ซอกซอนตะลอนไป (28 กรกฎาคม 2562)
เกมส์ อ๊อฟ โทรน ของฟาโรห์(ตอน 5)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น ฉันใดก็ฉันนั้น
อาเมนโฮเทป ที่ 3 เป็นโอรสของ ธุทโมเซส ที่ 4 ที่เกิดจากมเหสี ทิอา (TIAA) บันทึกบอกว่า แรกทีเดียว ธุทโมเซส ที่ 4 ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งรัชทายาท เพราะมีพี่ชายของเขาซึ่งไม่ทราบว่าเกิดจากมเหสีองค์ไหน ที่อยู่ในตำแหน่งรัชทายาทก่อนหน้าเขาอย่างน้อยก็ 2 คน
เป็นเรื่องปกติของฟาโรห์แห่งอียิปต์ ที่จะต้องมีมเหสีหลายๆพระองค์ ทั้งที่อภิเษกเอง และ ที่กษัตริย์มิตรประเทศถวายมาให้เป็นมเหสี เพื่อแสดงถึงการเป็นมิตร และ ความจงรักภักดี
นอกจากนี้ จากการที่กฎมณเฑียรบาลของอียิปต์โบราณ ระบุให้ฟาโรห์จะต้องแต่งงานกับ พี่สาว หรือ น้องสาวของตัวเองก่อนจะขึ้นครองราชย์ ซ้ำฟาโรห์บางพระองค์ยังแต่งงานกับลูกสาวของตัวเองอีกด้วย อาทิเช่น ฟาโรห์รามเซส ที่ 2
จำนวนมเหสีจึงมีมากมายนับไม่ถ้วน
เมื่อมีมเหสีมากมาย ก็ย่อมมีโอรสธิดาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่เนื่องจากระบบสุขอนามัยของอียิปต์ยุคโบราณไม่ดี อัตราการตายของทารกจึงสูงมาก โอรสที่มีชื่อปรากฏในประวัติศาสตร์จนถึงทุกวันนี้ ก็คือโอรสที่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ปกครองประเทศ หรือ มีบทบาทในประเทศ
ส่วนคนอื่นๆ หากไม่ตายเสียยังตั้งแต่เด็ก ก็มักจะถูกสังหาร หรือไม่ก็หายไปจากประวัติศาสตร์ โดยไม่มีการกล่าวถึง
เช่นเดียวกัน ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า โอรสอย่างน้อย 2 องค์ที่อยู่ในลำดับที่จะขึ้นครองราชย์ก่อน ธุทโมเซส ที่ 4 จึงมาตายไปทีละคนจนหมด ซึ่งนักวิชาการหลายคนเชื่อว่า ธุทโมเซส ที่ 4 เป็นผู้สังหารพี่ชายทั้งสองของพระองค์เอง
ไม่ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรก็ตาม ธุทโมเซส ที่ 4 ก็ได้ขึ้นครองราชย์เป็นฟาโรห์ในที่สุด
ไม่มีข้อมูลใดๆที่ยืนยันว่า แท้ที่จริง เกิดอะไรขึ้นก่อนที่ ธุทโมเซส ที่ 4 จะขึ้นครองราชย์ แต่มีหลักฐานทางโบราณคดีชิ้นหนึ่ง ที่นักโบราณคดีตีความว่า การขึ้นสู่บัลลังก์ของ ฟาโรห์ ธุทโมเซส ที่ 4 น่าจะมีอะไรที่ไม่ตรงไปตรงมานัก
หลักฐานชิ้นนั้นก็คือ ศิลาจารึกแห่งความฝัน (DREAM STELE) หรือบางทีก็เรียกว่า ศิลาจารึกสฟิงซ์ (SPHINX STELE) ซึ่งเคยตั้งอยู่เบื้องหน้า ระหว่างเท้าทั้งสองของสฟิงซ์ ที่เมืองกีซา
เป็นศิลาจารึกที่ ฟาโรห์ ธุทโมเซส ที่ 4 สร้างขึ้นทันทีที่ขึ้นครองราชย์ คือประมาณปี 1401 ก่อนคริสตกาล เป็นหินก้อนสี่เหลี่ยม ขนาดกว้าง 360 เซนติเมตร สูง 218 เซนติเมตร และ หนา 70 เซนติเมตร
จารึกแห่งความฝันแผ่นนี้ บันทึกเอาไว้ว่า
ตอนที่พระองค์ยังหนุ่ม พระองค์ได้ออกไปท่องเที่ยว และล่าสัตว์ในพื้นที่แถบพีระมิดที่กีซ่า จนกระทั่งเวลาเที่ยงวัน พระองค์รู้สึกเหนื่อยอ่อน เมื่อเดินทางมาถึงตัวสฟิงซ์ ซึ่งนับถือเป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ที่ถูกกลบฝังอยู่ภายใต้กองทรายขนาดใหญ่ เหลือแต่เพียงส่วนหัวของสฟิงซ์เท่านั้นที่โผล่พ้นทรายขึ้นมา
ธุทโมเซส ที่ 4 ก็จึงเข้าไปอาศัยร่วมเงาที่เกิดจากศรีษะของสฟิงซ์ เพื่อเอนกายพักผ่อน แล้วพระองค์หลับไป และเข้าสู่ความฝัน
ในฝันของพระองค์ มีเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สุด คือ เทพโฮเรมอัคเคท-เคปปรี-รา-อะตุม(HOREMAKHET-KHEPRI-RA-ATUM) ได้มาปรากฏตัวเบื้องหน้า แล้วพูดกับพระองค์เหมือนบิดาพูดกับบุตรว่า หากพระองค์เอาทรายออกจากตัวของสฟิงซ์เรียบร้อยแล้ว
เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่จะดลบันดาลให้พระองค์ได้เป็นฟาโรห์องค์ต่อไป
หลังจากนั้น ธุทโมเซส ที่ 4 ก็กลับมาทำความสะอาด กวาดทรายออกไปให้พ้นจากตัวของสฟิงซ์จนหมด ซึ่งผลจากการนั้น ธุทโมเซส ที่ 4 ก็ได้กลายเป็นฟาโรห์ของอียิปต์ในเวลาต่อมา
นี่คือบันทึกที่อยู่บนศิลาจารึกแห่งความฝัน ซึ่งปัจจุบันนี้ ถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ บริติช มิวเสียม ในกรุงลอนดอน
นักประวัติศาสตร์จึงตีความว่า ศิลาจารึกแห่งความฝันชิ้นนี้ น่าจะสร้างขึ้นเพื่ออ้างสิทธิ์ที่ถูกต้องของฟาโรห์ ธุทโมเซส ที่ 4 ตามที่เทพเจ้าสูงสุดได้ให้สัญญากับพระองค์เอาไว้
เป็นอีกหนึ่งเกมส์ ของ เกมส์ อ๊อฟ โทรน ของฟาโรห์ ในยุคอียิปต์โบราณครับ
ท่านที่สนใจจะเดินทางกับผม ในรายการ เจาะลึกอียิปต์ 10 วัน 7 คืน พักในเรือสำราญ ระดับ 5 ดาวดีลักซ์ ล่องแม่น้ำไนล์ 3 คืน และ พักโรงแรมบนเกาะกลางแม่น้ำไนล์ในไคโร 4 คืน อาหารอย่างดี บรรยายชมอย่างเจาะลึก ออกทุกเดือน เชิญติดต่อสอบถามได้ ที่ 02 651 6900 หรือ 088 578 6666 หรือ LINE ID 14092498
ออกเดินทางแน่นอน
ท่านที่ต้องการอ่านบทความ “ซอกซอนตะลอนไป” ย้อนหลัง 5 ปี สามารถอ่านได้ที่ บล็อก “ซอกซอนตะลอยไป” ที่ www.whiteelephanttravel.co.th
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ