANDAPA)
คำว่า MANDAPA ก็คือคำที่ภาษาไทยเราใช้เรียกว่า มณฑป นั่นเอง
วิหารหลังนี้ สันนิษฐานว่าสร้างในราวปีค.ศ. 1024 -1025 ในสมัยของกษัตริย์บิมา ที่ 1 แห่งราชวงศ์ ชัวลุคยา (BHIMA I OF CHAULUKYA DYNASTY) เพื่อเป็นอนุสรณ์และเฉลิมฉลองชัยชนะของพระองค์ที่สามารถยับยั้งการรุกรานของกองทัพของ มาห์มุด แห่ง กาซนิ (MAHMUD OF GHAZNI) ที่ยกทัพมาจากเปอร์เชีย หรือ อิหร่านในปัจจุบัน ที่พยายามจะขยายอำนาจเข้ามาในเมืองโมเดห์รา รัฐคุชราฎ
จนแม้กระทั่งเมื่อ มาห์มุด แห่ง กาซนี่ สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1030 พระองค์ก็ไม่สามารถยึดครอง โมเดห์ราได้ ทั้งๆที่สามารถยึดครองแคว้นปัญจาบ ซึ่งอยู่ถัดขึ้นไปจากรัฐราชสถานได้แล้ว
ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของ ราชวงศ์ชัวลุคยา
สัปดาห์หน้าผมจะมาเล่าเรื่องต่อถึงรายละเอียดที่สวยงามมหัศจรรย์ของ วิหารสุริยะเทพแห่ง โมเดห์รา ซึ่งมีอาคารเก็บน้ำใต้ดินประกอบอยู่ด้วย ทำไมถึงต้องมีอาคารเก็บน้ำใต้ดิน โปรดรออ่านนะครับ
สำหับท่านที่สนใจเดินทางเจาะลึก ดินแดนมหัศจรรย์ รัฐคุชราฎ และ โอดิสสา โปรดรอสักนิดครับ ผมเราได้วางแผนจะนำท่านไปเจาะลึกในช่วงปลายเดือนมกราคม ปีหน้า เป็นช่วงเวลาที่อากาศกำลังสบาย
แต่สำหรับท่านที่ต้องการเจาะลึก อียิปต์ 10 วัน 7 คืน ล่องเรือสำราญ 3 คืนกับผม ซึ่งจะมีทัวร์ระหว่างวันที่ 14 – 23 พฤศจิกายน ติดต่อได้ที่ 02 651 6900 หรือ 088 578 6666 หรือ LINE ID 14092498
ทัวร์รับรองความพอใจครับ