ทัวร์ไทย-เกาหลี ว่าด้วยทัวร์ศูนย์เหรียญ และขนคนหนีทัวร์(ตอน 3)

ซอกซอนตะลอนไป                           (27 สิงหาคม 2560 )

ทัวร์ไทย-เกาหลี ว่าด้วยทัวร์ศูนย์เหรียญ และขนคนหนีทัวร์(ตอน 3)

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               ประชาชนที่ถือพาสปอร์ตไทย  ได้รับความไว้วางใจจากหลายประเทศให้ไม่ต้องขอวีซ่าในการเดินทางเข้าประเทศนั้นๆ  เช่น  ประเทศ ญี่ปุ่น  เกาหลี  ตุรกี  รัสเซีย  เป็นต้น

               แต่ละประเทศให้สิทธิคนไทยอยู่ในประเทศของเขาได้ไม่เท่ากัน  เช่น  ญี่ปุ่นให้อยู่ได้ไม่เกิน 15 วัน ,  รัสเซียให้อยู่ได้นานไม่เกิน 30 วัน  ตุรกีให้อยู่ได้นานไม่เกิน 30 วัน  ในขณะที่เกาหลีให้อยู่นานที่สุด 90 วัน

               จึงไม่แปลกที่จะมีคนไทยต้องการจะเข้าไปทำงานในเกาหลีกันอย่างมากมาย   เพราะอยู่ได้นานวันกว่า   และค่าแรงในเกาหลีจะสูงกว่าในประเทศไทยประมาณ 3 เท่า


(ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเรื่อง)

               ก่อนหน้าที่จะมีทัวร์ศูนย์เหรียญของเกาหลีนั้น   ราคาทัวร์ไปเกาหลีจะอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นบาทขึ้นไป  ซึ่งสำหรับคนที่ตั้งใจปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวเพื่อจะหนีไปทำงานนั้น ถือว่าค่อนข้างจะแพงอยู่

               หากคิดจะซื้อตั๋วเครื่องบินแล้วเดินทางเข้าไปโดยลำพัง  ราคาตั๋วเดี่ยวจะแพง และอาจไม่สามารถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีได้  

               แต่เมื่อเกิดทัวร์ศูนย์เหรียญราคาถูกขึ้น  การหนีทัวร์ไปทำงานในเกาหลีก็ง่ายขึ้น และมีจำนวนมากมากขึ้นเรื่อยๆ   ทั้งพวกที่ไปทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมแถบเมืองซูวอน  หรือ พวกที่ไปทำงานในสวนเกษตร เป็นต้น

               โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  สุภาพสตรีที่เข้าไปทำงานเป็นหมอนวดในเกาหลี  ที่มีจำนวนมาเป็นพิเศษ

               เพื่อนๆหัวหน้าทัวร์เกาหลีหลายคนเล่าให้ฟังว่า   มักจะถูกผู้หญิงไทยที่ไปทำงานหมอนวดในเกาหลีขอร้องให้ช่วยเป็นธุระจัดการพาเพื่อนๆ หรือญาติให้เดินทางมาเกาหลี   ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ไม่เกี่ยง 


(ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเรื่อง)

               ทำไม  พวกเธอถึงกล้าเสี่ยง  กล้าจ่ายเงินมากๆเพื่อเดินทางเข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมายในเกาหลี 

               ทั้งนี้เพราะอัตราค่านวดในเกาหลีจะอยู่ที่ประมาณ 100,000 วอนต่อชั่วโมง   คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 3,000 บาท  ในขณะที่ค่านวดในประเทศไทยที่อยู่ประมาณชั่วโมงละ 150 – 200 บาท 

               มันช่างเป็นอัตราค่าจ้างที่เย้ายวนใจเหลือเกิน 

               แต่นั่นก็ต้องแลกด้วยการกินอยู่แบบประหยัด  ต้องรวมๆกันเช่าห้องพักกับเพื่อนหลายๆคน   และไม่สามารถกินแบบที่ใจต้องการได้ 


(ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเรื่อง)

               แม้ว่าคนที่แอบหนีไปทำงานในเกาหลี  เลือกที่จะอยู่ในเกาหลีไม่เกิน 90 วันแล้วกลับเมืองไทย  ซึ่งจะทำให้บุคคลนั้นไม่ถูกขึ้นบัญชีดำไม่ให้เข้าประเทศเกาหลีภายในระยะเวลา 1 ปีข้างหน้า 

               แต่ก็เป็นเรื่องผิดกฎหมายแรงงานของเกาหลี และ เชื่อว่า กองตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีก็คงจะรู้ว่า  นั่นคือการแอบหนีเข้ามาทำงาน  เพราะคงไม่มีใครที่จะเข้าไปเที่ยวเกาหลีนาน 90 วัน  


(“คิม ฮยอง จุน” โจรเกาหลีย่ามใจลักลอบเข้าประเทศกะลวงสาวไทยไปค้าประเวณีในแดนโสม สุดท้ายจนมุมถูก DSI รวบก่อนหิ้วขอศาลฝากขัง(18 สิงหาคม 2560) เผยประวัติแสบเป็นผู้ร้ายตามหมายจับของตำรวจสากลภาพและข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ )

               ยิ่งตอนนี้   มีข่าวเรื่องแกงค์ชาวเกาหลีหลอกหญิงไทยไปค้าประเวณีในเกาหลีแล้วด้วย   ยิ่งทำให้เขาต้องเข้มงวดมากขึ้น  

               ดังนั้น  การที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเกาหลี  ไล่คนไทยที่เพิ่งเดินทางไปถึงให้ขึ้นเครื่องกลับในทันที   จนบางครั้งแทบจะไล่ผู้โดยสารกลับทั้งลำเลยนั้น  ก็เป็นเรื่องที่ไม่เกินกว่าเหตุ  

               อย่าไปโกรธที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเกาหลี ไล่นักท่องเที่ยวไทยกลับอย่างไม่ให้เกียรติเลย    เพราะคนไทยไม่รักษาเกียรติ และศักดิศรีของตัวเองต่างหาก

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *