ซอกซอนตะลอนไป (3 กุมภาพันธ์ 2560 )
ร้านซักรีดที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ตอน1)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
เมืองใหญ่ที่สุด และสำคัญที่สุดของภาคใต้ของอินเดียก็คือ มุมไบ(MUMBAI) ซึ่งเคยรู้จักกันในอดีตมาเป็นเวลาช้านานว่า บอมเบย์(BOMBAY) อันเป็นชื่อที่อังกฤษเปลี่ยนจากชื่อเดิมของเมืองนี้ตามความถนัดลิ้นของตัวเอง จนกระทั่งเมื่อประมาณ 22 ปีที่แล้ว รัฐบาลอินเดียได้ประกาศเปลี่ยนชื่อ บอมเบย์ ให้กลับมาเป็น มุมไบ ตามชื่อเมืองเดิมอีกครั้ง
ทุกเมืองในอินเดียล้วนแต่มีประชากรหนาแน่น แต่มุมไบ ค่อนข้างพิเศษกว่าเมืองอื่น เพราะได้รับการขนานนามว่า เป็นเมืองที่มีพลเมืองหนาแน่นที่สุดของอินเดีย เนื่องจากมีประชากรที่อยู่ในการสำรวจสัมมะโนประชากรประมาณ 20 ล้านคน
ยังไม่นับที่อยู่นอกสำรวจอีกไม่รู้กี่สิบล้านคน
ดังนั้น ราคาของบ้านพักที่อยู่อาศัยจึงแพงมหาโหด ขายกันในอัตราตารางฟุตเหมือนกับในฮ่องกง
ห้องพักในคอนโดมิเนียน ระดับปานกลางในมุมไบ ขายกันในราคาประมาณ 650 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 23000 บาท ต่อหนึ่งตารางฟุต
ชนชั้นกลางของอินเดียแทบจะไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของกันเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้ จึงมีธุรกิจหลากหลายชนิดที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากปัญหาที่อยู่อาศัยแพงนี้ หนึ่งในธุรกิจนั้นก็คือ ธุรกิจซักรีดเสื้อผ้า ซึ่งทำให้กลายเป็นร้านซักรีดเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก
มหาลักษมี โดบีกาด (MAHALAXMI DHOBI GHAT)
สาเหตุที่ได้ชื่อ มหาลักษมี โดบี กาด ก็เพราะสถานที่ซักผ้าแห่งนี้ ตั้งอยู่ในเขตสลัมที่อยู่ไม่ห่างจากสถานีรถไฟ มหาลักษมี เท่าไหร่นัก
สถานซักผ้าแห่งนี้ เปิดบริการมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1890 หรือประมาณ 127 ปีมาแล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่อินเดียตกอยู่ภายใต้การยึดครองของเครือจักรภพอังกฤษ
ภายในสถานที่ซักผ้าดังกล่าว จะมีบ่อน้ำที่ก่อด้วยซีเมนต์แข็งแรง สำหรับเอาไว้แช่ผ้าก่อนที่จะซัก วิธีการซักผ้าขั้นตอนหนึ่งก็คือ การเอาผ้าฟาดลงไปบนหินอีกก้อนหนึ่ง นอกเหนือจากการใช้แปรงซักผ้าแบบที่ใช้กันทั่วไป
ตอนที่ผมเข้าไปชมสถานที่ซักผ้าแห่งนี้เมื่อปีที่แล้ว ก็ได้เห็นพัฒนาการของระบบการซักผ้าของ มหาลักษมี โดบิกาด ที่แตกต่างไปจากการซักผ้าเมื่อประมาณสิบกว่าปีที่แล้วอย่างมาก เพราะมีการเอาเครื่องซักผ้าเข้ามาช่วยในการซักผ้าด้วย
แต่ก็ยังไม่ละทิ้งวิธีการซักผ้าแบบดั่งเดิม คือการเดินย่ำไปบนเสื้อผ้าต่างๆนั่นเอง มองเห็นแล้วก็อดรู้สึกหยะแหยงไม่ได้
นอกเหนือจากที่ได้เห็นน้ำในบ่อซีเมนต์ที่ค่อนข้างดำคล้ำเอาเรื่องอยู่
ท่านผู้อ่านอาจจะถามว่า ใครเป็นเจ้าของสถานที่ซักผ้าแห่งนี้
คำตอบก็คือ ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว แต่จะอยู่ในรูปของคณะกรรมการที่มีจำนวนประมาณ 5 – 6 คนที่จะทำหน้าที่บริหารงาน เก็บเงิน พร้อมทั้งทำบัญชีด้วย
ทุกเช้า จะมีเจ้าหน้าที่นำรถบรรทุกออกไปขนผ้าจากสถานที่ต่างๆเข้ามา เพื่อให้ทีมงานทำหน้าที่ซักรีดไปตามขั้นตอน จนกระทั่งเย็น เจ้าหน้าที่คนเดิมก็จะขนเอาผ้าทั้งหลายที่ซักรีดเรียบร้อยแล้วขนกลับมาใส่รถบันทุกเพื่อส่งกลับคืนไปให้เจ้าของ
หัวหน้าสถานซักผ้า มหาลักษมี โดบีกาด บอกว่า ผ้าทุกชิ้นจะถูกส่งไปกลับให้เจ้าของโดยไม่มีการหลงหายไปที่อื่น
ผ้าเหล้านี้ก็มาจากหลากหลายสถานที่ เช่น ตามบ้านเรือนต่างๆ เสื้อผ้าชุดทำงานของบริษัทห้างร้านต่างๆ ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนของโรงพยาบาล รวมถึง ผ้าปูที่นอนปลอกหมอน และ เช็ดตัวของโรงแรมบางแห่ง
โชคดีที่โรงแรมแมริออต ที่ผมพัก ไม่ได้ส่งมาซักที่นี่ ไม่งั้นคงจะนอนไม่หลับแน่
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ
(สำหรับท่านที่สนใจเดินทางท่องอินเดีย – มหาราชา แบบสะดวกสบาย กับ บริษัท ไวท์ เอเลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่ ชม ถ้ำอะชันตา เอลลอร่า มุมไบ จ๊อดปูร์ อุไดปูร์ เมาท์ อาบู วัดเชนที่แกะสลักด้วยหินอ่อนทั้งหลัง ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม ถึง 8 เมษายน นี้ ขอเชิญสอบถามและสำรองที่นั่งได้ที่ โทร 02651 6900 )