ซอกซอนตะลอนไป (7 พฤศจิกายน 2557)
การบินไทย สายการบินแห่งชาติ(อะไร)(ตอน 2)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
สโลแกนของสายการบินไทย ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกก็คือ SMOOTH AS SILK
ต้องยอมรับว่า การที่สายการบินไทยเจริญเติบโต มีชื่อเสียงได้รับการยอมรับจากทั่วโลกมาเป็นเวลาช้านานนั้น เป็นผลจากการทำงานอย่างตั้งใจ ทุ่มเท และเหน็ดเหนื่อยของพนักงานทุกฝ่าย ตามแนวทางของบริษัท จนกระทั่งกลายเป็นสายการบินที่ถูกจัดวางให้เป็นสายการบินที่ดีที่สุดของโลก
เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่สิ่งเหล่านี้ ไม่เหลืออยู่ในภาพพจน์ของสายการบินไทยในปัจจุบันเลย
เรื่องอาหารก็เป็นเหตุผลหนึ่ง ในหลายๆเหตุผล ที่ทำให้สายการบินไทยเสื่อมทรุดลงอย่างรวดเร็ว
นอกจากการไม่พยายามแสดงความเป็นไทย ด้วยการเสริฟอาหารไทยบนเครื่องบินแล้ว คุณภาพของอาหารที่เสริฟ ก็ยังต่ำกว่ามาตรฐานอีกด้วย
สักประมาณ 4 – 5 ปีที่แล้ว ผมบินไปโอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์โดยชั้นธุรกิจ อาหารจานร้อนที่การบินไทยเสริฟ ก็คือ ปลาทอดราดซ้อสเปรี้ยวหวาน กับ ข้าวสวย ซึ่งบอกไม่ได้เลยว่า เป็นอาหารไทย หรือเป็นอาหารของชาติไหน
แต่ดูท่าแล้วน่าจะเป็นอาหารจีนมากกว่า
หลังจากนั้นอีก 1 สัปดาห์ ผมบินไปเดลลี ประเทศอินเดีย ด้วยสายการบินเจ็ท แอร์ ในชั้นประหยัด ย้ำนำครับว่า ในชั้นประหยัด
สิ่งที่น่าตกใจก็คือ ผมได้ทานอาหารจานร้อนในชั้นประหยัดของสายการบินเจ็ท แอร์ จานเดียวกัน หน้าตาเดียวกัน และ รสชาติเดียวกันกับที่ได้ทานในชั้นธุรกิจของสายการบินไทยทุกประการ
สโลแกน SMOOTH AS SILK คงไม่ได้หมายถึง เครื่องบินที่บินนิ่มเหมือนผ้าไหม เพราะตัวเครื่องบินก็ยี่ห้อเดียวกันทั้งโลก แต่น่าจะหมายถึง การบริการทุกอย่างของสายการบินที่นุ่มนวลอ่อนโยน และ เอาใจใส่อย่างจริงใจเสมือนถูกห่มด้วยผ้าไหมมากกว่า
เพราะสิ่งที่ห่มให้แก่ผู้โดยสายนั้นก็คือ วัฒนธรรมแห่งความเป็นไทย ไม่ว่าจะเป็นประเพณีการต้อนรับขับสู้ การเอาใจใส่ (แบบที่การบินไทยโฆษณาว่า พนักงานต้อนรับเอาผ้าห่มมาห่มให้กับผู้โดยสารที่นอนหลับไปแล้ว) มารยาทอันดีงามแบบไทยๆ และ อาหารแบบไทยๆ ที่ทั่วโลกให้การยอมรับด้วย
แต่เชื่อมั้ยครับ บางไฟล์ทของการบินไทย พยายามเปิดแอร์ด้วยอุณหภูมิสูงจนร้อน ผู้โดยสารนอนไม่ได้ ถามได้ความว่า ที่ต้องเปิดแอร์ให้ร้อนเพราะต้องการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากไม่ต้องการจะเอาผ้าห่มขึ้นเครื่องบินให้มาก เพราะต้องการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ในเมื่อนโยบายของรัฐบาลหลายรัฐบาลเน้นย้ำในเรื่อง ครัวไทยไปครัวโลก ก็น่าที่การบินไทย จะเป็นผู้นำร่องในเรื่องอาหารไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ไม่เคยชิมอาหารไทย จะได้มีโอกาสชิมอาหารไทยที่มีรสชาติแบบไทยแท้จริงๆ
เพราะในปัจจุบัน มีร้านอาหารไทยมากมายที่เปิดต่างต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในยุโรป หรือ อเมริกา ประกาศตนว่า เป็นร้านอาหารไทยแท้ๆ ทั้งๆที่ขายอาหารเวียตนาม หรือ อาหารลาวเป็นหลัก
และพ่อครัวก็ไม่ใช่คนไทยเสียด้วย
เมื่อชาวต่างชาติที่ไม่เคยเดินทางมาประเทศไทย แต่ได้รับคำบอกเล่าจากเพื่อนฝูงมากมายว่า อาหารไทยอร่อยมาก ลองเข้าไปชิมอาหารในร้านอาหารไทยเหล่านี้ ก็ต้องพบกับความผิดหวัง
จนทำให้คิดว่า อาหารไทยที่ขึ้นชื่อลือชาว่าอร่อยนักหนา รสชาติไม่ได้เรื่องแบบนี้หรือ
อาหารไทยที่อร่อยๆที่การบินไทยสามารถนำขึ้นไปเสริฟบนเครื่องได้ ไม่ว่าจะเป็น ผัดไทยกุ้งสด ที่คนต่างชาติชื่นชอบนักหนา ต้มยำกุ้ง ที่คนต่างๆชาติทุกคนจะต้องรู้จักทั้งในแง่อาหาร และ พิษสงร้ายกาจทางเศรษฐกิจเมื่อปีพ.ศ. 2540
ไก่ย่างส้มตำ ก็เป็นอาหารที่อร่อยมากอีกอย่างหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกชอบกันมาก ห่อหมกที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยที่ไม่มีใครเหมือน ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ที่แม้ประเทศเพื่อนบ้านจะมีก๋วยเตี๋ยวเช่นกัน แต่ก็ทำรสชาตินี้ไม่ได้
แกงส้ม หรือ แกงเหลืองปลากะพง ใส่ในถ้วยเล็กๆแยกออกจากข้าวสวยก็สามารถประกาศให้คนต่างชาติรู้ว่า นี่คืออาหารไทยของพื้นที่ภาคใต้ หรือแม้แต่ บะหมี่แห้ง หรือ บะหมี่น้ำต้มยำ อาหารพื้นๆเสริฟง่ายดายยิ่งบนเครื่องบิน
อาหารไทยเหล่านี้ การบินไทยจะต้องเสริฟ แบบรสชาติเข้มข้มในแบบไทยแท้ แต่ไม่จำเป็นต้องเผ็ด คนที่ได้ลองอาหารไทยบนเครื่องของสายการบินไทย สายการบินแห่งชาติ จะได้รู้ว่า รสชาติที่แท้จริงของอาหารไทยจะต้องเป็นแบบนี้
ถ้าจะอ้างว่า ฝรั่งไม่ชอบรสชาติอาหารไทยละก้อ ก็ไม่ควรจะทำโครงการ ครัวไทยไปครัวโลก อีกต่อไป
ก่อนจะจบ อดไม่ได้ที่จะพูดถึงความใส่ใจของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เพราะสังเกตเห็นว่า เจ้าหน้าที่สายการบินไทยรุ่นใหม่ๆขี้เกียจตัวเป็นขนจริงๆ
ผมนั่งเครื่องการบินไทยกลับจากฮ๊อกไกโด เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา บนเครื่องบินมีพนักงานต้อนรับที่เป็นชาวญี่ปุ่นอยู่ 2 คนร่วมบริการมาด้วย เข้าใจว่า เพื่อเอาไว้บริการผู้โดยสารชาวญี่ปุ่นที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ฟังภาษาไทยก็ไม่เป็น
ที่อดไม่ได้จนต้องเอามาพูดก็คือ ตลอดเวลาที่บินประมาณ 7 ชั่วโมง มีแต่เจ้าหน้าที่ต้อนรับที่เป็นชาวญี่ปุ่น 2 คนที่เดินให้บริการเสริฟเครื่องดื่มผู้โดยสารทั้งลำอยู่เท่านั้น พนักงานคนไทยไม่รู้ไปไหนกันหมด
ที่แย่ก็คือ ทีวีที่ให้บริการแต่ละที่นั่งก็เสียหายใช้การไม่ได้อีกเกือบครึ่งลำ ก็ได้พนักงานบริการชาวญี่ปุ่นนี่แหละ ที่คอยวิ่งไปวิ่งมาช่วยแก้ไข รีเซ็ตเครื่องให้ แต่จนแล้วจนรอดก็ใช้งานไม่ได้อยู่ดี
มิน่า นายแพทย์ ประเสริฐ ปราสาททองโอสถ ถึงได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การบริการของพนักงานต้อนรับของการบินไทย จนพนักงานการบินไทยออกมาโวยวายว่า จะเอาหวงหรีดไปประท้วง
นี่ยังไม่ได้พูดถึงวิธีการไหว้ของพนักงานต้อนรับที่ไหว้เหมือนไม่เต็มใจ อย่างหนักงานชายบนเที่ยวบินจากฮ๊อกไกโด เที่ยวบินเดียวกันนี้ ยืนไขว้ขาแบบไข่วห้างไหว้ผู้โดยสารตอนลงจากเครื่อง
ก็ไม่รู้ว่า เจ้าประคุณรุนช่องผ่านการอบรมมาได้อย่างไร
คราวหน้าแนะนำให้ไปหลบในห้องน้ำ อย่าเสนอหน้ามาทำท่าบัดซบทำร้ายวัฒนธรรมไทยอีกเลย