ซอกซอนตะลอนไป (25 พฤศจิกายน 2561 )
ผู้หญิงอียิปต์ เรียกร้องให้ผู้ชายอียิปต์มีเมียหลายคน
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
สำนักงานกลางสถิติแห่งชาติของอียิปต์ ได้รายงานว่า เมื่อปีที่แล้ว คือ ปีค.ศ. 2017 มีกรณีหย่าร้างของคู่สมรสชาวอียิปต์อยู่ที่ 710,000 คู่ ในขณะที่ปีนี้ซึ่งยังไม่หมดปี มีจำนวนคู่สมรสที่หย่าร้าง 850,000 คู่ เข้าไปแล้ว
ขณะนี้ มีคดีฟ้องร้องขอหย่าร้างเข้ามาสู่ศาลประมาณเดือนละ 2 หมื่นคดี
ที่น่าสนใจก็คือ คดีที่ผู้หญิงเป็นผู้ฟ้องร้องขอหย่าคิดเป็น 64.9 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ผู้ชายเป็นฝ่ายฟ้องร้องขอหย่าเป็น 35.1 เปอร์เซ็นต์
ทั้งๆที่ หากฝ่ายหญิงเป็นผู้ฟ้องร้องขอหย่า เธอจะเป็นผู้เสียประโยชน์ทั้งหมดจากการที่จะได้รับการชดเชยจากฝ่ายชายไป นั่นหมายความว่า ฝ่ายหญิงยอมสูญเสียทุกอย่างตามข้อตกลงที่ทำกันก่อนแต่งงาน แม้กระทั่งค่าใช้จ่ายรายเดือนจากฝ่ายชายด้วยซ้ำ
ฝ่ายหญิงแทบจะลงจากศาลตัวเปล่าทีเดียว จะได้ก็เพียงอิสรภาพ
ผมจะไม่วิพากษ์วิจารณ์ว่า เรื่องนี้เป็นธรรมหรือไม่ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ เรื่องที่ผมกำลังจะเขียนต่อไปนี้
โมนา อาบู ชานับ (MONA ABOU SHANAB) เธอเป็นเจ้าที่ฝ่ายรณรงค์สนับสนุนการมีคู่มากกว่าคนเดียวของอียิปต์ เธอได้ส่งวิดีโอคลิปที่เธอพูดกับผู้ฟังออกสู่สาธารณะ เนื้อหาบอกให้ผู้ชายชาวอียิปต์รับเอาผู้หญิงชาวอียิปต์มาเป็นภรรยาของตนเองให้มากขึ้น
ใครที่ยังไม่มีภรรยา ก็ควรจะแต่งงานซะ ใครที่มีภรรยาอยู่แล้ว ก็ขอให้มีภรรยาเพิ่มขึ้นจนกระทั่งครบตามโควต้าที่กฎหมาย และ ศาสนากำหนดให้มีได้ คือ 4 คน
ทำไมจึงต้องมีการรณรงค์แบบนี้ด้วย
ทั้งนี้เพราะอัตราการหย่าร้างที่สูงมากส่วนหนึ่ง ทำให้ผู้หญิงที่เป็นหม้ายมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง ผู้หญิงหม้ายเหล่านี้ เมื่อแก่ตัวไปจะลำบากเพราะไม่มีใครดูแล รายได้ก็ไม่เพียงพอ และจำนวนไม่น้อยอาศัยอยู่เพียงลำพังคนเดียว
นอกจากนี้ จำนวนประชากรอียิปต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 100 ล้านคนเข้าไปแล้ว เพราะชาวอียิปต์ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการคุมกำเนิด ซ้ำสัดส่วนของประชากรผู้หญิง ต่อประชากรชายชาวอียิปต์ ยังอยู่ในอัตราเกือบ 3 ต่อ 1
ในขณะที่ หากผู้ชายชาวอียิปต์สักคนจะแต่งงาน กลับเป็นเรื่องยากมาก เพราะค่าใช้จ่ายในการแต่งงานสูง ส่วนใหญ่ฝ่ายหญิงมักจะคาดหวังจากู้ชายสูงมาก เช่น ผู้ชายจะต้องมีอพาร์ตเมนต์เป็นของตัวเองเรียบร้อยเสียก่อน ผู้ชายจะต้องดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวในขณะที่เธอจะอยู่บ้านเป็นแม่บ้านเท่านั้น เป็นต้น
หลังจากวิดีโอเทปของ โมนา อาบู ชานับ ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งในทางที่เห็นด้วย และ ที่ไม่เห็นด้วย
แน่นอนว่า คนที่ไม่เห็นด้วยก็คือ บรรดาภรรยาส่วนใหญ่นั่นเอง
เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจมากสำหรับหญิงหม้ายอียิปต์ที่ต้องเลี้ยงดูลูกตามลำพัง เพราะปัจจุบัน เงินเดือนของพนักงานส่วนใหญ่ของอียิปต์อยู่ในอัตราประมาณ 2500 – 3000 ปอนด์อียิปต์ต่อเดือน หรือ คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 5000 ถึง 6000 บาท
ซึ่งค่อนข้างจะยากลำบากมาก หากจะต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองตามลำพัง
ผมจะยกตัวอย่างให้ดูเคร่าๆ อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มของประเทศอียิปต์ในปีพ.ศ. 2559 อยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าของประเทศไทยถึง 3 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว
ต่อมาในเดือนมีนาคม ปีพ.ศ. 2560 ภาษีมูลค่าเพิ่มก็ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 13 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้น เดือนกรกฎาคม ปีเดียวกัน ก็เพิ่มขึ้นเป็น 16 เปอร์เซ็นต์
คิดดูนะครับ ของประเทศไทยแค่จะขยับขึ้นจาก 7 เปอร์เซ็นต์ เป็น 8 เปอร์เซ็นต์ ยังร้องกันกระจองอแง ของอียิปต์เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในช่วงระยะเพียงไม่ถึง 1 ปี ผู้คนจะลำบากแค่ไหน
นี่ยังไม่นับรวมการขึ้นราคาน้ำมัน การขึ้นราคาค่าไฟฟ้า เกือบๆ 50 เปอร์เซ็นต์เข้าไปอีก
ทั้งนี้ ดูเหมือนจะเป็นผลจากการที่รัฐบาลอียิปต์ต้องเข้าโครงการกู้เงินก้อนใหญ่จาก IMF หรือ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ แบบเดียวกับที่ประเทศไทยเคยพบมาในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง
แม้ว่าจำนวนของผู้หญิงโสดจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี และ ถูกบีบคั้นด้วยภาวะทางเศรษฐกิจ แต่ก็เป็นเรื่องแปลกที่สังคมอียิปต์กลับไม่ค่อยมีผู้หญิงโสเภณี
ท่านผู้อ่านที่สนใจจะเดินทางไปเจาะลึกอียิปต์กับผม ซึ่งมีทัวร์ออกเดินทางทุกเดือน และที่ใกล้ที่สุดก็คือ วันที่ 6 – 15 ธันวาคมนี้ ต่อต่อได้ที่ 02651 6900 หรือ 088 578 6666 หรือ ID Line 14092498
ตอนหน้าผมจะมาพูดถึงเรื่องผู้หญิงอียิปต์กันต่อครับ