ซอกซอนตะลอนไป (3 มกราคม 2557)
กินตามรอย ซากัส ใน ลาส เวกัส
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
เสร็จจากการดูโชว์ และ ช้อปปิ้งในลาส เวกัส แล้ว ผมก็ขอนำท่านไปทานอาหารกันครับ
ในอเมริกา อาหารฝรั่งก็งั้นๆ อาหารจีนถ้าไม่เข้าร้านที่ดีจริง ก็ไม่ค่อยถูกลิ้นกับคนไทยเท่าไหร่นัก ก็เลยขอนำท่านผู้อ่านไปชิมอาหารไทยที่ได้รับการยอมรับจากหลากหลายสถาบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซากัส เซอร์เวย์ (ZAGAT SURVEY) หรือเรียกสั้นๆว่า ซากัส
ร้านที่ผมจะแนะนำก็คือ ร้านอาชี่ ครัวไทย ARCHI’S THAI KITCHEN ซึ่งตั้งอยู่ที่ 6360 W FLAMINGO Rd ., Ste A LAS VEGAS , NV 89103
ท่านผู้อ่านอาจจะถามว่า อะไรคือ ซากัส
ซากัส เป็นองค์กรที่เน้นการตรวจสอบคุณภาพของสินค้าประเภทอาหาร หรือ พูดง่ายๆก็คือ องค์กรที่จัดคนไปชิมอาหารตามร้านอาหารแล้วมาบอกผู้คนว่า ร้านไหนมีคุณภาพดีแค่ไหน
ซากัส เริ่มต้นมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1979 หรือ เมื่อ 34 ปีที่แล้ว เมื่อ นินา(NINA) กับ ทิม ซากัส(TIM ZAGAT) สามีภรรยารับประทานอาหารค่ำกับเพื่อนๆ ระหว่างทานอาหาร เพื่อนคนหนึ่งได้วิจารณ์บทความชิมอาหารในหนังสือพิมพ์ใหญ่ ซึ่งส่วนมาก แนะนำอาหารแบบไม่ค่อยตรงกับความจริง
ทิมก็เลยจัดตั้งกลุ่มคนจำนวน 200 คน ช่วยกันเขียนบทวิจารณ์เกี่ยวกับรสชาตอาหาร บรรยากาศของร้าน และการบริการของร้านอาอาหารขึ้นมาเป็นจำนวน 100 ร้าน คน 200 ล้วนเป็นอาสาสมัครทั้งสิ้น
จากนั้น ทิมก็จัดพิมพ์บทความแนะนำร้านอาหารจำนาน 100 ร้านที่ว่านี้ออกเผยแพร่ และได้รับความนิยมจากประชาชนเรื่อยมา จนกลายมาเป็นองค์การที่ได้รับความเชื่อถือไปทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา
และด้วยวิธีการที่รับเอาความเห็นของนักท่องเที่ยวทั่วไปมาประกอบการจัดอันดับร้านอาหาร ทำให้ซากัส ได้รับความเชื่อถือจากนักเดินทางทั่วโลกที่จะไปรับประทานอาหารตามร้านที่ ซากัส แนะนำ
สำนักข่าวเอพีตั้งฉายาให้ ซากัส ว่า “เป็นคู่มือแนะนำการท่องเที่ยว และ อาหารที่ทรงอิทธิพลของโลก”
ในขณะที่หนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์ระบุว่า “ซากัส เป็นสิ่งสำคัญจำเป็นที่สุดของนักเดินทาง รองลงมาจากบัตรเครดิตเท่านั้น”
ร้านอาชี่ ได้รับรางวัลจาก ซากัส มาตั้งแต่ปีค.ศ. 2005 ทุกปีเรื่อยมาจนกระทั่งปีค.ศ. 2012 นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลจากสถาบันอื่นๆอีกหลายรางวัล เช่น มิเชลิน และรางวัลจากสื่อท้องถิ่น
เมื่อมาถึง ลาส เวกัส ก็ต้องลองมาชิมดูหน่อย
แน่นอนว่า ก็ต้องขอลอง ผัดไทย ของอาชี่ดู ปรากฏว่าไม่ผิดหวังเลย เพราะรสชาตเปรี้ยวจัดจ้านกำลังดี และมีรสหวานตาม สอบถามได้ความว่า พ่อครัวของเขาปรุงน้ำมะขามเปียกขึ้นมาเองอย่างเข้มข้น โดยสั่งวัตถุดิบโดยตรงมาจากเมืองไทย ไม่ได้ใช้น้ำมะขามเปียกแบบกระป๋องแบบร้านทั่วไป
ผมคิดว่า ผัดไทยที่ผมทานที่ร้านอาชี ดีกว่าผัดไทยส่วนใหญ่ที่ทานในเมืองไทย หรือ แม้แต่ผัดไทยที่ขายกันในโรงแรม 5 ดาวในเมืองไทยด้วย
จากนั้นก็ลองสั่ง หมูผัดกระเพราะ มาลองอีกจาน รสชาตเผ็ดแบบไทยๆดี ไม่ใช่ประเภททำให้ฝรั่งทาน
อีกจานที่อร่อย และพนักเงินเสริฟแนะนำก็คือ หอยนางรมทอดกรอบ แม้ว่าจะไม่ได้เสริฟมาในจานเหล็กร้อน แต่ก็กรอบอร่อย
ที่อร่อยอีกจานหนึ่งของร้านก็คือ หมูผัดพริกขิง ซึ่งก็เข้มข้นแบบไทยๆเหมือนกัน
ปิดท้ายด้วย เย็นตาโฟทะเล ที่ช่วยทำให้ทานอาหารคล่องคอ และ ซู้ดซ๊าดด้วยความอร่อย
อาหารแทบทุกจานราคาจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8-9 เหรียญอเมริกา คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 250 ถึง 280 บาทเท่านั้น ซึ่งหากเทียบตามปริมาณ และ อัตราค่าครองชีพแล้ว ถือว่าราคาถูกกว่าค่าอาหารในประเทศไทยมากมายเหลือเกิน
วันหลังจะเอาเรื่องราคาอาหารในอเมริกามาคุยเปรียบเทียบกับราคาอาหารในเมืองไทยดูซะที
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ