อุ่นเครื่องแฟมทริปครั้งที่ 2(ตอน2)

ซอกซอนตะลอนไป                           (18 มิถุนายน 2560 )

อุ่นเครื่องแฟมทริปครั้งที่ 2(ตอน2)

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องให้สำหรับสมาชิกที่จะเดินทางไปอียิปต์ 10 วัน 7 คืน ล่องเรือสำราญในแม่น้ำไนล์ วันที่ 6 – 15 กรกฎาคมในราคาสุดพิเศษ 54,500 บาท  จึงขอเกริ่นให้ทราบเรื่องราวความเป็นมาของอียิปต์โบราณให้ทราบเคร่าๆก่อน  แล้วผมจะบรรยายอย่างละเอียดตอนที่เราไปชมสถานที่ต่างๆของอียิปต์

               ท่านที่สนใจจะร่วมเดินทาง สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 088 578 6666 หรือ ID LINE 14092498  

               เมื่อเดินทางลงไปทางใต้จากไคโรไปประมาณ 700 กิโลเมตร  ก็ถึงเมืองลักซอร์(LUXOR) หรือ เมืองธีบส์(THEBES)  เมืองหลวงเก่าของอียิปต์โบราณจากยุคต้นของอาณาจักรกลาง(MIDDLE KINGDOM) และ อาณาจักรใหม่(NEW KINGDOM)


(แผนที่อียิปต์โบราณ จะเห็นเมืองเมมฟิส อยู่ทางเหนือ(ในวงกลม) และ เมือง ธีบส์ ตั้งอยู่ทางใต้ (ในวงกลม))

               เมืองธีบส์ มีเทพเจ้าประจำเมืองที่ได้รับการเคารพนับถือมากองค์หนึ่งก็คือ  เทพอามุน-รา(AMUN-RA)

               อันที่จริง  เทพประจำเมืองธีบส์ ก่อนหน้านั้นก็คือ เทพอามุน(AMUN)  เมื่อฟาโรห์จากทางเหนือลงมาสร้างเมืองหลวงที่นี่  ก็นำเอาเทพเจ้ารา(RA)ที่ตัวเองเคารพนับถือ ตามลงมาด้วย  ผสมผสานกันกลายเป็นเทพ อามุน-รา


(เทพอามุน-รา)

               เทพอามุน-รา มีจุดเด่นที่มีขนนก 2 เส้นอยู่บนศรีษะ มือข้างซ้ายจะถือกุญแจแห่งชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่เทพเกือบทุกองค์จะถือกุญแจแห่งชีวิต(KEY OF LIFE) หรือ (ANKH) ที่ว่านี้ในมือเสมอ 


(เทพีมุท)

(กุญแจแห่งชีวิต)

               เทพอามุน-รามีมเหสีชื่อ  เทพีมุท(MUT)  ซึ่งได้รับการนับถือว่า   เป็นเทพแห่งการเป็นมารดา หรือ แม่  หรือ ราชินีแห่งเทพีทั้งมวล  หรือ  บางครั้งก็เรียกว่า ดวงตาของเทพรา 


(เทพคอนซู)

               เทพอามุน และ เทพีมุท มีลูกด้วยกัน 1 องค์ คือ คอนซู(KHONSU) ซึ่งเป็นเทพแห่งพระจันทร์  ด้วยเหตุนี้  บนศรีษะจึงมีรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว

               เทพทั้งสามกลายมาเป็นครอบครัวเทพ ที่มีสมาชิก 3 องค์ 

               จะเห็นว่า เป็นเทพ 3 องค์อีกแล้ว  เช่นเดียวกันเทพแห่งเมืองเมมฟิส ที่ก็เป็นเทพ 3 องค์ คือ เทพปตาห์ , เซคห์เมท และ เนฟอร์เตม

               ที่เล่าเรื่องครอบครัวเทพที่ประกอบด้วยเทพ 3 องค์นั้น  ก็เพื่อจะเชื่อมโยงให้เห็นว่า  น่าจะมีแนวคิดที่อิทธิพลต่อเรื่อง ไตรเอกภาพ หรือ TRINITY อันหมายถึง  พระบิดา  พระจิต และ พระบุตรในทางศาสนาคริสต์ 

               เพราะศาสนาคริสต์ ก็ได้รับอิทธิพลทางความคิดจากศาสนายูดาย หรือ  ศาสนายิวไปอีกต่อหนึ่ง

               ตำนานเทพของอียิปต์โบราณบอกว่า  เทพอามุน-รา  เป็นเทพที่มองไม่เห็น  หรือ เทพที่ไร้ร่าง  ลูกชายคือเทพคอนซู อยากจะเห็นพ่อของตัวเองมาก   เฝ้าร่ำร้องให้พ่อแสดงตัว  แต่เทพอามุน-ราก็ใจแข็ง 

               จนกระทั่งวันหนึ่ง  เทพอามุน-รา ใจอ่อน  ก็บอกกับลูกว่า จะแสดงร่างของตัวเองให้เห็น  ลูกดีใจมาก  แต่ก็ยังไม่วายที่จะต้องเอาหนังแพะและหัวแพะมาใส่คลุมร่างเอาไว้ 

               ด้วยเหตุนี้  รูปร่างของเทพอามุน-รา จึงอาจจะแสดงออกเป็นรูปคนแต่มีพัวเป็นแพะ  เห็นได้จากรูปสฟิงซ์ที่ตั้งอยู่สองข้างทางเดินของวิหารคาร์นัค ที่เป็นรูปสฟิงซ์หัวแพะ


(ทางเดินสฟิงซ์หัวแพะ ด้านหน้าของวิหารลักซอร์)

               ที่น่าจะเป็นจุดเชื่อมโยงกับศาสนายูดายก็คือ  พระเจ้าสูงสุดของศาสนายูดายที่เรียกว่า  พระยะโฮวา(YAHWEH) นั้น  ก็ไม่มีรูปร่างเหมือนกัน

               ปิดท้ายด้วยรูปของเทพ อามุน-มีน  ที่สร้างเสียงหัวเราะของสมาชิกทัวร์อียิปต์ได้ทุกกรุ๊ป  ซึ่งมีเรื่องราวที่ค่อนข้างพิสดารพันลึก 


(เทพอามุน-มีน)

               ใครอยากฟังต้องตามไปฟังที่อียิปต์ครับ

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *