ซาลส์คามเมอร์กุต – กำเนิดของเจ้าชายเกลือ

ซอกซอนตะลอนไป   (13 กันยายน 2556)

ซาลส์คามเมอร์กุต  –  กำเนิดของเจ้าชายเกลือ

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ 

               เมื่อประมาณ20ปีกว่าปีที่แล้ว   ผมทำโปรแกรมท่องเที่ยว ออสเตรีย-ชาเลต์ แอนด์ เลค  และนำนักท่องเที่ยวไปพักที่หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งที่สวยงามราวกับภาพในปฎิทิน

หมู่บ้านนี้มีเสน่ห์ตรงที่อยู่ติดกับภูเขาสูง  และอยู่ริมทะเลสาบที่ใสราวกระจก  ทะเลสาบแห่งนี้มีชื่อว่า   ทะเลสาบ เซนต์ วูลฟ์กัง

หมู่บ้านเซนต์ วูลฟ์กัง เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่มีประชากรแค่พันกว่าคน   แต่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวแต่ละปีนับแสนๆคน   ทั้งนี้เพราะความสงบ  ความสวยงาม  ความน่ารัก  และความสะอาด ของหมู่บ้านและทะเลสาบแห่งนี้

ทะเลสาบแห่งนี้  อยู่ในอาณาเขตที่เรียกขานมานานว่า  ซัลส์คามเมอร์กุต(THE SALZKAMMERGUT)  ซึ่งแปลว่า  เหมืองเกลือของราชสำนัก

ทั้งนี้เพราะในพื้นที่แถบนี้มีแหล่งทำเหมืองเกลือมาช้านาน   และได้รับการยกระดับให้เป็น  เหมืองเกลือของราชสำนักในสมัยของราชวงศ์ฮับสเบิร์ก  

เพราะแต่โบราณกาล  ถือกันว่า  เกลือเป็นสินค้ายุทธปัจจัย  ผู้มีอำนาจไม่ว่ายุคสมัยใดก็ตาม  จะเข้ามายึดครองเป็นของตนเอง   

ท่านผู้อ่านอาจจะสงสัยว่า  ประเทศออสเตรีย เป็นประเทศที่อยู่ในเทือกเขาแอลป์(THE ALPS) เป็นประเทศที่ไม่มีพื้นที่ใดติดทะเลเลย    ทำไมถึงมีแหล่งเหมืองเกลือได้

นักธรณีวิทยามีข้อสันนิษฐานว่า   โลกเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน   พื้นที่เทือกเขาแอลป์เหล่านี้เคยอยู่ใต้ทะเลมาก่อน    เมื่อเวลาผ่านไป   เปลือกโลกถูกดันตัวให้โก่งตัวขึ้นมาเป็นภูเขา 

ตอนโก่งตัวขึ้นมานี้   เปลือกโลกดังกล่าวได้อุ้มเอาน้ำทะเล พร้อมด้วยเศษหินดินทรายใต้ทะเลจำนวนมากขึ้นมาด้วย   เมื่อน้ำทะเลแห้งไป  เศษหินดินทรายเหล่านี้ก็กลายไปเป็นส่วนหนึ่งของภูเขาแอลป์

จึงกลายเป็นเหมืองเกลือที่สามารถทำกันเป็นล่ำเป็นสันมาตั้งแต่เมื่อ 2 พันปีที่แล้วตราบจนทุกวันนี้

นอกจากเซนต์ วูลฟ์กัง แล้ว   หมู่บ้านที่น่าชมอีกหมู่บ้านหนึ่งก็คือ  บาด อิชเชิล (BAD ISCHL)  ซึ่งห่างออกไปเพียงสิบกว่ากิโลเมตรเท่านั้น 

บาด อิชเชิล  เป็นเมืองตากอากาศของบรรดาไฮโซ ของออสเตรียมาไม่น้อยกว่า 200 ปีแล้ว   ตั้งอยู่ริมแม่น้ำทรอน (TRAUN RIVER) ซึ่งเชื่อมทะเลสาบเซนต์ วูลฟ์กัง กับ ทะเลสาบทรอน

บาด อิชเชิล มีความสำคัญต่อราชวงศ์ฮับส์เบิร์ก(THE HABSBURG) ซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้ายของออสเตรียมาก  เพราะเป็นเมืองที่ทำให้ออสเตรียได้มาซึ่ง จักรพรรดิที่มีพระนามว่า  จักรพรรดิ ฟร้านซ์ โจเซฟ  ที่ 1 (EMPEROR FRANZ JOSEPH)  

พระราชบิดาของ ฟร้านซ์ โจเซฟ ก็คือ อาร์ค ดยุค ฟร้านซ์ คาร์ล (ARCHDUKE FRANZ KARL)  ซึ่งเป็นน้องชายของจักรพรรดิเฟอร์ดินานด์(EMPEROR FERDINAND)     แต่เนื่องจาก  จักรพรรดิเฟอร์ดินานด์ มีสุขภาพอ่อนแอ  และไม่มีโอรส

ดังนั้น  ภาระการหาทายาทเพื่อสืบทอดราชบัลลังก์ฮับส์เบิร์ก  จึงตกแก่อาร์ค ดยุค ฟร้านซ์ คาร์ล กับเจ้าหญิงโซฟี แห่งบาวาเรีย(PRINCESS SOPHIE OF BAVARIA) ผู้เป็นมเหสี  

หลังจากสมรสกันมานานหลายปีดีดัก  แต่ก็ยังไม่มีลูก  อาร์ค ดยุค ฟร้านซ์ คาร์ล จึงพยายามเสาะหาหมอมารักษาอาการมีลูกยากนี้   ในที่สุดก็มีคนแนะนำให้ไปหานายแพทย์เพื่อรักษาการมีลูกยาก   ด้วยการให้ฝ่ายหญิงแช่น้ำเกลือ ที่เมือง บาด อิชเชิล

ขณะนั้น   การรักษาโรคด้วยน้ำเกลือกำลังได้รับความนิยมอย่างมากจากบรรดาไฮโซของออสเตรีย

หลังจากนั้นไม่นาน  มเหสีของอาร์ค ดยุค ฟร้านซ์ คาร์ล ก็ตั้งท้อง  และให้กำเนิดบุตรชายที่รู้จักกันในนาม จักรพรรดิ ฟร้านซ์ โจเซฟ ที่ 1 ในเวลาต่อมา

ด้วยเหตุนี้   จักรพรรดิ ฟร้านซ์ โจเซฟ ที่ 1  จึงมีฉายาว่า  เจ้าชายเกลือ

เรื่องราวของฟร้าน โจเซฟ กับ บาด อิชเชิล  ยังไม่จบแค่นั้น  

จักรพรรดิ ฟร้านซ์ โจเซฟ ขึ้นครองราชย์ในปีค.ศ. 1848  ขณะพระชนมายุ 18 ชันษา   ราชสำนักพยายามที่ให้พระองค์มีรัชทายาทให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อรับประกันการสืบทอดราชบัลลังก์   

มารดาของพระองค์พยายามรวบรัดให้พระองค์อภิเษกกับ เจ้าหญิงเฮเลน แห่งบาวาเรีย(PRINCESS HELENE) ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน  เพราะเป็นธิดาที่เกิดจากน้องสาวของมารดาของพระองค์นั่นเอง

แต่ทำไปทำมา   ฟร้านซ โจเซฟ  กลับเลือกเอาน้องสาวของเฮเลน แทน 

ว่ากันว่า   สถานที่ที่จักรพรรดิ ฟร้านซ โจเซฟ ได้พบกับเจ้าสาวของพระองค์เป็นครั้งแรกก็คือ  เมืองบาด อิชเชิล    และเมื่อทำพิธีหมั้น   ก็กระทำกันที่บาด อิชเชิล นี่เอง

เจ้าสาวองค์นั้น  เป็นหญิงสาวที่ได้รับการขนานนามว่า   หญิงสาวที่สวยที่สุดในโลก   มีนามว่า  อลิซาเบธ(ELISABETH) มีฉายาว่า “ซีซี” (SISI)

ขณะเข้าพิธีอภิเษกสมรส   อลิซาเบธ ซีซี  มีพระชนมายุเพียง 16 ชันษาเท่านั้น   

โอกาสหน้า  จะนำเรื่องราวความรักของทั้งสองพระองค์มาเล่าสู่กันฟังครับ   ตอนนี้ดูภาพของหมู่บ้าน  บาด อิชเชิลไปก่อนครับ