ซอกซอนตะลอนไป (28 พฤษภาคม 2560 )
อุ่นเครื่องอียิปต์ก่อนแฟม ทริป(ตอน4)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
ก่อนอื่นต้องขอประทานโทษท่านผู้อ่านที่สัปดาห์ที่แล้วผมขาดหายไป เพราะถูกพิษเกสรของดอกสนของญี่ปุ่นทำร้ายจนเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงที่ตา จึงไม่สามารถส่งต้นฉบับมาให้อ่านได้ แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วครับ จึงขอนำเสนอเรื่องราวของอียิปต์มาเล่าต่อครับ
ในขณะที่ท่านผู้อ่านกำลังอ่านบทความนี้ ผมก็คงกำลังนำทัวร์แฟม ทริป พาเอเยนต์ทัวร์ไทยไปเรียนรู้เส้นทางท่องเที่ยวในอียิปต์อยู่ ซึ่งผมจะรายงานกลับมาผ่านทางเฟสบุ๊ค ของผม setthawith cheravinich หรือ white elephant travel agency เป็นระยะ ๆ
เชิญติดตามอ่านนะครับ
ทำไม นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวอียิปต์ จึงพบแต่วิหารขนาดใหญ่ที่สร้างด้วยหิน แต่ไม่พบพระราชวังอันที่เป็นอยู่อาศัยของฟาโรห์เลยแม้แต่หลังเดียว
สันนิษฐานได้ออกเป็นสองกรณีคือ หนึ่ง พื้นที่ของอียิปต์โบราณ น่าจะเคยเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยพืชพันธ์ต่างๆ และต้นไม้ขนาดใหญ่ ดังนั้น พระราชวังของฟาโรห์ จึงอาจจะสร้างด้วยไม้
พระราชวังที่สร้างด้วยไม้เหล่านี้ เสื่อมสลายไปตามกาลเวลา และด้วยภัยธรรมชาติ หรือ ภัยจากไฟไหม้
สอง จากการค้นพบสิ่งก่อสร้างที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ด้านหลังของกำแพงวิหารคาร์นัค ก็ทำให้นักโบราณคดีพอจะจินตนาการสร้างภาพของพระราชวังโบราณของอียิปต์ขึ้นมาได้
สิ่งก่อสร้างที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ก็คือ ทางลาดที่เชื่อกันว่า เป็นทางลาดที่จะนำเอาหินขนาดใหญ่ขึ้นไปวางซ้อนกันเป็นกำแพงสูง ทางลาดที่เหลืออยู่นี้ ทำด้วยก้อนดินดิบ หรือที่เรียกว่า MUD BRICK
ดินดิบ ทำมาจากดินเหนียวเอามามาปั้นเป็นก้อน นำไปตากแดดให้แห้ง แล้วนำไปใช้งานโดยไม่ผ่านการเผาในเตาเผา
อิฐดินดิบจะไม่เก็บความร้อนเหมือนอิฐมอญที่เผาอบด้วยความร้อนสูงๆ ดังนั้น บ้านที่สร้างด้วยดินดิบจะเย็นสบายแม้ในช่วงฤดูร้อน และ จะอบอุ่นสบายในช่วงฤดูหนาว
บ้านแบบนี้ ชนเผ่านูเบียนบางส่วนที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอียิปต์ยังคงใช้งานกันอยู่
แต่จุดอ่อนของอิฐดินดิบก็คือ ไม่แข็งแกร่งเท่าอิฐมอญ และ สามารถละลายได้หายถูกแช่อยู่ในน้ำในเวลานานๆ แต่อียิปต์มีฝนน้อย บ้านเรือนของชนเผ่านูเบียนจึงสามารถอยู่รอดปลอดภัย
บ้านที่สร้างด้วยดินดิบนี้ มีใช้กันทั่วไปในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงมากๆ เช่น ในเมืองทูรูฟาน โอเอซิสกลางทะเลทราย ทะคลามะกันในมณฑลซินเจียงของประเทศจีน ที่มีอุณหภูมิตอนกลางวันในช่วงฤดูร้อนสูงถึง 48 -50 องศาเซลเซียส ก็ใช้ดินดิบมาสร้างบ้านเช่นกัน
หมู่บ้านอะบียาเน ที่อยู่ในหุบเขาทางตอนเหนือของประเทศอิหร่าน ก็สร้างด้วยดินดิบที่ผสมฟางหญ้าเพื่อความเหนียวแน่นคงทน
แม้กระทั่งในทิเบต ซึ่งเมื่อถึงฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิหนาวจัด ก็สร้างด้วยดินดิบผสมฝางหญ้าเช่นกัน อาทิเช่น พระราชวังโปตาลา
จึงน่าจะสันนิษฐานว่า พระราชวังของฟาโรห์อียิปต์โบราณน่าจะสร้างด้วยดินดิบผสมไม้ เพื่อให้เกิดความเย็นภายในพระราชวัง
ดังนั้น เมื่อกาลเวลาผ่านไป พระราชวังเหล่านี้จึงถูกทำลายสูญหายไป จนเหลือเพียงแต่วิหารที่สร้างด้วยหินทราย และ หินแกรนิตเหลืออยู่ให้คนรุ่นหลังได้ชมกัน
นี่คือสาเหตุที่ทำให้เราไม่เห็นพระราชวังของฟาโรห์ในอียิปต์เลย แม้แต่หลังเดียว