ซอกซอนตะลอนไป (4 มิถุนายน 2560 )
ทำไม ผู้คนจึงช้อปปิ้งสินค้าที่สนามบินญี่ปุ่นราวกับแจกฟรี
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
ขอคั่นจังหวะด้วยการเอาประสบการณ์สดๆร้อนๆมาเล่าสู่กันฟัง แทนเรื่อง อุ่นเครื่องอียิปต์ก่อนแฟมทริป เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่สนใจและเป็นประโยชน์มาก
ในระหว่างที่อยู่ในสนามบินฮาเนดะ ของประเทศญี่ปุ่นเพื่อรอขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพ ผมได้เห็นปรากฎการณ์ที่น่าทึ่งของชาวญี่ปุ่น
ในร้านปลอดภาษีของสนามบิน นักท่องเที่ยวเข้าคิวรอจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าในร้านสินค้าปลอดภาษีราวกับรับของแจกฟรี จนล้นออกมานอกร้านเป็นแถวยาวเหยียด

(คิวของนักท่องเที่ยวที่รอจ่ายเงินที่ร้านปลอดภาษีในสนามบินฮาเนดะ ล้นออกมานอกร้านยาวเหยียด)
เหตุการณ์แบบนี้ ไม่มีวันเกิดขึ้นในสนามบินของบ้านเราเด็ดขาด
เพราะอะไร
เพราะคุณภาพสินค้าของญี่ปุ่นดีมากหรือ หรือ สินค้าญี่ปุ่นราคาถูกมากหรืออย่างไร
อาจจะมีส่วนถูกทั้งสองข้อ เพราะสินค้าญี่ปุ่นในปัจจุบันนี้ ได้รับการยอมรับว่า มีคุณภาพได้มาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องของสุขอนามัย และ ความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
ญี่ปุ่นประสบความสำเร็จอย่างมาก ในการสร้างความรู้สึกมั่นใจของผู้บริโภคต่อสินค้าของเขาได้อย่างลึกซึ้งในช่วงระยะเวลาประมาณ 40 ถึง 50 ปีที่ผ่านมา
ผมจำได้ว่า ในอดีตเมื่อ 40-50 ปีที่แล้ว สินค้าญี่ปุ่นถือเป็นสินค้าคุณภาพแย่ หากเทียบกับสินค้าของยุโรป เช่นเดียวกับที่เรารู้สึกต่อสินค้าจีนในขณะนี้อย่างไรอย่างนั้น แต่ปัจจุบัน ไม่มีใครกล้าสบประมาทสินค้าญี่ปุ่นอีกแล้ว
สินค้าประเภทอาหาร และ ขนม เป็นสินค้าที่นักท่องเที่ยวไม่ว่าจากประเทศไหนก็ตาม มักจะหาซื้อกลับบ้านกันอย่างมาก อย่างเช่นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่แห่กันมาซื้อนมผงของเด็กทารก และ ผ้าอ้อม กลับบ้านกันขนานใหญ่ เพราะมั่นใจในความปลอดภัยของสินค้าญี่ปุ่นมากกว่าสินค้าของจีนที่นับวันจะปลอมปนมากขึ้น
ครั้งหนึ่ง นักท่องเที่ยวไทยก็บ้าคลั่ง ขนมคิตแคทชาเขียว จนกวาดซื้อกันหมดร้านทั้งนอกและในสนามบิน จนสถานทีโทรทัศน์เอ็นเอชเค ของญี่ปุ่น ต้องมาทำข่าวและสารคดีด้วยความสงสัยว่า ทำไมคนไทยถึงได้คลั่งไคล้ขนมคิ๊ตแคทกันขนาดนี้
ตอนนี้ สินค้าที่นักท่องเที่ยวจากทุกประเทศบ้าคลั่งกันก็คือ ขนมโปเตโต้ฟาร์ม ที่ทำจากมันฝรั่งของฮ๊อคไกโด จนถึงขนาดที่ร้านค้าต้องกำหนดให้ซื้อได้คนละ 1 กล่องเท่านั้น ทั้งนี้เพราะ นักท่องเที่ยวมั่นใจในรสชาติที่หวานหอมของมันฝรั่งของฮ๊อตไกโด
และที่สำคัญ เพราะสินค้าเหล่านี้มีคุณภาพได้มาตรฐานความปลอดภัยทั้งจากยาฆ่าแมลง และ ปุ๋ยเคมี (ไม่เหมือนปลาสิดตากแห้งของไทยที่มีข่าวว่า ใช้ดีดีทีฉีดพ่นบนตัวปลาด้วยซ้ำ) ปลอดจากสารกระตุ้นต่างๆ และ ราคาที่ได้มาตรฐาน

(ร้านขายของทะเลแช่แข็งภายในสนามบินฮ๊อกไกโด ราคาเท่ากับร้านข้างนอก แถมยังมีการบริการใส่กล่องโฟมและสารสร้างความเย็นแพ็คให้อย่างดีอีกต่างหาก)
สินค้าเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นอาหารสำเร็จรูป หรือ อาหารปรุงต่อหน้า ราคาขายทั้งในและนอกสนามบินจะเท่ากัน หรือ ต่างกันกันแต่ประมาณ 50 หรือ 100 เยน หรือประมาณ 15 ถึง 30 บาทเท่านั้น

(ภายในสนามบินฮ๊อกไกโด ยกตลาดสดอาหารทะเลซึ่งเป็นสินค้าพื้นเมือง หรือ สินค้าโอทอป เข้ามาไว้ในสนามบิน และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เนื่องจากเขาไม่ได้ขายในราคาที่เอาเปรียบนักท่องเที่ยวจนเกินไป)
ผิดกันกับในสนามบินในประเทศไทยทุกสนามบิน ที่โขกสับนักท่องเที่ยวอย่างไร้คุณธรรม หากจะอ้างว่า ค่าเช่าที่ในสนามบินมีราคาแพง ก็น่าสงสัยว่า ทั้งค่าเช่าที่ดิน ค่าเงินเดือนของพนักงาน ค่าวัตถุดิบ ค่าภาษีของประเทศญี่ปุ่น ล้วนสูงกว่าประเทศไทยมากนัก
ทำไม เขาจึงยังคุมราคาขายในสนามบินให้เท่ากับราคาขายนอกสนามบินได้

(ร้านราเม็งภายในสนามบินฮ๊อกไกโด ราคาชามละ 800 เยน เท่าๆกับราคาขายในเมือง)
แค่ราคาก๋วยเตี๋ยวที่ขายกันข้างนอกในร้านระดับมาตรฐานประมาณ 75 บาท ถึง 100 บาท ร้านเดียวกันนี้เอง เมื่อขายในสนามบิน กลับมีราคาสูงกว่า 2 ถึง 3 เท่าทีเดียว
เรื่องแบบนี้ การท่าอากาศยานน่าจะเข้าไปจัดการ อย่าปล่อยให้ผู้โดยสารสายการบินต้องถูกเอาเปรียบจนเกินไป เหมือนกรณีแท็กซี่หน้าสนามบินตบทรัพย์นักท่องเที่ยวเลยครับ