ซอกซอนตะลอนไป (4 กุมภาพันธ์ 2561 )
ก่อนจะมาเป็นดาราศาสตร์ และ โหราศาสตร์ (ตอน3)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
ทำไม ชาวอียิปต์โบราณจึงให้ความสำคัญแก่ฤดูน้ำท่วมมากเป็นพิเศษ และ กำหนดให้ฤดูน้ำท่วมเป็นฤดูกาลแรกของปี เสมือนวันขึ้นปีใหม่ของโลกปัจจุบัน
อาจจะเป็นไปได้ว่า ฤดูน้ำท่วม เป็นฤดูกาลแห่งการพักผ่อน และ เฉลิมฉลองของชาวอียิปต์โบราณ เพราะในช่วงเวลานี้ ชาวนาไม่สามารถทำงานในไร่นาของตนเองได้เลย ได้เพียงแต่รอเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ จึงมีการสันนิษฐานโดยนักวิชาการว่า ฟาโรห์คูฟู ผู้สร้างพีระมิดองค์ใหญ่สุดในบรรดาพีระมิด 3 องค์ที่เมืองกีซ่า เลือกที่จะใช้แรงงานของชาวนาที่ไม่มีงานทำในช่วงฤดูน้ำท่วมของทุกปีเป็นระยะเวลาประมาณ 4 – 5 เดือน มาเป็นผู้สร้างสุสานขนาดใหญ่ของพระองค์
โดยที่แรงงานเหล่านี้จะได้รับค่าจ้างเป็นผลตอบแทน
เนื่องจากในสังคมของอียิปต์โบราณ นอกจากชนชั้นฟาโรห์ หรือ ชนชั้นผู้ปกครองแล้ว ชนชั้นอื่นที่มีอำนาจบารมี และ ได้รับการเคารพนับถือมากอีกชนชั้นหนึ่งก็คือ ชนชั้นนักบวช
นักบวชจะอาศัยอยู่แต่ภายในวิหารของตนเองที่มีรั้วรอบขอบชิด แต่ก็ยังจะต้องมีความรอบรู้ในเรื่องราวความเป็นไปต่างๆภายนอกรั้วของวิหารอย่างดียิ่งด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่จะมีผลกระทบต่อความอยู่ดีกินดีของประชาชน เพราะนักบวชเหล่านี้จะต้องให้คำปรึกษาแก่ฟาโรห์ หรือ ชนชั้นปกครองอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นว่าควรจะจัดเก็บภาษีมากน้อยแค่ไหนในปีนี้ ปีหน้า
และรวมทั้งการพยากรณ์ปรากฎการณ์ต่างๆตามธรรมชาติให้แก่ฟาโรห์ได้รู้ล่วงหน้าด้วย เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว นักบวชก็จะไม่สามารถแสดงบารมีของตนเองให้เหนือฟาโรห์ได้
เนื่องจากอียิปต์โบราณใช้ปฎิทินแบบจันทรคติ ซึ่งใช้พระจันทร์เป็นตัวชี้วัน และ เดือน แต่พระจันทร์ใช้เวลาในการโคจรรอบโลก 1 รอบ ใน 29 วัน 12 ชั่วโมง 44 นาที กับอีก 29 วินาที ไม่ใช่ 1 เดือนตามที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกัน
ดังนั้น ปฎิทินแบบจันทรคติ จึงไม่อาจให้ความเที่ยงตรงได้ นักบวชในยุคอียิปต์โบราณจึงต้องหาเครื่องมืออื่นๆมาช่วยในการกำหนดเวลาตามปฎิทินด้วย
เครื่องมือที่ว่าก็คือ หมู่ดาวต่างๆ
ชาวอียิปต์โบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชนชั้นนักบวช มีวิธีที่จะบอกว่า เมื่อใดใกล้จะถึงฤดูน้ำท่วมแล้ว ด้วยการดูดาวซิริอุส(SIRIUS) หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า ดาวหมา หรือ ดาวโจร บนท้องฟ้า
เนื่องจากดาวซิริอุส เป็นดาวที่มีแสงสุกสว่างที่สุดในหมู่ดาวหมา เพราะดาวซิริอุส มีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ประมาณ 2 เท่า และมีแสงสว่างมากกว่าดวงอาทิตย์ถึง 25 เท่า ทั้งๆที่ดาวซิริอุส อยู่ห่างจากโลกมากกว่าระยะทางจากโลกกับดวงอาทิตย์ถึง 27, 664 เท่า
ดาวซิริอุส จึงเป็นจุดสังเกตที่เห็นได้ง่ายบนท้องฟ้า
ก่อนหน้าที่ดาวซิริอุส จะโผล่ขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออก และตอนที่ดาวซิริอุส โผล่ขึ้นจากขอบฟ้านั้น สภาพอากาศจะค่อนข้างร้อนชื้น อัดทึบน่าอึดอัดมาก ด้วยเหตุนี้ จึงเรียกวันที่อากาศร้อนมากๆแบบนี้ว่า DOG DAY
เมื่อใดก็ตามที่นักบวชอียิปต์โบราณสังเกตเห็นดาวซิริอุส ปรากฎขึ้นที่ขอบฟ้าทางทิศตะวันออก นั่นหมายความว่า ฤดูน้ำท่วมกำลังจะมาถึงแล้ว
และด้วยเหตุที่ฤดูน้ำท่วมจะนำเอาความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินกลับคืนมา เพื่อให้มนุษย์ตระเตรียมการในการเพาะปลูก หลังจากฤดูกาลแห่งการเก็บเกี่ยวผ่านไป
ชาวอียิปต์โบราณจึงมีการบูชาเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ เพื่อร้องขอให้ปีนั้นสามารถทำการเพาะปลูกได้ผลดี เทพีองค์ดังกล่าวเรียกว่า เทพีโซปเดท (SOPDET)
ซึ่งในช่วงเวลานั้นก็น่าจะต้องมีเทศกาลเฉลิมฉลองของเทพี โซปเดท อีกเช่นกัน และเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่สำคัญของอียิปต์โบราณ
สนใจจะเดินทางเจาะลึกอียิปต์กับผมและ ไวท์ เอเลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่ ซึ่งออกเดินทางเป็นซีรี่ส์ทัวร์ทุกเดือน ใกล้ที่สุดคือ 1 – 10 มีนาคม และ 10 – 19 เมษายน ติดต่อ 02 651 6900 หรือ 088 578 6666 หรือ ID Line 140924978
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ