ซอกซอนตะลอนไป (15 เมษายน 2559 )
กษัตริย์ลุดวิก ที่ 2 แห่งบาวาเรีย(ตอน 2)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
หรือเพราะสวรรค์เล่นตลก แทนที่จะให้ลุดวิก ที่ 2 ไปเกิดเป็นสถาปนิก หรือ นักก่อสร้าง กลับส่งเขามาเกิดเป็นกษัตริย์แห่งแคว้นบาวาเรีย เสียนี่
เนื่องจากเหตุการณ์เรื่องราวของกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 150 ปีแล้ว ดังนั้น รายละเอียดเกี่ยวกับพระองค์อาจจะเลือนราง สูญหาย หรือ มีการบันทึกด้วยอคติบ้างก็เป็นได้
มีบันทึกประวัติศาสตร์ที่พูดถึงกษัตริย์ลุดวิก ที่ 2 ชี้เป็นนัยว่า พระองค์น่าจะมีรสนิยม และ พฤติกรรมที่ค่อนข้างจะแปลกสักหน่อย
ว่ากันว่า ในช่วงวัยรุ่น กษัตริย์ลุดวิก ที่ 2 ทรงเป็นเพื่อนสนิทของ พอล แมกซิมิเลี่ยน ลามอรัล วอน ธุร อุนด์ ทาซิส (PAUL MAXIMILIAN LAMORAL VON THURN UND TAXIS) ซึ่งเป็นนักแสดงรูปหล่อที่มาจากตระกูลขุนนางที่ร่ำรวย
ทั้งสองมักจะขี่ม้าไปด้วยกัน อ่านบทกวีออกมาดังๆ และ แสดงโอเปร่าจากบทกวีของ ริชาร์ด ว๊ากเนอร์ด้วยกัน
อันที่จริง ฟังดูก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลก หากว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองจะไม่ขาดสะบั้นลงเมื่อพอลไปมีความสัมพันธ์กับหญิงอื่น
นอกจากนี้ บันทึกประวัติศาสตร์ยังบอกอีกว่า ตลอดรัชสมัยของกษัตริย์ลุดวิก ที่ 2 พระองค์ทรงพัวพันอยู่กับบรรดาผู้ชายรูปหล่อจำนวนมาก เช่น หัวหน้าผู้รับใช้ในราชสำนัก ดาราละครเวทีชาวฮังกาเรียน และ ที่ปรึกษาของราชสำนัก
จุดนี้เอง ที่นักวิจารณ์ประวัติศาสตร์มักจะคิดไปว่า กษัตริย์ลุดวิกที่ 2 เป็นเกย์ หรือ พวกรักร่วมเพศ
กระนั้น ช่วงเวลาหนึ่งของพระองค์ พระองค์ได้หมั้นหมายกับ ดัชเชสส์ โซฟี ซึ่งเป็นพระญาติของพระองค์ และเป็นน้องสาวของ จักรพรรดินี อลิซาเบธ ซีซี ของราชวงศ์ฮับส์เบิร์ก แห่งออสเตรีย
แต่เมื่อมีการเลื่อนหมายกำหนดการที่จะมีพิธีอภิเษกสมรสออกไปหลายครั้งเรื่อยๆ ในที่สุด ก็มีการประกาศถอนหมั้นดังกล่าวโดยพระเจ้าลุดวิก เอง
กระนั้นก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์ลุดวิก ที่ 2 กับ จักรพรรดินี อลิซาเบธ ซีซี ก็ยังคงแน่นแฟ้นต่อมาตลอดชีวิตของลุดวิก
น่าสนใจตรงที่มีการค้นพบบันทึกของลุดวิก ที่ 2 ที่เริ่มบันทึกตั้งแต่ ปีค.ศ. 1869 หรือประมาณ 2 ปีหลังจากที่พระองค์ประกาศยกเลิการหมั้นหมายกับเจ้าหญิงโซฟี ว่า
พระองค์พยายามจะเก็บกดความรู้สึกทางเพศเอาไว้ และพระองค์พยายามที่จะซื่อสัตย์ต่อความเชื่อทางศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิค ทั้งนี้เพราะ แนวทางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิคนั้น ต่อต้านความคิดในเรื่องรักร่วมเพศ
หากใครเคยเข้าไปชมพระราชวังนอยชวานสไตน์ และได้ชมห้องต่างๆของพระเจ้าลุดวิก ที่ 2 ก็จะพบว่า ห้องนอนของพระองค์ตกแต่งประดับประดาค่อนข้างแปลก เพราะใช้ลูกแก้วทรงกลมสีน้ำเงิน แล้วใส่เทียนไขเข้าไปข้างใน
เมื่อเปลวเทียนสะบัดไปมา แสงเทียนที่วูบวาบจะให้แสงสีน้ำเงินวูบวาบฉาบไปที่ผนังห้องสีน้ำเงินด้วย
การจุดเทียนในลูกแก้วกลมในห้องนอนนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลก อาจจะดูน่าโรแมนติคด้วยซ้ำ แต่การใช้ลูกแก้วสีน้ำเงินในห้องนอนนี่ซิ พูดตรงๆว่า รู้สึกแปลกๆชอบกล และ ทำให้อดเชื่อตามคำกล่าวหาของนักประวัติศาสตร์ไม่ได้ว่า
กษัตริย์ลุดวิกที่ 2 เป็นพวกรักร่วมเพศ
ปัญหาหนักสุดของพระองค์ก็คือ การที่พระองค์ไม่ค่อยสนพระทัยในการปกครองประเทศ และมักจะหายตัวไปจากเมืองหลวงเป็นเวลานานๆไปสู่โลกส่วนตัวในจินตนาการของพระองค์เสมอ โดยไม่สนพระทัยในเรื่องการปกครองแผ่นดิน
ในระหว่างนี้ พระราชวัง 3 แห่งก็ถูกสร้างขึ้น ตามจินตนาการของพระองค์
ด้วยเหตุผลหลายประการ วันที่ 10 มิถุนายน ปีค.ศ. 1886 หลังจากขึ้นครองราชย์มาได้นาน 22 ปี กษัตริย์ลุดวิก ที่ 2 ก็ถูกรัฐบาลบาวาเรียประกาศว่า ทรงเป็นผู้เสียสติ และ ไม่อาจครองบัลลังก์เป็นกษัตริย์ได้อีกต่อไป แล้วให้ เจ้าชายลิวต์โพลด์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของ กษัตริย์ลุดวิก ที่ 2 เป็นผู้สำเร็จราชการแทน
แม้ว่าพระองค์จะพยายามขัดขืนด้วยการเรียกร้องให้ชาวบาวาเรียออกมาสู้ให้กับพระองค์ ก็ไม่เป็นผล
เช้าวันที่ 12 มิถุนายน พระองค์ถูกคุมตัวไปกึงคุมขังที่พระราชวังที่ริมทะเลสาบสตาร์นเบิร์ก(LAKE STARNBURG) พร้อมด้วยคุณหมอกุดเด้น(DR.GUDDEN) หมอประจำตัวของพระองค์
ก่อนจะขึ้นรถม้าเพื่อเดินทางไปยังทะเลสาบสตาร์นเบิร์ก อดีตกษัตริย์ลุดวิก ที่ 2 ได้หันมาถาม คุณหมอกุดเด้นว่า
“คุณหมอวินิจฉัยว่า ผมเป็นบ้าได้อย่างไร ทั้งๆที่ไม่ได้ตรวจร่างกายผมเลย”
6 โมงเย็นของวันที่ 13 มิถุนายน หลังอาหารค่ำ พระเจ้าลุดวิก ที่ 2 ได้ชวนหมอกุ้ดเด้นออกไปเดินเล่นริมทะเลสาบ ซึ่งหมอกุ้ดเด้นก็ยินดีไปเดินด้วย โดยมีกำหนดว่าจะกลับมาในเวลา 2 ทุ่ม
คำพูดสุดท้ายของหมอกุ้ดเด้น ยังเป็นปริศนาในการตีความว่า หมอไม่ต้องการให้ทหารผู้ติดตาม ร่วมเดินไปด้วย หรือ ให้ทหารติดตามเดินตามไปห่างๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเลยเวลา 2 ทุ่มไปแล้ว พระเจ้า ลุดวิกที่ 2 และ หมดกุ้ดเด้น มิได้กลับมา ทหารจึงได้ออกตามหา และพบศพของทั้งสองจมน้ำอยู่
นาฬิกาของ พระเจ้าลุดวิกที่ 2 หยุดเดินตอนเวลา 18.54 น. คาดหมายว่า พระองค์น่าจะสิ้นพระชนม์ประมาณเวลานี้ แต่ไม่มีใครทราบสาเหตุการตายที่แท้จริง
มีคำประกาศของทางราชการว่า พระองค์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดน้ำ แต่ก็ขัดความจริงที่ว่า บริเวณนั้น น้ำลึกเพียงแค่เอว และ พระเจ้าลุดวิก ทรงเป็นนักว่ายน้ำตัวยง
บ้างก็ว่า พระองค์ถูกศัตรูทางการเมืองลอบสังหาร หรือ พระองค์ถูกสังหารในระหว่างที่พยายามหนี แต่บางกระแสก็บอกว่า พระองค์หัวใจวาย หรือ ไม่ก็เส้นเลือดในสมองแตกระหว่างพยายามหนี
ทุกอย่างยังเป็นความลับดำมืดจนทุกวันนี้
พระนางอลิธซาเบธ ซีซี แห่งออเสตรีย ได้มีบันทึกว่า พระเจ้าลุดวิก ที่ 2 มิได้เป็นบ้า เพียงแต่พระองค์มีวิถีชีวิตที่ค่อนข้างประหลาดในโลกแห่งความฝันของพระองค์ พวกเขาน่าจะปฎิบัติต่อพระองค์อ่อนโยนกว่านี้ ซึ่งอาจจะช่วยให้จุดจบของพระองค์ไม่เลวร้ายเท่านี้ก็ได้
สัปดาห์หน้า ผมจะพูดถึงพระราชวังทั้งสาม ของพระองค์ครับ (ภาพทั้งหมดจาก วิพิพีเดีย)
(เชิญติดตามอ่านบทความ ดูดวงออนไลน์ ที่ผมเขียนใน แนวหน้าดอทคอม นี้ด้วย ในนามปากกา “ธรรมาธิปติ”)