ซอกซอนตะลอนไป (9 ธันวาคม 2559 )
ไต้หวัน เมื่อจำต้องใช้นโยบายเปิดประเทศ(ตอน 2)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
20 พฤษภาคม ปีพ.ศ. 2559 ประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวันที่เป็นผู้หญิง นามว่า ไฉ้ อิง เหวิน ก็ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 12 ของไต้หวัน
ไฉ้ อิง เหวิน มาจากพรรค DPP ซึ่งมีนโยบายคนละขั้วกับพรรค กั๊วมินตั๋ง
พรรคกั๊วมินตั๋ง มีนโยบายญาติดีกับจีนแผ่นดินใหญ่ แต่พรรค DPP มีนโยบายไม่เอาด้วยกับจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งแสดงออกมาชัดเจนตั้งแต่สมัยของประธานาธิบดีเฉิน สุ่ย เปียน
ทันทีที่นางขึ้นดำรงตำแหน่ง ก็แสดงท่าทีในเรื่องนี้อย่างชัดเจน และแสดงตัวว่าเข้าด้วยกับอเมริกา และ ญี่ปุ่น เพื่อจะยันกับจีนแผ่นดินใหญ่
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไต้หวันแสดงความสนใจอย่างมากที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกเขตการค้า TPP (TRANS – PACIFIC PARTNERSHIP) ที่มีอเมริกาเป็นหัวเรือใหญ่ และทำให้อเมริกายอมขายอาวุธล็อตใหญ่ให้แก่ไต้หวันโดยมีเจตนาแอบแฝงว่า ต้องการให้ไต้หวันเป็นตัวแทนของอเมริกาในการประจันหน้ากันจีนแผ่นดินใหญ่เป็นด่านแรก
นับตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ซึ่งไฉ้ อิง เหวิน ได้ประกาศจุดยืนของไต้หวันว่า จะเลิกคบค้ากับจีนแผ่นดินใหญ่ แต่จะเข้าไปอิงแอบกับ อเมริกา และ ญี่ปุ่นอย่างเต็มที่
จีนแผ่นดินใหญ่จึงลดความสัมพันธ์กับไต้หวันลง ขั้นต้นก็คือ ไม่สนับสนุนให้คนจีนแผ่นดินใหญ่มาเที่ยวไต้หวัน แค่นี้ไต้หวันก็หน้ามืดแล้ว
เพราะนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวไต้หวันลดลงกว่าครึ่งในทันที
ก่อนหน้านั้นเมื่อ 2 – 3 ปีก่อน ไต้หวันก็เจอปัญหาเรื่องนักท่องเที่ยวมาแล้ว เมื่อตอนที่ญี่ปุ่นประกาศยกเว้นวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวไทย ทำให้นักท่องเที่ยวไทยที่เข้าไต้หวันลดจำนวนลงอย่างมีนัยยะสำคัญ แม้ว่าจะยังไม่สร้างปัญหาหนักให้แก่ไต้หวันมากนักก็ตาม
แต่ไต้หวันก็ได้เรียนรู้บทเรียนจากญี่ปุ่นแล้วว่า ผลของการเปิด “วีซ่า ฟรี” ให้แก่นักท่องเที่ยวไทย ทำให้รายได้ของญี่ปุ่นเฉพาะจากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดขนาดไหน
แต่คราวนี้ การลดลงของนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนซึ่งมีจำนวนมากอย่างมีนัยยะสำคัญ และกระทบกระเทือนเศรษฐกิจของไต้หวันอย่างหนักหน่วง
ไฉ้ อิง เหวิน จึงไม่อาจอยู่นิ่งเฉยได้ เพราะไม่เพียงปัญหาเรื่องนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดลงอย่างมหาศาลเท่านั้น แต่ยังเกิดปัญหาเรื่องความไม่แน่นอนเรื่องเขตการค้า TPP ที่อเมริกาเป็นผู้ริเริ่มขึ้น หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีของประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน
เพราะทรัมป์ ได้ประกาศนโยบายของตนเองอย่างชัดเจนว่า จะยกเลิกเขตการค้า TPP เท่ากับว่า อเมริกาจะละทิ้งเขตการค้าในด้านเอเชีย – แปซิฟิค
การค้าสินค้าที่จับต้องได้นั้น ไต้หวันส่งออกสินค้าจำพวกไอทีไปสู่อเมริกาจำนวนมหาศาล หากอเมริกายกเลิก TPP เท่ากับตลาดใหญ่ของไต้หวันหายวับไปกับตา
แล้วไหนจะเรื่องรายได้จากการท่องเที่ยวอีก ที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนที่หายไป ฉุดรายได้ทั้งค่าโรงแรมที่พัก ค่าพาหนะต่างๆ ค่าอาหารการกิน และ รายได้ของบรรดาผู้คนที่เกี่ยวข้องอยู่ในแวดวงธุรกิจท่องเที่ยวด้วย เช่น พวกผลิตของที่ระลึกขายให้นักท่องเที่ยว
ไต้หวันจึงต้องประกาศให้นักท่องเที่ยวชาวไทย ไม่ต้องทำวีซ่าที่แสนจะยุ่งยากมากเรื่องในการเดินทางไปท่องเที่ยวไต้หวัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559 หรือประมาณ 4 เดือนที่แล้ว
ยังผลให้นักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางเข้าไต้หวัน เพิ่มจำนวนมากขึ้นกว่า 300 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว แต่ก็ยังเป็นจำนวนแค่หลักแสน
เมื่อนักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้าสู่ไต้หวันมากๆ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวไต้หวัน จึงรีบทำการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวไทย
เมื่อฐานคะแนนเสียงของพรรค DPP อยู่ในภาคใต้ จึงไม่น่าแปลกใจประการใดที่ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวของไต้หวัน จะเน้นสนับสนุนส่งเสริมการท่องเที่ยวเฉพาะภาคใต้ที่เป็นฐานคะแนนเสียงของตนเองเท่านั้น
ฟังดูชักคุ้นๆกับน้ำเสียงแบบนี้ในประเทศไทย
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ