“ชีวิตเหมือนฝัน คุณหญิงมณี”จากเด็กไร้บ้าน มาเป็นสะใภ้หลวง(ตอน 5)

ซอกซอนตะลอนไป                           (30 ตุลาคม 2558 )

“ชีวิตเหมือนฝัน คุณหญิงมณี”จากเด็กไร้บ้าน มาเป็นสะใภ้หลวง(ตอน 5)

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               ชีวิตที่พลิกผัน จนเป็น “ชีวิตเหมือนฝัน” ของคุณหญิงมณี  เริ่มต้นเมื่อเรือแอร์เรีย ถอยออกจากท่าเรือประเทศไทย  ปลายทางที่ประเทศอังกฤษ  ที่อยู่ไกลเหมือนคนละโลกในความรู้สึกของคนยุคนั้น 

               นางสาวมณี บุนนาค ต้องพลัดพรากจากมารดาอีกครั้ง   แต่ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน  เพราะครั้งก่อนเธออายุเพียง 12 ขวบ  ขณะนี้เธออายุ 19 ปี   

               ตอนพลัดพรากครั้งนั้น  เธอเป็นเพียงเด็กหญิง   แต่คราวนี้เธอเป็นนางสาว 

               เป็นช่วงเวลาที่เมืองไทยกำลังเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง  ทั้งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองการปกครอง  และการเปลี่ยนแปลงทางสังคมวัฒนธรรม

               นั่นคือปี พ.ศ. 2478  

               เรือแอร์เรีย ใช้เวลา 8 สัปดาห์ ก็นำนางสาวมณี มาเทียบท่า TILBURY DOCKS ประเทศอังกฤษ   โลกใหม่ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอไปอย่างสิ้นเชิง


(นางสาวมณี  ในอังกฤษ)

               เธอเข้าพักในบ้านพักของมิสเตอร์คาร์ดิว ผู้ดูแลนักเรียนไทยในอังกฤษ บ้านหลังนี้อยู่ที่ตำบลเบคเคนแฮม(BECKENHAM) ห่างจากลอนดอน 30 นาทีโดยทางรถไฟ   ในบ้านหลังนี้  มีนักเรียนทุนจากประเทศไทยอีก 3 คนพักรวมอยู่ด้วย  

               สองคนแรก คือ คุณเครือ  และ คุณเพิ่ม เรียนแพทย์  อีกคนหนึ่ง คือคุณประยูร เรียนทางด้านสมุห์บัญชี


(ทั้งสามภาพข้างบน  เดาเอาว่าน่าจะเป็นช่วงที่นางสาวมณีไปถึงลอนดอนใหม่   แต่ไม่สามารถยืนยันได้)

               ด้วยความที่เป็นผู้หญิงธรรมดาสามัญคนแรกที่สอบชิงทุน กพ. มาเรียนในอังกฤษได้  จึงทำให้นักเรียนทุนในอังกฤษกระหายที่จะพบตัวนางสาวมณี  เพื่อจะดูว่า เธอจะฉลาด และ สวย ขนาดไหน 

               ขณะนั้น  มีประเพณีของนักเรียนไทยที่จะพบกันทุกวันเสาร์ต้นเดือนที่ร้านอาหารจีนที่ถนนชาริง ครอส (CHARING CROSS)  ที่นี่จึงกลายเป็นที่เปิดตัวนางสาวมณี  ทำให้เธอเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักเรียนทั้งหลาย   โดยเฉพาะนักเรียนชาย  

               มีผู้อาสาพาเธอเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ และ อาสาพาเธอไปทานอาหารเที่ยงทุกวันมิได้ขาด  หนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ  คุณสม พี่ของคุณสาน ทั้งคู่มาเรียนที่อังกฤษตั้งแต่เด็ก  และตอนนั้นก็เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์

               เมื่อผมลองตรวจดูดวงชะตาแล้วก็เห็นว่า  คุณหญิงมณี ท่านเป็นผู้หญิงเจ้าเสน่ห์จริงๆ


(ดวงชะตาของคุณหญิงมณี)

               คุณสม อาสาพาเธอนั่งรถยนต์ไปทานอาหาร  และไปเที่ยว   แต่เขาก็รู้สึกผิดหวังในตัวนางสาวมณีเป็นอย่างมาก  จึงลาขาดหายไป  ด้วยเหตุผลที่คุณหญิงมณีได้เขียนเอาไว้อย่างน่าขันมาก  ประมาณว่า  ห้องน้ำทำพิษ  

               ลองไปหาอ่านดูนะครับ    

               นางสาวมณี เลือกที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด  ซึ่งการจะเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้  เป็นเรื่องยากลำบากกว่าการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอื่นๆของอังกฤษ 

               ที่ว่ายากก็เพราะว่า  เธอจะต้องสอบ เรสพอนชั่น (RESPONSION) ให้ได้เสียก่อน  จึงจะมีสิทธิเข้าสอบเอ็นทรานส์ เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด

               ผมเข้าใจเอาเองว่า  การเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยอื่นคงไม่ต้องผ่านการสอบ เรสพอนชั่น 

               แต่ละปี  จะเปิดให้มีการสอบ เรสพอนชั่น 4 หน  วิชาที่สอบก็คือ  เลข  ภาษาฝรั่งเศส  ภาษาอังกฤษ  และ ภาษาต่างประเทศอีก 1 ภาษา  เช่น ภาษาอิตาเลียน  หรือ  เยอรมัน หรือ  สเปน หรือ อาระบิค   

               วิชาเลข เป็นวิชาที่นางสาวมณีอ่อนที่สุด   แต่ด้วยความเป็นหญิงเจ้าเสน่ห์  ทั้งคุณเครือ และ คุณเพิ่ม  สองหนุ่มนักเรียนแพทย์ที่พักอยู่ในบ้านเดียวกันก็อาสาจะช่วยติวเลขให้เธอ   ซึ่งคุณหญิงมณีได้เขียนสำนึกในความกรุณาของคนทั้งสองที่ช่วยติววิชาเลขให้แก่ตนเองในหนังสือนี้ด้วย   

               มิสเตอร์คาร์ดิว ให้เธอเลือกเรียนภาษาเยอรมัน  เพราะคาดการณ์ว่า  น่าจะใช้เวลาเรียนไม่เกิน 1 ปี  และข้อสอบวิชาเยอรมันไม่ยากเกินไป  

               6 เดือนของการมาอยู่ในอังกฤษ  และ  หลังจากการเรียนพิเศษ และ ติวเลขโดยนักเรียนไทย 2 คน   นางสาวมณี ก็เข้าสอบเรสพอนชั่น 3 วิชาแรก คือ เลข  ภาษาฝรั่งเศส  ภาษาอังกฤษ   ผลปรากฏว่า  เธอสอบผ่านทั้ง 3 วิชา

               จากนั้น   เธอก็เดินทางไปเมืองบอนน์ ของเยอรมัน เพื่อศึกษาวิชาภาษาเยอรมัน กับ ศาสตราจารย์ ชมิท และพำนักในบ้านของศาสตราจารย์ชมิทด้วย  

               ศาสตร์จารย์ชมิท เป็นชาวยิว  

               นั่นคือปีพ.ศ. 2479  เป็นช่วงที่พรรคนาซีเริ่มมีบทบาททางการเมืองในเยอรมัน ภายใต้การนำของ อะดอล์ฟ ฮิตเลอร์   และเริ่มวางแผนที่จะกวาดล้างชนชาวยิวให้หมดสิ้นไปจากเยอรมัน

               สิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ก็คือ   การให้รายละเอียดทั้งของสถานที่   ผู้คน  และ สภาพสังคมในยุคนั้นได้อย่างละเอียดละอออย่างมาก   ทั้งๆที่ตอนที่คุณหญิงมณีเขียนหนังสือเล่มนี้  ท่านมีอายุประมาณ 80 ปีแล้ว   


(หนังสือ  ชีวิตเหมือนฝัน คุณหญิงมณี สิริวรสาร)

               คุณหญิงมณี ได้เขียนบรรยายสภาพของชาวอังกฤษในยุคนั้นเอาไว้ว่า

               ชาวอังกฤษไม่ว่าจะชนชั้นใด  วัยใด ไม่ว่ารวยหรือจน  ต่างก็นิยมการเล่นกีฬาทุกชนิดเป็นชีวิตจิตใจ   ซึ่งคนไทยในสมัยนั้นไม่นิยมเล่นกัน 

               เช่นเดียวกับที่  นักเรียนในสมัยนั้นของไทย  ไม่ค่อยสนใจเกี่ยวกับเรื่องการบ้านการเมืองเลย  ผิดกันกับสังคมของชาวอังกฤษในสมัยนั้น   ที่สนใจในเรื่องการบ้านการเมืองอย่างยิ่ง 

               แต่ผมว่า   แม้กระทั่งวันนี้ก็ตาม   นักศึกษาไทยก็ยังวนเวียนสนใจอยู่แต่กับเรื่องแฟชั่น และ ดาราเป็นหลัก  มิได้มีความสนใจเรื่องการบ้านการเมืองเลยแม้แต่น้อย 

               แล้วประเทศไทยจะไปทางไหนดี

               พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ

สำหรับท่านที่ต้องการซื้อหนังสือชุดนี้  โปรดติดต่อเบอร์   099 425 9112  คุณเพชรชมพู  รายได้จากการจำหน่ายหนังสือจะเข้ามูลนิธิ มณี สิริวรสาร  เพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่ยากจน 

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , , .

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *