ซอกซอนตะลอนไป (28 เมษายน 2560 )
อุ่นเครื่องอียิปต์ก่อนแฟม ทริป
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
ในโอกาสที่ บริษัท ไวท์ เอเลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่ ร่วมกับ สายการบินอียิปต์ แอร์ และ MAK TRAVEL ของประเทศอียิปต์ จัดแฟมทริป อียิปต์เจาะลึก ระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม ถึง 3 มิถุนายนในราคาพิเศษสุด เพื่อให้เพื่อนเอเยนต์ทัวร์ได้มีโอกาสเรียนรู้เส้นทางท่องเที่ยวอียิปต์อย่างละเอียด
ผมจึงขอนำเรื่องราวของอียิปต์โบราณมาเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นการอุ่นเครื่อง
ทำไม อียิปต์จึงเป็นจุดหมายสำคัญของนักประวัติศาสตร์ นักโบราณคดี และ นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่จะต้องไปชมให้ได้สักครั้งก่อนจะตาย
(แผนที่อียิปต์ และเพื่อนบ้านที่อยู่รายรอบ)
เพราะหากพูดถึงอียิปต์ในแง่ดินแดนที่เก่าแก่ อียิปต์ก็คืออู่อารยะธรรมเก่าแก่ที่สุด 1 ใน 4 ของโลก นอกเหนือจาก เมโสโปเตเมีย อินเดีย และ จีน
แต่ถ้าพูดถึงในแง่มุมศาสนา ศาสนาอียิปต์โบราณก็ถือว่าเป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดศาสนาหนึ่ง และถือเป็นต้นธารของศาสนาอีกหลายศาสนาเช่น ศาสนายูดายของชาวยิว , ศาสนาคริสต์ และ ศาสนาอิสลาม
ถ้าพูดในแง่ของความลึกลับ ความมหัศจรรย์ ความน่าฉงนสนเท่ห์ อียิปต์ก็มีเรื่องที่ยังลี้ลับ ไร้คำตอบ และ ยังรอการค้นหาอีกมากมาย แม้ในวันที่เทคโนโลยี่ของโลกจะก้าวหน้าไปมากที่สุดแล้วก็ตาม
อย่างเช่นเมื่อ 2 เดือนที่แล้วที่มีการค้นพบรูปสลัก ในย่านมาทาริยา (MATARIYA) ในเขตที่เรียกว่า เฮลิโอโปลิส (HELIOPOLIS) อันเป็นเขตที่อยู่อาศัยของคนรวย ซึ่งตอนแรกนักโบราณคดีเชื่อกันว่า เป็นรูปสลักของฟาโรห์รามเซสที่ 2 จากราชวงศ์ที่ 19 ของยุคอาณาจักรใหม่
(การค้นพบที่เป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลกของรูปสลักที่แต่เดิมเข้าใจว่า เป็นของรามเซส ที่ 2)
แต่ต่อมาภายหลัง นักวิชาการก็ยืนยันว่า แท้ที่จริงแล้วเป็นรูปสลักของ ฟาโรห์ ซามเมติคุส ที่ 1(PSAMMETICHUS I ) จากราชวงศ์ที่ 26 ซึ่งเป็นช่วงที่อียิปต์โบราณถูกปกครองโดยอาณาจักรแอสซีเรียน และ ฟาโรห์ ซามเมติคุส ที่ 1 ก็เป็นผู้ที่แอสซีเรียน แต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ของอียิปต์
(รูปสลักของฟาโรห์ รามเซส ที่ 2 ที่เมืองเมมฟิส)
ยุคสมัยของฟาโรห์ รามเซส ที่ 2 อยู่ก่อนหน้ายุคสมัยของฟาโรห์ ซามเมติคุส ที่ 1 ถึง 600 ปีเศษ
(พระนามของรามเซสที่ 2 ที่สลักอยู่ตรงหัวเข็มขัด เป็นเครื่องยืนยันว่า เจ้าของรูปสลักดังกล่าวเป็นใคร)
และแม้จนทุกวันนี้ ยังมีข่าวการค้นพบขุมทรัพย์ต่างๆที่เก็บซ่อนไว้ในที่ต่างๆ และ การค้นพบมัมมี และสมบัติต่างๆในสุสานอยู่เสมอ ซึ่งทำให้เกิดการคลี่คลายของประวัติศาสตร์อียิปต์โบราณไปในระดับหนึ่ง และอาจจะทำให้ประวัติศาสตร์ของอียิปต์โบราณเปลี่ยนแปลงไปก็ได้
ลำพังแค่เรื่องพีระมิด และ สฟิงซ์ ที่กีซ่า ก็ยังไม่อาจหาข้อสรุปได้ในหลายๆประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือ มนุษย์เมื่อประมาณ 4500 ปีที่แล้ว สร้างสิ่งก่อสร้างที่แสนมหัศจรรย์นี้ได้อย่างไร เพราะในสมัยนั้น เครื่องมือทดแรงประเภท “รอก” ยังไม่เกิด
และเครื่องมือในการตัดหิน ก็ยังมีเพียงแค่บรอนซ์ ที่ยังไม่แข็งเท่ากับเหล็ก แต่ทำไม เขาจึงสามารถตัดหินแกรนิตที่มีความแข็งแกร่งกว่าได้
ที่สำคัญก็คือ เขาสามารถตัดหินแกรนิตได้เป็นแนวตรง จนเมื่อเอามาวางเป็นเสาเรียงกัน ก็สามารถเล็งแนวของขอบเสาเป็นเส้นตรงเดียวกันตลอด
(ในวิหารทำมัมมี (VALLEY TEMPLE) จะเห็นแนวของเสาหินแกรนิต ที่วางเรียงกัน และมีแนวตรงกันเป็นเส้นตรงอย่างไม่น่าเชื่อ – ภาพโดยคุณศุภชัย หงส์จินตกุล)
นอกจากนี้ ยังเป็นปริศนาจนถึงวันนี้ว่า ชาวอียิปต์โบราณทำการขนย้ายแท่งหินแกรนิตมาจากเมืองอัสวาน ไปยังไคโรที่อยู่ห่างกันประมาณ 1 พันกิโลเมตรได้อย่างไร
เหล่านี้ คือ สิ่งที่สมาชิกแฟม ทริปอียิปต์จะไปชมกัน เพื่อทำโปรแกรมขายร่วมกันที่เรียกว่า ไอยคุปต์ คอนซอร์เตี้ยม สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจจะไปท่องเที่ยวอียิปต์ สามารถซื้อได้จากทุกเอเยนต์ในประเทศไทย
โปรแกรมที่ว่านี้ จะเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เดือนตุลาคม นี้เป็นต้นไป
รอติดตามนะครับ
