ระทึกกับเที่ยวบิน UA560(ตอนจบ)

ซอกซอนตะลอนไป                           (17 มิถุนายน 2561 )

ระทึกกับเที่ยวบิน UA560(ตอนจบ)

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               ในที่สุด  ผมก็ได้ขึ้นมานั่งบนเครื่องบิน ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ UA560 เพื่อเตรียมเดินทางไปลอส แองเจลิส

               แต่เรื่องระทึกยังไม่จบ 

               พอเครื่องบินถูกผลักออกจากงวง  ผมก็หลับไปก่อน  มารู้สึกตัวอีกครั้งก็ได้ยินเสียงประกาศ และ เสียงพูดอื้ออึงของผู้โดยสาร  เมื่อมองออกไปนอกเครื่องบิน   ก็เห็นว่าเครื่องบินกำลังเคลื่อนกลับมาที่งวงเทียบเครื่องบินอีกครั้ง


(อีเมล์แรกบอกเครื่องบินดีเลย์ประมาณ 1 ชั่วโมง)  

               เพื่อนที่ไปด้วยกันเล่าให้ฟังว่า  ตอนที่ผมหลับนั้น  พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้เดินเก็บบอร์ดดิ้ง พาสส์จากผู้โดยสารทั้งหมด   และ ขอหมายเลขโทรศัพท์ของผู้โดยสารเหล่านั้นด้วย  

               แต่ก็แปลกที่ว่า  เมื่อเขามองเห็นผมนอนหลับอยู่   ก็ไม่ได้เรียกเก็บบอร์ดดิ้ง พาสส์ จากผม 

               ผมก็ยังไม่เข้าใจจนทุกวันนี้ว่า   หากเขาต้องการจะตรวจสอบรายชื่อ  หรือ  จำนวนผู้โดยสารทั้งหมดบนเครื่องบิน  ทำไมไม่เรียกเอาบอร์ดดิ้ง พาสส์ของผมไปด้วย    


(อีเมล์ที่สอง บอกเครื่องบินดีเลย์อีก 15 นาที)

               ทราบทีหลังว่า  สาเหตุที่ต้องเรียกเก็บบอร์ดดิ้ง พาสส์ ก็เพราะ มีการตรวจพบว่า  จำนวนบอร์ดิ้ง พาสส์ ที่ได้บันทึกด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ตอนจะผ่านขึ้นเครื่อง  ไม่ตรงกับจำนวนผู้โดยสารบนเครื่องบิน

               ดูเหมือนว่า จะต่างกันอยู่ประมาณ 20 คน 

               สาเหตุที่จำนวนไม่ตรงกันนั้น น่าจะมาจากการที่พนักงานสายการบินปล่อยให้ผู้โดยสารสแกนบอร์ดดิ้ง พาสส์ ด้วยตัวเองตอนจะเดินขึ้นเครื่องบิน   ซึ่งโดยปกติ  พนักงานของสายการบินทุกสายการบินจะต้องทำหน้าที่สแกนด้วยตัวเอง  เพื่อป้องกันความผิดพลาด 


(อีเมล์ที่ 3 บอกเครื่องบินดีเลย์ไปอีก 30 นาที)

               ในกรณีนี้   อาจเป็นไปได้ว่า  ผู้โดยสารสแกนบอร์ดดิ้ง พาสส์ ไม่ถูกต้อง  จึงทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถบันทึกบัตรโดยสารใบนั้นๆได้ 

               ถือเป็นการทำงานสุดชุ่ยของพนักงานสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์

               นอกจากนี้  ก็ยังมีอีกปัญหาหนึ่งคือ   ผู้โดยสาร 2 คน ได้บอร์ดดิ้ง พาสส์ เลขที่นั่งเดียวกัน  ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติมากมายแต่ประการใด 

               แต่ที่ผิดปกติมากที่สุด และ ถือเป็นความชุ่ยของทั้งระบบคอมพิวเตอร์  และ  การทำงานของพนักงานก็คือ  บอร์ดดิ้ง พาสส์ ทั้งสองใบนั้น   เป็นชื่อผู้โดยสารคนเดียวกัน


(อีเมล์สุดท้ายบอกว่า  ออกเวลา 11.08 น. เสียเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ  แต่ไม่วายยังบอกว่า  สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีก)

               ผมทำทัวร์มา 30 กว่าปี   เคยเจอเรื่องที่นั่งซ้ำกันบ้างเป็นบางครั้ง  ซึ่งไม่บ่อยนัก  และในช่วง 5 ปีหลังไม่เคยเจอเลย    แต่ในกรณีหมายเลขที่นั่งซ้ำกัน  และ ชื่อผู้โดยสารยังเป็นชื่อเดียวกันอีกนั้น 

               เรื่องแบบนี้เพิ่งจะเจอเป็นครั้งแรกในประเทศอเมริกานี่แหละ

               ในช่วงที่วุ่นวาย และ ร้อนใจของผู้โดยสาร  พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก็ประกาศเรียกชื่อผู้โดยสารบางคนให้มาพบกับพนักงานต้อนรับ  แล้วก็ประกาศให้ทราบถึงสถานการณ์บนเครื่องว่า  จำนวนผู้โดยสารที่ยังเกินจากจำนวนบัตรโดยสารที่สแกนจากเครื่องคอมพิวเตอร์ตรงประตูทางขึ้นเครื่องว่า  เหลืออีกกี่คน

               บางครั้งก็บอกว่า  เรียบร้อยแล้ว  ปิดประตูเครื่อง  แล้วก็ฉายภาพยนต์บรรยายเกี่ยวกับการปฎิบัติตัวบนเครื่องบินในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน

               แล้วในเวลาต่อมา ก็ประกาศว่า  ยังไม่เรียบร้อย   แล้วสักพัก ก็บอกเรียบร้อย  แล้วก็ฉายภาพยนต์ที่บรรยายเกี่ยวกับการปฎิบัติตัวบนเครื่องบินอีกครั้ง

               ผมจึงเลยพลอยได้ความรู้ใหม่ว่า  ทุกครั้งที่มีการเปิดประตูเครื่องบิน และปิดประตูเครื่องบินทุกครั้ง  จะต้องฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับความปลอดภัยนี้ทุกครั้ง 

               คืนนั้น  คิดว่าผมได้ดูภาพยนตร์เรื่องความปลอดภัยนี้  ไม่ต่ำกว่า 4 – 5 ครั้งทีเดียว

               ในที่สุด  พนักงานต้อนรับก็ประกาศว่า  เครื่องบินพร้อมจะเดินทางได้แล้ว  ก็ไม่รู้ว่าเขาแก้ปัญหาได้จริง หรือ ตัดสินใจว่า  บินๆไปเหอะ  ผู้โดยสารจะขาดหรือเกินไปบ้างก็ช่างมัน

               ในระหว่างนั้น  สายการบินก็ส่งอีเมล์มาแจ้งเข้ามาเป็นระยะๆให้ผู้โดยสารเจ็บใจว่า  เครื่องบินเลื่อนเวลาบินออกไปอีกแล้ว

               สรุปว่า  สายการบินเสียเวลาเพราะความชุ่ยของพนักงานไปราว 2 ชั่วโมง  ทำให้ถ้านับตั้งแต่เราเดินทางถึงสนามบิน ซาน ฟรานซิสโก จนกระทั่งเครื่องบินเดินทางถึง ลอส แองเจลิส ก็กว่า 6 โมง


(อีเมล์สุดท้ายที่สายการบินส่งมา   ยังมีหน้ามาถามความคิดเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์ในการบินในเที่ยวบินนี้อีก ช่างซื่อบื้อซะจริง)  

               ซึ่งหากเดินทางโดยรถยนต์  ก็น่าจะใช้เวลาน้อยกว่านี้

               ไม่น่าเชื่อว่า  ประเทศที่คุมเข้มเรื่องกฎการบินของทั่วโลก  จะห่วยแตกกับสายการบินของตัวเอง และในประเทศตัวเองได้ขนาดนี้

               คราวหน้า  หากท่านผู้อ่านจะต้องเดินทางโดยสายการบินในประเทศสหรัฐอเมริกา   ก็กรุณาทำใจเอาไว้ก่อนนะครับ  จะได้ไม่หงุดหงิด

               สวัสดี

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , .

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *