ซอกซอนตะลอนไป (20 พฤษภาคม 2561 )
อุม คุลธุม ราชินีเสียงทองผู้ระเบิดไมค์โครโฟน (ตอนจบ)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
เธอย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในกรุงไคโรอย่างถาวรในปีค.ศ.1923 และที่นี่เอง เธอได้เรียนรู้การเล่นดนตรีบางชนิดเช่น ขลุ่ยแบบอียิปต์ ได้รู้จักกันนักประพันธ์เพลงชื่อดังในยุคนั้นอย่าง อาห์หมัด รามิ (AHMAD RAMI) ซึ่งต่อมาได้แต่งเพลงให้เธอร้องมากถึง 137 เพลง
เพลงยุคนั้นของเธอ จะเป็นเนื้อร้องแบบบทกวี บทประพันธ์คลาสสิค และ บทกวีของชนชั้นสูง
อาจเนื่องจากเธอมีกำเนิดมาจากครอบครัวยากจน จึงทำให้เธอสงบเสงี่ยมเจียมตน ไม่ทำตัวประหลาดแบบศิลปินคนอื่นๆในยุคนั้น จึงทำให้ได้รับความเมตตาจากนักประพันธ์เพลง และ ศิลปินดนตรีอื่นๆช่วยส่งเสริมสนับสนุนเธอขึ้นมา
เธอค่อยๆสั่งสมชื่อเสียงขึ้นมาเรื่อยๆ และด้วยเวลาอีกเพียง 9 ปี แผ่นเสียงของเธอก็ขายดิบขายดีไปทั่วทั้งภูมิภาค ไม่เพียงแต่เฉพาะในอียิปต์เท่านั้น จนทำให้เธอต้องเริ่มเดินสายไปแสดงทั่วทั้งภูมิภาคตะวันออกกลาง และ ภูมิภาคอัฟริกาตอนเหนือ เช่น ซีเรีย อิรัก เลบานอน มอรอคโค ตูนีเซีย และ ลิเบีย
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และมากมายเพราะ ในขณะที่ศิลปินนักร้องคนอื่น มักจะจัดการแสดงคอนเสิร์ตแบบเฉพาะกลุ่ม แต่เธอนิยมที่จะจัดการแสดงต่อหน้าสาธารณะชนทั่วไป
นี่เป็นจุดเปลี่ยนอย่างหนึ่งของวงการดนตรีของอียิปต์ ที่บทประพันธ์ หรือ เพลงแบบคลาสสิค และ เพลงแบบคนชั้นสูง กลายมาเป็นดนตรีที่ชาวบ้านทั่วไปก็ชื่นชอบในโลกของชาวอาหรับ
ในปีค.ศ. 1934 เธอเริ่มร้องเพลงสดออกทางสถานีวิทยุกระจายเสียง หลังจากนั้น รายการเพลงทางวิทยุของเธอก็ได้รับความนิยมอย่างสูงสุด
ว่ากันว่า ชาวอียิปต์จะรีบกลับบ้านในวันพฤหัสบดีแรกของเดือน แล้วนั่งล้อมวงหน้าเครื่องรับวิทยุเพื่อฟังเสียงร้องของเธอ คล้ายกับคนไทยที่รีบกลับบ้านมาดูละคร “บุพเพสันนิวาส” อย่างไรอย่างนั้น
เทศกาลร้องเพลงทางวิทยุของเธอจะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม ไปจนถึงเดือนมิถุนายน
ชื่อเสียงของเธอโด่งดังมากจนกระทั่งราชสำนักของอียิปต์ (ราชวงศ์มูฮัมหมัดอาลี) ต้องเชิญให้เธอเข้าไปร้องเพลงในพระราชวัง จนในปีต่อมา เธอก็ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดที่เรียกว่า นิชาน เอล คามาล (NISHAN EL KAMAL)
เธอสนิทสนมกับราชสำนักมากจนกระทั่งมีข่าวว่า ลุงของกษัตริย์ฟารุค ที่ 1 ประสงค์ที่จะอภิเษกกับเธอ แต่ได้รับการคัดค้านจากกษัตริย์ฟารุค ซึ่งทำให้เธอสะเทือนใจอย่างมากจนต้องทำตัวห่างออกมาจากราชสำนักในเวลาต่อมา
ในบรรดาคนที่นิยมชมชอบการร้องเพลงของเธอนั้น มีนายทหารที่ชื่อ กามาล อับเดล นัสเซอร์ รวมอยู่ด้วย เขาเป็นหนึ่งในผู้การก่อการปฎิวัติรัฐประหารขับไล่กษัตริย์ฟารุคออกไปจากประเทศในปีค.ศ. 1953
ความนิยมของเธอมีมากขนาดที่ รายการผู้นำพูดกับประชาชนของ นัสเซอร์ ต้องอยู่ต่อจากรายการเพลงของเธอเพราะมีแฟนรายการเพลงจำนวนมากฟังอยู่
เธอให้การสนับสนุนกองทัพอียิปต์มาโดยตลอด และมักจะร้องเพลงเพื่อระดมทุนให้แก่กองทัพในยามที่ประเทศต้องทำสงครามกับอิสราเอล จนมีข่าวว่า เธอและนัสเซอร์ มีใจตรงกัน แต่ไม่อาจจะรักกันได้ เพราะต่างก็มีคู่อยู่แล้ว
สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอก็คือ พลังเสียงที่จะหาใครเทียบได้ยาก ครั้งหนึ่งเธอร้องเพลงโดยมีไมโครโฟนวางอยู่ตรงหน้า พลังเสียงของเธอทำให้ไมโครโฟนตัวนั้นระเบิดเสียหายไปทันที จนตอนหลัง เขาต้องวางไมโครโฟนให้สูงกว่าระดับปากของเธอ
เพลงของเธอแต่ละเพลงจะมีความยาวประมาณหนึ่งชั่วโมเศษๆ เฉพาะดนตรีอินโทรดักชั่นก็กินเวลากว่า 15 นาทีแล้ว เธอจะนั่งรอขณะดนตรีเริ่มเล่น จนกระทั่งเมื่อเธอลุกขึ้นเพื่อร้องเพลง คนดูจะปรบมือให้เธออย่างเกรียวกราวทีเดียว
ข้างล่างนี้ก็คือ ลิงค์ที่นำไปสู่ยูทิว ที่เป็นการแสดงคอนเสริตของเธอ ลองฟังดูนะครับ
ทุกคนที่เข้าไปชมการแสดงของเธอ จะต้องแต่งกายด้วยชุดสูทสากล และ ผู้หญิงก็จะต้องแต่งชุดราตรียาว เป็นการชมการแสดงที่ให้เกียรติแก่ผู้แสดงอย่างยิ่ง
ด้วยการร้องเพลงที่ใช้พลังเสียงมากแบบนี้นี่เอง ทำให้เมื่ออายุเธอมากเข้า ดวงตาของเธอก็มีอาการโปนออกมามากกว่าปกติ จนบางครั้งเธอต้องหยุดร้องไปเป็นครั้งคราว
ปกติ เธอจะร้องเพลงในรายการแสดงประมาณ 2 ถึง 3 เพลง ซึ่งกินเวลาประมาณ 3 ถึง 4 ชั่วโมง แต่เมื่อสุขภาพของเธอแย่ลง เธอต้องลดจำนวนเพลงที่ร้องลงด้วย
เธอเสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ปีค.ศ. 1975 ขณะอายุ 76 ปี
แม้เธอจากเสียชีวิตไปกว่า 40 ปีแล้วก็ตาม แต่ด้วยความโดดเด่นในพลังเสียงที่ไม่เหมือนใคร เธอจึงได้รับการจดจำจากชาวอียิปต์ในฉายาว่า “พีระมิดองค์ที่ 4 ของอียิปต์” ซึ่งถือเป็นการให้เกียรติอย่างสูงสุด
อุม คุลธุม ราชินีเสียงทองผู้ระเบิดไมโครโฟน
สำหรับท่านที่สนใจจะเดินทางท่องเที่ยวแบบเจาะลึกอียิปต์ กับผม และ ไวท์ เอเลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่ ผมมีกรุ๊ปที่จะเดินทางครั้งต่อไปในวันที่ 19 – 28 กรกฎาคม นี้ ซึ่งรับประกันออกเดินทางแน่นอน สามารถติดต่อไปที่ 02 651 6900 หรือ 088 578 6666 หรือ ID Line 14092498
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ